คลิปเมธี ต่อย อดิศราช ตั้ง2ข้อหา ดาราเสื้อแดง เมธี บู๊นอกจอ รัวหมัดใส่เจ้าหนี้เพื่อไทย

คลิปเมธี ต่อย อดิศราช ตั้ง2ข้อหา ดาราเสื้อแดง เมธี บู๊นอกจอ รัวหมัดใส่เจ้าหนี้เพื่อไทย

คลิปเมธี ต่อย อดิศราช ตั้ง2ข้อหา ดาราเสื้อแดง เมธี บู๊นอกจอ รัวหมัดใส่เจ้าหนี้เพื่อไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จ่อออกหมายเรียก"เมธี"รับทราบ2ข้อหา เจ้าตัวขอโทษสวมบทบู๊นอกจอชกเจ้าหนี้พรรคเลือดสาด อ้างยอมไม่ได้หยิบพานพุ่มราชินีให้"สมชาย" บอกถ้าใครทำอีกจะเอาอีก ผอ.เลือกตั้งสุราษฎร์ยันไม่เกี่ยว"วรัญชัย" บุกพรรคหวังทวงเงินสื่อเลือกตั้งซ่อมปัดมีเบื้องหลัง

"เมธี"ยอมรับผิดหน้ามืดรัวหมัด เบี่ยงประเด็นเป็น"พานพุ่มราชินี"

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ก.ย. นายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดง-นายแบบ ซึ่งเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงและเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยอยู่บ่อยครั้ง กล่าวในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ถึงกรณีทำร้ายร่างกายนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ธานี พรรคเพื่อไทย หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถ.พระรามสี่ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาถามความคืบหน้าที่พรรค หลังจากสมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้เห็นคนกลุ่มนี้เอาพานพุ่มสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถหน้าที่ทำการพรรคไปให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เลยเข้าไปคุยกับนายอดิศราช ว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไม เขาก็พูดมาแต่ตอนนั้นตนหูอื้อไม่รู้เรื่อง และเห็นว่าเขาไม่สู้ เพราะตนตัวใหญ่กว่า จึงโยนสายไมโครโฟนอ้อมไปด้านหลัง พอเห็นนายอดิศราชกำหมัด จึงนึกว่าจะทำร้ายร่างกาย ตนเลยต้องสั่งสอนซะหน่อย ต่อยออกไปหลายหมัด เพราะตอนนั้นหน้ามืดแล้ว

"ผมเป็นคนแปลก ถ้าเห็นคนไม่สู้ก็จะไม่สู้ แต่พอเจอคนสู้หรือเถียง ผมก็ไม่ยอม" นายเมธีกล่าว

นอกจากนี้นักแสดงหนุ่มยังกล่าวว่า "ผมยอมรับผิดทำร้ายร่างกาย ขอโทษที่ทำร้ายร่างกายพี่ แต่ถ้าใครทำแบบนี้ต่อหน้าผม ผมก็เอาอีก ถ้าใครมาทำอะไรกับพานพุ่มหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระราชินี เพราะผมเทิดทูนในหลวง"

ผอ.ศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ยันไร้เบื้องหลัง หวังแค่ทวงเงิน

ด้านนายอดิศราช กล่าวว่า ได้มาทวงเงินที่พรรคเพื่อไทยค้างจ่ายกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสื่อจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต1 สุราษฎรธานีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีใครในพรรคให้คำตอบได้ จึงได้ยื่นเรื่องให้นายสมชาย จากนั้นจึงได้มาไฮปาร์คหน้าพรรค

อย่างไรก็ตาม นายอดิศราช ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองนำพานพุ่มหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ไปให้นายสมชายแต่อย่างใด ทั้งนี้ไม่มีใครจ้างมา ที่กล่าวไฮปาร์คเพียงเพื่อจะทวงเงินเท่านั้น

 

คลิปเมธี ต่อย อดิศราช จาก MCOT

"เมธี"แจงสวมบทบู๊ชกเจ้าหนี้ทวงเงินหาเสียง อ้างทนไม่ได้"วรัญชัย"หยิบพานพุ่มราชินี

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนายสมชาย แถลงข่าวกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา เสร็จสิ้นลง นายวรัญชัยได้นำพานดอกไม้สักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษาที่วางอยู่หน้าพรรค มามอบให้นายสมชาย โดยระบุว่าเดินทางมาให้กำลังใจนายสมชาย

จากนั้นเมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 กันยายน หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง ถ.พระรามสี่ กลุ่มผู้ประกอบการจัดทำสื่อหาเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดยนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ธานี และนายรังสรรค์ มธุระเมธาวี เลขาศูนย์ พร้อมคณะจำนวน 15 คน นำรถตู้ติดเครื่องขยายเสียง พร้อมแขวนป้ายมีข้อความ"แพ้แล้วหนี้ไม่จ่าย"โดยนายอดิศราช พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อขอทวงเงินที่พรรคเพื่อไทยค้างจ่ายกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสื่อจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต1 สุราษฎรธานีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนายสมพล วิชัยดิษฐ น้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว

นายรังสรรค์ เปิดเผยว่า การว่างจ้างจัดทำสื่อหาเสียงนั้น นส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค เป็นผู้เดินทางไปติดต่อด้วยตัวเอง แต่หลังการเลือกตั้งทางผู้ได้รับว่าจ้างจากพรรคเพื่อไทย ตนพยายามประสานไป นส.สุนีย์ และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายสมพล ให้ดำเนินการจ่ายเงินที่พรรคค้างชำระผู้ประกอบการจำนวนรวมถึง 7 แสนบาท โดยเป็นค่าผลิตป้ายติดรถแห่ โปสเตอร์เล็ก ใบปลิว ค่าเวทีปราศรัยใหญ่ ค่าน้ำ ค่าไฟ จึงทำพวกตนได้รับความเดือดร้อนและต้องมาติดตามทวงหนี้ ซึ่งพวกตนเคยมาทวงถามที่พรรคแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอดิศราช ยืนทวงหนี้อยู่นั้นปรากฎว่านายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดง-นายแบบ ซึ่งเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงและเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยอยู่บ่อยครั้งได้เดินเข้าไปกระชากไมค์และจิ้มเข้าที่หน้าอกซ้ายของนายอิศราช พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า "มาทำแบบนี้ทำไม ใครจ้างมึงมา ถ้ามีปัญหากับใครควรทำเป็นรายบุคคล ไม่ควรมาด่าทั้งพรรค นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่" ซึ่งนายอดิศราชได้ชี้แจงว่า ตนและพวกไม่ได้มาก่อกวนแต่เป็นเจ้าหนี้เพื่อมาทวงเงินเท่านั้น อย่างไรก็ตามปรากฎว่านายเมธี ได้ใช้ไมค์ที่ถือไว้ในมือกระทุ้งเข้าที่ท้องของนายอดิศราชอย่างแรงจำนวน 2 ครั้ง ก่อนจะต่อด้วยหมัดซ้ายเข้าที่หน้านายอดิศราช ทำให้นายอดิศราชร่วงลงไปกองที่ข้างรถ แต่นายเมธียังไม่หยุดได้ตามเข้าไปรัวหมัดเข้าที่ท้องของนายอดิศราชอีกหลายมหมัดจนนายอดิศราชตัวงอก่อนที่จะเซและถอยออกไป ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ของพรรคและประชาชนระแวกนั้น

ข่าวแจ้งว่า จากนั้นนายเมธีได้เดินเข้าพรรคเพื่อไทยและเข้าไปสงบสติอารมณ์ที่ศูนย์สำนักงานปราบโกงของพรรคก่อนที่จะขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนของที่ทำการพรรค นอกจากนี้ยังมีหญิงเลื้อแดงที่ไม่พอใจกลุ่มผู้ทวงหนี้เข้ามาชี้หน้าด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบสภาพของนายอดิศราชที่อยู่ในอาการตกใจ พบว่า มีเลือดไหลออกจากศรีษะ ข้อมือแขนด้านซ้ายมีรอยขูดขีดจนเลือดซิบ และนาฬิกาสูญหายไป 1 เรือน นายอดิศราช กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้เพราะตนช่วยเหลือพรรคมาโดยตลอดแม้ว่าเพิ่งจะเข้ามาดูแลการเลือกตั้งซ่อมสุราษฎรตนก็รักพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเมธี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางรักจำนวน 4 นายมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

นายพิเชษฐ สถิรชวาล รักษาการประธานคณะทำงานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ระหว่างเกิดเรื่อง นายสมพลกำลังเดินทางเพื่อเข้ามาชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายเลือกตั้งตามที่พรรคได้นัดหมาย ในช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย. นี้ หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงไปเคลียร์ปัญหามาครั้งหนึ่งแล้วโดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อนจำนวน 195,000 บาท แต่ส่วนที่เหลือนายสมพลขอเวลาในการเตรียมเอกสารก่อนจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายอีกครั้งให้เรียบร้อย เพราะหลังจากเลือกตั้งจะต้องแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ทางผู้ที่ช่วยหาเสียงก็คงใจร้อน ขณะเดียวกันก็รู้กันอยู่ว่ามีปัญหาเรื่องการเมืองในพื้นที่บ้างเล็กน้อย เพราะคนที่ลงเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายคนที่อยากจะลงในนามพรรคเพื่อไทย


นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ชกต่อย เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค อย่างไรก็ตามหลังจากที่นายพิเชษฐ์ได้ดูเทปบันทึกของช่างภาพโทรทัศน์ก็ได้เปรยกับสื่อมวลชนว่า "นายอดิศราช เป็นเด็กนายภิญญา ช่วยปลอด อดีตส.ว.สุราษฎร์ธานี อย่างนี้มีเรื่องแน่ ที่จริงถ้าผมลงมาเร็วกว่านี้ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพราะผมก็รู้จักกับนายอดิศราชน่าจะพูดคุยกันได้อยู่แล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นเวลา12.00 น.นายเมธี ได้เดินลงมาจากชั้นบนของที่ทำการพรรค โดยก่อนที่นายเมธีจะให้สัมภาษณ์นั้น ได้เดินผ่านผู้สื่อข่าวพร้อมกับชูนิ้วโป้งและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนมองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นตั้งแต่คนกลุ่มดังกล่าวนำพานดอกไม้ไปมอบให้นายสมชาย ก่อนที่จะเดินออกมาโวยวายอยู่ที่หน้าพรรคซึ่งการกระทำแบบนี้ตนยอมไม่ได้ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็ยอมไม่ได้ที่มาทำอะไรกับพานพุ่มหรือพระบรมฉายาลักษณ์และยิ่งได้มาเห็นต่อหน้าต่อตาแบบนี้ยิ่งยอมไม่ได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าทำร้ายร่างกายได้นอกจากนี้ตนพยายามจะโยนไมค์ที่ชายคนดังกล่าวพูดอยู่ทิ้งแต่เขาคงคิดว่าตนจะไปทำร้ายร่างกาย จึงพูดกับเขาว่าจะเอาหรือ และทำท่าเหมือนจะชกตน ตนจึงฮุคซ้ายเข้าไปชายคนดังกล่าวจึงเซไปก่อนที่ตนจะเดินตามมาต่อซ้ำอีกทีหนึ่ง ทั้งนี้ตนไม่ได้อธิบายเรื่องดังกล่าวกับผู้ใหญ่ของพรรค เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพียงแต่ตนเห็นคนทำแบบนี้ไม่ได้เท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนได้เข้ามาสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวจากผู้สื่อข่าวจำนวนมาก โดยบางรายถึงกับอุทานว่า "มันทำอย่างนี้มันโง่หรือมันบ้า พรรคเสียหายหมด"

นางอุไร วิชัยดิษฐ ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 1 ในผู้ที่เดินทางมาทวงเงินที่พรรคยังค้างชำระอยู่ด้วย กล่าวว่า ได้มีการสอบถามกับทางพรรคแล้ว โดยได้รับการชี้แจงว่าพรรคได้โอนเงินจำนวน 4 แสนบาทไปให้กับนายภิญญา ช่วยปลอด อดีตส.ว.สุราษฎร์ธานีแล้ว ซึ่งเมื่อสอบถามไปที่นายภิญญาก็ได้รับการชี้แจงว่า ได้รับเงินมาแล้วจริงและได้จ่ายเป็นค่าป้ายต่างๆไปแล้ว แต่เมื่อสอบถามทางนายอดิศราชกลับได้รับการยืนยันว่าพรรคยังค้างชำระอยู่ ทำให้เกิดความสงสัยว่า เงินจำนวน 4 แสนบาทดังกล่าวหายไปไหน

หลังจากนั้น นายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/4 ถนนตลาดใหม่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เขต 1 จ.สุราษฎร์ธานี และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชนใต้ เข้าพบ พ.ต.ท.ภูมิยศ เหล็กกล้า พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางรัก เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดงดาวร้าย ที่ทำร้ายร่างกาย ขณะที่ไปทวงถามค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดหน้าที่ทำการพรรค ถนนพระรามที่ 4 เขตบางรัก

นายอดิศราช กล่าวว่าการว่า เป็นบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ชนใต้ เพิ่งจะมารับเป็นผู้อำนวยการ.ศูนย์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เขต 1 สุราษฎร์ธานี ก่อนที่จะทำการเลือกตั้ง ตนพูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายสมพล วิชัยดิษฐ์ ผู้สมัคร ซึ่งนายสมพล ขอร้องให้ช่วยจึงถามกลับว่า จะสู้จริงหรือไม่ เพราะพื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ฐานเสียง ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรับการยืนยันจาก นายสมพล ว่าจะขอสู้ จึงรับปากจะช่วย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดใช้เครดิตของกลุ่มเพื่อน จัดหาค่าใช้จ่าย เป็นป้ายหาเสียง สติ๊กเกอร์ โปสเตอร์ รวมทั้งค่าจัดเวทีปราศรัย ค่าน้ำค่าไฟ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 800,000 บาท

นายอดิศราช กล่าวอีกว่า หลังจากเลือกตั้งผ่านไปตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ผลการเลือกตั้ง นายสมพล แพ้การเลือกตั้ง ตนจึงไปทวงถามค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่นายสมพล อ้างว่ายังไม่ได้รับเงินจากพรรค และในวันที่ 2 กันยายน ตนจึงเดินทางมากรุงเทพมหานคร เพื่อทวงถามเรื่องดังกล่าวที่พรรค พบนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค และนางสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธทั้งสองอ้างว่า ต้องไปคุยกับผู้สมัครเอง

"ก่อนเกิดเหตุ เดินทางมาที่พรรคอีกครั้ง เพื่อต้องการนำเงินไปคืนเจ้าหนี้ โดยส่งนายวีรวิทย์ โชติช่วง ขึ้นไปพูดคุยกับนางสุนีย์ แต่ถูกปฏิเสธเช่นเดิม บอกว่าไปคุยกับนายพร้อมพงษ์เอง อีกทั้งยังพูดจาในทำนอง พวกตน ชอบไปโกงกินกันเอง จากนั้นจึงไปนั่งรออีกห้องหนึ่ง จนกระทั่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงข่าว เสร็จ จึงยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายสมชาย ซึ่งหนังสือร้องเรียน ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟต์ไป โดยไม่ได้พูดจาอะไร"นายอดิศราช กล่าว

นายอดิศรา ล่าวอีกว่าหลังยื่นหนังสือกับนายสมชาย เสร็จจึงย้อนกลับมานั่งที่ห้องเดิม แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่พรรคคนใด มาให้ข้อมูลกับผม ด้วยความกังวลว่าเงินที่เป็นหนี้เขาจะไม่ได้จึงไปยืนหน้าพรรค คว้าไมค์ที่ติดอยู่ในรถหาเสียงออกมาพูด "พวกผมเป็นคนทำงานให้กับพรรค ทำไมพรรคถึงไม่รับผิดชอบ แพ้การเลือกตั้งแล้ว ยังต้องมาแพ้ให้กับเรื่องในพรรคอีก" และขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น นายเมธี เดินเข้ามาต่อว่า เป็นพวกที่ทำร้ายพรรค มาก่อกวนพรรค เป็นมือปืนรับจ้างมาทำลายชื่อเสียงของพรรค แต่ผมก็ปฏิเสธไปว่า ไม่ใช่ ผมเป็นเจ้าหนี้ มาทวงถามความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งยังพูดไม่ทันจบ นายเมธี ก็ตรงเข้ามาต่อยหลายครั้ง ตัวผมสบักสะบอมไปทั้งตัว ตรงหน้าผากแตก นาฬิกามิโด้ ราคา 3 หมื่น หล่นหายไป ซึ่งผมไม่ได้ตอบโต้อะไร จึงมาแจ้งความที่โรงพัก ก่อนที่ทางตำรวจจะส่งผมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเลิดสิน

คลิปเมธี ต่อย อดิศราช สัมภาษณ์รายการเจาะข่าวเด่น โดย สรยุทธ สุทัศนจินดา จาก youtube.com

เหยื่อดาราดาวร้าย กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้น แพทย์เย็บแผลที่ศีรษะให้ 3 เข็ม ยังรู้สึกหูอื้ออยู่ตามตัวมีรอยถลอก แขนซ้ายบวม และยังรู้สึกระบมที่ขา ส่วนนายเมธีนั้น จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่า เคยดูดีทีวีก็รู้สึกชอบ แต่เหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้รู้สึกว่า นายเมธี ผิดไปจากเดิมไม่ใช่จากที่เคยเห็นในโทรทัศน์

ด้าน พ.ต.ท.ภูมิยศ กล่าวว่า ส่งตัวผู้เสียหายตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลเลิดสิน พร้อมจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเช่นกัน รวมทั้งมีการสอบปากคำพยานของฝ่ายผู้เสียหายไปแล้ว 1 ปาก และหลังจากนี้ จะต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ รวมทั้ง หาพยานแวดล้อม และภาพเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ก่อนจะออกหมายเรียกนายเมธี มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายต่อไป

พ.ต.ท.ภูมิยศกล่าวว่า เท่าที่ดูภาพถ่ายจากกล้องวิดีโอสื่อมวลชน ทุกอย่างมีความชัดเจนว่า ผู้ต้องหามีความผิดจริงตามที่ถูกแจ้งความ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนี้จะออกหมายเรียกตัวนายเมธีมารับทราบข้อหาต่อไป

ก่อนหน้านี้นายเมธี อมรวุฒิกุล อายุ 37 ปี ถูกดำเนินคดีข้อหาก่อความไม่สงบ ระหว่างขึ้นเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook