ประธานสมาคมการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เรียกร้องก.ศธ. เร่งพัฒนาครูด้านจิตวิทยา

ประธานสมาคมการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เรียกร้องกระทรวงศึกษาธิการ ออกระเบียบเพิ่มเติมในการรับสมัครเด็กเข้าเรียน และขอให้จัดงบประมาณมาพัฒนาครู เพราะปัจจุบันไม่มีโรงเรียนฝึกหัดครู นางจีระพันธ์ พิมพ์พันธ์ ประธานสมาคมการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ปกครองร้องเรียนครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร จับศรีษะเด็กนักเรียนโขกกับผนังปูน ว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะครูต้องยับยั้งชั่งใจในการลงโทษเด็กขั้นรุนแรง แต่จากการสอบถามเด็กทราบว่าเป็นคนที่พูดคำหยาบคายใส่ครูก่อน จึงทำให้ครูเกิดความโมโหและลงมือกระทำกับเด็กนักเรียน โดยส่วนตัวไม่อยากชี้นำว่าจะต้องลงโทษอย่างไรกับครูผู้ก่อเหตุ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษานั้นๆ นางจีระพันธ์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กนักเรียนมีความเกเรมากขึ้น และครูจะต้องมีขันติยับยั้งชั่งใจไม่ทำรุนแรงกับเด็ก เมื่อพบว่าเด็กเกเรควรเรียกผู้ปกครองมาพบ และแจ้งพฤติกรรมของลูกให้ผู้ปกครองรับทราบ เพื่อจะได้รับตัวกลับไปอบรมสั่งสอน และค่อยนำกลับมาเรียนใหม่หากผู้ปกครอง ยืนยันว่า เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้แล้ว นอกจากนี้ครูเอง ก็ต้องมีจิตวิญญาณที่จะรักเด็ก และเปรียบเสมือนว่าเป็นบุตรหลานของตนเอง ทั้งนี้ยอมรับว่า ครูในปัจจุบันมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เพราะส่วนใหญ่จะจบจากสถาบันการศึกษาใดก็ได้ แต่จะต้องมีใบประกอบวิชีพครู ซึ่งผิดกับสมัยก่อนหากใครที่ต้องการเป็นครู ต้องเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครู ที่จะสอนวิชาชีพครูโดยตรง รวมถึงจิตวิทยาที่จะต้องใช้กับเด็ก ประธานสมาคมการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานสมาคมการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ ออกระเบียบเพิ่มเติม เช่น กรณีการรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนต้องระบุระเบียบในขั้นตอนรับสมัครด้วยว่า ผู้ปกครองควรพร้อมมาร่วมรับฟังหากเด็กนักเรียนมีปัญหา และโรงเรียนจะมีบทลงโทษสำหรับเด็กนักเรียนที่มีพฤติกรรมเกเรอยู่เป็นระยะ รวมถึงให้กระทรวงศึกษาธิการ จัดงบประมาณพัฒนาครูทั้งด้านการ สอน และการพัฒนาจิตใจครู ที่ต้องสอนเด็กนักเรียนวัยรุ่น เพราะสิ่งเหล่านี้ครูรุ่นใหม่ ยังไม่ได้รับการฝึกสอนเท่าที่ควร