ชุมชนโรงสูบประท้วงม.เกษตรฯไล่ที่

ชุมชนโรงสูบประท้วงม.เกษตรฯไล่ที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านชุมนุมประท้วงการรื้อถอนบ้านเรือนที่ชุมชนโรงสูบ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบชาวบ้าน กว่า 100 คน ยืนรวมตัวประท้วง ปิดกั้นบริเวณปากทางเข้าชุมชน โดยใช้แผงไม้มากั้นทางเข้าไว้ เพื่อไม่ให้รถแบ็คโฮ เข้ามาปรับพื้นที่ที่รื้อถอนได้ โดยมี ร.ต.ท.สมโภชน์ ทรงเจริญ หัวหน้าสายตรวจ สน.บางเขน เดินทางมาดูความเรียบร้อย ระหว่างนั้นก็ได้มีการเจรจาระหว่าง นายปรัชญา ปณิธิกุล อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวแทนเข้ามาเจรจา ขอเข้าไปปรับพื้นที่ที่มีการรื้อถอนแล้ว แต่ทางชาวบ้านไม่ยินยอม เมื่อเห็นว่าไม่สามารถเข้าไปปรับพื้นที่ได้อย่างแน่นอน ทั้งหมดจึงเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

ทาง ด้าน นายปรัชญา กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้นำรถแบ็คโฮเข้ามาเพื่อจะปรับพื้นที่ที่มีการรื้อถอนแล้ว เนื่องจากว่าทาง ม.เกษตรฯ ต้องการใช้สร้างอาคารวิทยาลัยสิ่งแวดล้อม ใช้ในการเรียนการสอน แต่ชาวบ้านมีการปิดทางเข้าตนจึงไม่สามารถเข้าไปปรับพื้นที่ได้ ซึ่งตนก็ได้เจรจาบางส้ว และมีการจ่ายค่ารื้อถอนให้หลังละ 20,000 บาท หรือหากใครไม่สามารถย้ายออกไปได้ หรือรื้อถอนบ้านไม่ได้ทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีที่จะเข้ามาดำเนินการให้ พร้อมกับจัดหาที่พักใหม่ให้อยู่แทนที่เดิม และหากว่าใครยังไม่ยินยอมย้ายออกไป ก็จะให้เข้าไปเจรจากันอีกครั้ง วันนี้ตนแค่จะเข้าไปปรับพื้นที่บางส่วนเท่านั้น ด้าน นายมานพ ยิ้มแย้ม อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/316 หมู่ 3 ในชุมชนดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมชุมชนโรงสูบและอดีตประธานชุมชน กล่าวว่าชุมชนดังกล่าวได้มีชาวบ้านเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนกว่า 80 ปี แล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ ส่วนตนอยู่มาแล้วประมาณ 60 ปี จนถึงปัจจุบันมีบ้านเรือนปลูกสร้างแล้วกว่า 600 หลังคาเรือน มีชาวบ้านในชุมชนประมาณ 2,300 คน โดยทาง ม.เกษตร พยายามไล่ที่ชาวบ้านมาตั้งแต่ปี 36 แล้วซึ่งล่าสุดชาวบ้านได้ทำเรื่องถวายฏีกา เพื่อขอใช้พื้นที่ต่อสำนักพระราชวังไปแล้ว ยังอยู่ระหว่างรอคำตอบ แต่ทาง ม.เกษตรก็ไม่ใส่ใจและเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของ ม.เกษตรฯ ก็ได้เข้ามารื้อถอนบ้านที่เปี่พักของเจ้าหน้าที่ของ ม.เกษตรฯ ที่ยินยอมรื้อถอนออกไป จำนวน 20 หลัง เหลือเพียงบ้านที่ชาวบ้านที่อยู่รอบๆซึ่งปลูกสร้างกันเองและไม่ยอมรื้อ เนื่องจากอยู่กันมานานแล้ว และที่อยู่ใหม่ที่ทาง ม.เกษตร จัดหาให้ก็เล็กมากและต้องเสียค่าซ่อมแซมมากกว่าจำนวนเงินค่ารื้อถอนที่ได้มา นายมานพ กล่าว

ต่อมานายอิศรเมษร์ คชานุกูล ผอ.เขตจตุจักร พร้อมด้วย นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ หน.ฝ่ายโยธา ได้เดินทางมาตรวจสอบพร้อมทั้งได้พูดคุยกับแกนนำชาวบ้าน โดยใช้เวลาพูดคุยและเดินตรวจดูรอบๆชุมชนราว 1ช.ม. ก่อนจะเปิดเผยว่า ที่มาในฐานะที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่ในเขตจตุจักร โดยเรื่องทีดินดังกล่าวมีความขัดแย้งกันมาหลายปีแล้ว ซึ่งตนก็ได้แนะนำว่าให้แกนนำชาวบ้าน เดินทางไปร้องเรียนที่กรรมาธิการรัฐสภา เพื่อให้เป็นตัวกลางเชิญผู้เกี่ยวข้องที่และเป็นผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจได้มาเข้าร่วมประชุมกันเพื่อให้ได้ทางออกที่เหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook