จี้ ธปท.ทำตามกรอบเงินเฟ้อ 0.5-3%

จี้ ธปท.ทำตามกรอบเงินเฟ้อ 0.5-3%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากครม.อนุมัติการปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานปี 52 จาก 0-3.5% เป็น 0.5-3% แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงต้องกำหนดนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ ที่เป็นฉันทามติจากการหารือร่วมกันของกระทรวงการคลังและ ธปท. แต่ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการชี้นำว่า ธปท. ต้องลดดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์พี) หรือไม่ หลังจากปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานใหม่แล้ว แต่เป็นสิ่งที่ ธปท. จะดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายที่เสนอมา

กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่เป็นเป้าหมายที่ ธปท.เสนอมา โดยที่ ครม. เห็นชอบแล้วก็นำไปสู่ให้ กนง. ต้องกำหนดนโยบายการเงินให้สอดคล้องด้วย

ที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. ถือว่ามีความสอดคล้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เห็นได้ว่า ธปท. ได้ลดดอกเบี้ยอาร์พีมาแล้ว 2.25% สะท้อนถึงมุมมองของ ธปท. ต่อปัญหาเศรษฐกิจ

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ใน ไตรมาส 4/52 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.3% ซึ่งเป็นการหลุดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ที่กำหนดไว้ที่ 0.5-3% เนื่องจากฐานของเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมาอยู่ระดับสูง เพราะเศรษฐกิจขยายตัวและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่ในปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่การใช้จ่ายภายในประเทศยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก และราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะอาจจะสร้างความสับสนให้กับตลาดการเงินได้ นอกจากนี้เชื่อว่าเงินเฟ้อที่หลุดกรอบจะเป็นการชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อหมดระยะเวลามาตรการลดค่าครองชีพประชาชนของรัฐบาลในสิ้นปี 52 เงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

การพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดดอกเบี้ยต้องดูปัจจัยที่กระทบว่าเป็นปัจจัยต่อเนื่องหรือไม่ และมองแนวโน้มเศรษฐกิจ ยอมรับว่าบางครั้งเงินเฟ้ออาจหลุดนอกกรอบไปบ้าง แต่เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นเงินเฟ้อจะปรับเข้ามาได้เอง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook