ชงรัฐจัดงบฯพัฒนาครูพุ่งตรงคณะ

รศ.ดร.สมบัติ นพรัก ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ประชุมสภาคณบดีฯ ได้รับทราบผลการวิจัยเชิงสำรวจสถานการณ์ของสถาบันผลิตครู ที่ ส.ค.ศ.ท.ได้ทำการวิจัย โดยเก็บข้อมูลจากสถาบันผลิตครู จำนวน 59 แห่ง จากทั้งหมด 71 แห่ง ประกอบด้วย ม.ของรัฐ 16 แห่ง ม.ราชภัฏ 35 แห่ง ม.เทคโนโลยีราชมงคล 4 แห่ง ม.เอกชน 2 แห่ง สถาบันพลศึกษา และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พบว่า มีจำนวนอาจารย์รวม 3,521 คน จำแนกตามคุณวุฒิ มีปริญญาตรี 289 คน คิดเป็น 8.21% ปริญญาโท 2,313 คน คิดเป็น 65.69% ปริญญาเอก 919 คน คิดเป็น 26.10% และหากจำแนกตามตำแหน่งวิชาการ พบว่า มีอาจารย์ 1,903 คน คิดเป็น 54.05% ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 1,151 คน คิดเป็น 32.69% รองศาสตราจารย์ 457 คน คิดเป็น 12.98% ศาสตราจารย์ 10 คน คิดเป็น 0.28% และมีคณาจารย์ที่เกษียณอายุ ระหว่างปี 2552-2556 รวม 1,224 คน คิดเป็น 34.76% นอกจากนี้ยังพบว่ มีการผลิตบัณฑิตครูในหลายสาขาเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก

รศ.ดร.สมบัติ กล่าวต่อไปว่า ผลการวิจัยดังกล่าว ประกอบกับผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 2 ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในกลุ่มสาขาวิชาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จากสถาบันที่รับการประเมิน 57 แห่ง มีผลการประเมินระดับดีมาก 1 แห่ง ระดับดี 52 แห่ง พอใช้ 3 แห่ง และปรับปรุง 1 แห่ง ซึ่งในการประเมิน 7 มาตรฐาน พบว่าใน 5 มาตรฐานส่วนใหญ่ได้รับการประเมินระดับดี แต่อีก 2 มาตรฐาน ได้รับการประเมินระดับพอใช้เหมือนกัน คือ ด้านคุณภาพบัณฑิต และด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์

ทั้งผลการวิจัยและผลการประเมินผลของ สมศ. แสดงให้เห็นถึงวิกฤติครูของครู และบัณฑิตครู ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ โดยสาเหตุของวิกฤติที่เกิดขึ้นน่าจะมาจาก 1.ยังไม่มีการกำหนดแผนการผลิตครูคุณภาพอย่างเป็นระบบ 2.ครูของครูรับภาระหนักในการผลิตบัณฑิตและฝึกอบรม 3. ครูของครูไม่มีเวลาและโอกาสพัฒนาตนเอง และ 4. คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ขาดการสนับสนุนอัตรากำลังและงบประมาณ ดังนั้น ส.ค.ศ.ท.จะเสนอต่อรัฐบาลให้มีการจัดสรรงบฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพมาที่คณะวิชาโดยตรงไม่ต้องผ่านมหาวิทยาลัย เพราะปัจจุบันนี้มีงบฯพัฒนาคุณภาพมาถึงคณะน้อยมาก ส่วนงบฯ เพื่อการบริหารจัดการก็จัดสรรผ่านมหาวิทยาลัยตามปกติ นอกจากนี้ต้องมีการให้ทุนแก่นักศึกษาครูด้วย รศ.ดร.สมบัติ กล่าว.