กรมอนามัย ชูเมนูไร้พุง

กรมอนามัย ชูเมนูไร้พุง

กรมอนามัย ชูเมนูไร้พุง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมต.-ส.ส.-ส.ว.พุงปลิ้น กรมอนามัย ชูเมนูอาหารไทยไร้พุง สูตร 2:1:1 ลดอ้วน เอื้อต่อการมีสุขภาพดี

วันนี้(1 ก.ย.) นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา กรมอนามัยร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ รพ. รามาธิบดี ได้ทำการ วัดรอบเอวของ ครม.บางท่าน รวมทั้ง ส.ส.และ ส.ว. พบว่า เพศชายมีรอบเอวเกินมาตรฐาน คือ เกิน 90 เซนติเมตร ร้อยละ 63 และเพศหญิงมีรอบเอวเกินมาตรฐาน คือ เกิน 80 เซนติเมตร ร้อยละ 83 ซึ่งจัดเป็นภาวะอ้วนลงพุงที่มีไขมันในช่องท้องมากเกินไป มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และระดับไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะหากมีรอบพุงมากยิ่งทำให้เกิดไขมันสะสมในช่องท้องมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งไขมันที่สะสมจะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี เกิดเป็นภาวะอ้วนลงพุง โดยผู้ชายจะมีเส้นรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตรและผู้หญิงเกิน 80 เซนติเมตร

นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรมอนามัยจึงแนะนำวิธี 'กินถูกส่วน 2:1:1' ด้วยการแบ่งจานอาหาร ออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆกันโดย 2 ส่วนหรือครึ่งหนึ่งของจานเป็นผัก อีก 1 ส่วนของจานเป็นกลุ่มอาหารเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง หรือเต้าหู้ และอีก 1 ส่วนของจานที่เหลือเป็นกลุ่มข้าวแป้ง เน้นกินผักให้มาก เพราะผักให้พลังงานน้อย แล้วยังอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ คือ ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส โฟเลท และใยอาหารสูง ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพในการป้องกันโรคและเพิ่มภูมิต้านทานโรค ชะลอความแก่ ขับถ่ายสะดวก แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และที่สำคัญสามารถลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ ควรรับประทานผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง มะม่วง

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า ในการรณรงค์บริโภคอาหารที่ถูกส่วนในปริมาณที่เหมาะสม จะจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ครม. และสื่อมวลชน จะดำเนินการทุกวันอังคารที่ 1 ของเดือน รวม 3 ครั้ง โดยเริ่มวันอังคารที่ 1 ก.ย. 6 ต.ค. และ 3 พ.ย. ณ อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งสำหรับเมนูอาหารไทยไร้พุง หรือ เมนู 2:1:1 ในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. ชุดส้มตำ-ไก่ย่าง จากร้านไก่ย่างพระราม 9 ให้พลังงาน 262 กิโลแคลอรี 2. เกาเหลาเป็ด จากร้านแพท่าจีน จ. นครปฐม ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี 3. ข้าวน้ำพริกลงเรือ จากร้านนวลจันทร์ ให้พลังงาน 325 กิโลแคลอรี 4. ข้าวหมูอบผัก จากร้านนวลจันทร์ ให้พลังงาน 256 กิโลแคลอรี 5. ปลากะพงนึ่งมะนาว ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี 6. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ให้พลังงาน 118 กิโลแคลอรี และ 7. ยำผักหวาน ให้พลังงาน 128 กิโลแคลอรี

นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนที่สนใจเมนูอาหารไร้พุง 2:1:1 นั้น กรมอนามัยได้มีการดำเนินงานเมนูอาหารไทยไร้พุง 2:1:1 ในร้านอาหารตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ประมาณ 200 ร้าน และจะได้มีการขยายร้านอาหารไทยไร้พุงเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงอาหารที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีต่อไป.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook