จี้ ธปท.ทำตามกรอบเงินเฟ้อ 0.5-3%
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่เป็นเป้าหมายที่ ธปท.เสนอมา โดยที่ ครม. เห็นชอบแล้วก็นำไปสู่ให้ กนง. ต้องกำหนดนโยบายการเงินให้สอดคล้องด้วย
ที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. ถือว่ามีความสอดคล้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เห็นได้ว่า ธปท. ได้ลดดอกเบี้ยอาร์พีมาแล้ว 2.25% สะท้อนถึงมุมมองของ ธปท. ต่อปัญหาเศรษฐกิจ
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ใน ไตรมาส 4/52 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.3% ซึ่งเป็นการหลุดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ที่กำหนดไว้ที่ 0.5-3% เนื่องจากฐานของเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมาอยู่ระดับสูง เพราะเศรษฐกิจขยายตัวและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่ในปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่การใช้จ่ายภายในประเทศยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก และราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะอาจจะสร้างความสับสนให้กับตลาดการเงินได้ นอกจากนี้เชื่อว่าเงินเฟ้อที่หลุดกรอบจะเป็นการชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อหมดระยะเวลามาตรการลดค่าครองชีพประชาชนของรัฐบาลในสิ้นปี 52 เงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
การพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดดอกเบี้ยต้องดูปัจจัยที่กระทบว่าเป็นปัจจัยต่อเนื่องหรือไม่ และมองแนวโน้มเศรษฐกิจ ยอมรับว่าบางครั้งเงินเฟ้ออาจหลุดนอกกรอบไปบ้าง แต่เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นเงินเฟ้อจะปรับเข้ามาได้เอง.