ปชป.แฉ มาร์ค ตั้ง ไตรรงค์ สกัดคลื่นใต้น้ำ! ลดกระแสปรับใหญ่

ปชป.แฉ มาร์ค ตั้ง ไตรรงค์ สกัดคลื่นใต้น้ำ! ลดกระแสปรับใหญ่

ปชป.แฉ มาร์ค ตั้ง ไตรรงค์ สกัดคลื่นใต้น้ำ! ลดกระแสปรับใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปชป.เผยมาร์คหารือแกนนำหลายรอบก่อนเลือกไตรรงค์นั่งรองนายกฯ ป้องกันความวุ่นวายภายในพรรค ลดกระแสปรับใหญ่ ขณะที่นายกฯยังไม่ยืนยันให้คุมเศรษฐกิจ พท.อ้างกฎเหล็กอภิสิทธิ์อยู่ในข้องปลาเน่าต้องลาออกทั้งคณะ

"อภิสิทธิ์"ไม่ตอบให้"สามสี"คุมศก.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังไม่ยืนยันนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จะนั่งรองนายกฯ คุมฝ่ายเศรษฐกิจ ในการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)หลังจากนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุข รองนายกฯ ตอบรับไปนั่งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแทนนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกไป โดยนายอภิสิทธิ์ตอบผู้สื่อข่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างเตรียมเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปมอบเงินชดเชยให้นางไฮ ขันจันทา หรือยายไฮ เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 10 ตุลาคม ที่ห้องรับรองท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) เมื่อถูกถามว่านายไตรงค์จะได้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจแน่หรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิหันมากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ยังไม่ได้เสนอเข้ากรรมการบริหารพรรคเลย" จากนั้นรีบเดินไปทันที

ปชป.ชี้ตั้ง"ไตรรงค์"สกัดคลื่นใต้น้ำ

แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอนการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาตัวรองนายกฯคนใหม่ ในวันที่ 13 ตุลาคม จะเริ่มขึ้นเวลา 14.00 น. โดยนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้เสนอชื่อนายไตรรงค์ ให้ขึ้นเป็นรองนายกฯแทนนายกอร์ปศักดิ์ จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนลงมติว่าเห็นชอบหรือไม่ โอกาสที่จะพลิกโผแทบเป็นไปไม่ได้ โดยหลังที่ประชุมเห็นชอบก็จะนำชื่อเข้าที่ประชุมส.ส.พรรค เพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง

แหล่งข่าวกล่าวว่าก่อนที่จะลงตัวที่ชื่อนายไตรรงค์นั้น นายอภสิทธิ์ได้นัดแกนนำพรรคไปหารือถึงการปรับครม.หลายครั้ง ทั้งบนตึกไทยคู่ฟ้าและที่พรรค แม้กระทั่งโทรศัพท์สอบถามความเห็นด้วยตัวเอง ซึ่งคุณสมบัติที่ต้องการคือต้องมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และยังต้องพิจารณาถึงแรงกระเพื่อมที่อาจเกิดขึ้นภายในพรรคด้วย โดยมีการยกชื่อบุคคลที่เหมาสมะขึ้นมาหลายคน ทั้งในและนอกพรรค อาทิ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย และนายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรม

"แต่หลังจากพิจารณาคุณสมบัติต่างๆแล้ว ทุกคนเห็นตรงกันว่านายไตรรงค์เหมาะสมที่สุด นอกจากเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ยังได้รับการยอมรับจากบุคคลซึ่งเตรียมเคลื่อนไหวเป็นคลื่นใต้น้ำภายในพรรคด้วย นอกจากนี้ตัวนายกฯยังอาจนำไปอ้างได้อีกเป็นเพียงการหาคนมาแทน ไม่ใช่การปรับครม. สิ่งที่แกนนำพรรคเป็นห่วงมากกว่า คือตอนที่รัฐบาลทำงานครบ 1 ปี เพราะมีพูดคุยกันระดับหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคว่า เมื่อทำงานไปสักระยะเวลาหนึ่ง ก็ควรจะสลับให้คนอื่นเข้ามาทำงานเป็นรัฐมนตรีบ้าง"

"นิพิฎฐ์"จ้องประเมินฝีมือรบ.1ปี

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าสำหรับแคนดิเดตที่จะมาเป็นรัฐมนตรีเป็นคนที่รู้กันว่าจะมีใครบ้าง ทั้งนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง แต่จากการปรับครม.ครั้งนี้ที่นายไตรรงค์ซึ่งไม่เคยมีชื่ออยู่ในโผแคนดิเดตมาก่อน แต่กลับได้ขึ้นมาเป็นรองนายกฯ จึงต้องดูโจทย์การปรับครม.ครั้งต่อไปว่าสถานการณ์ช่วงเวลานั้นเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าคนที่มีชื่ออยู่ในโผแคนดิเดทอาจจะต้องหลีกทางให้กับคนอื่น

ด้านนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป. กล่าวว่า ขณะนี้ตนเหมือนคนนอกที่ไม่ค่อยได้ติดตามการทำงานของรัฐบาล แต่เมื่อรัฐบาลทำงานครบ 1 ปีเมื่อใด จะวิเคราะห์ว่ารัฐบาลทำงานเป็นอย่างไร เพราะสภาพปัญหาของประเทศขณะนี้เหมือนกับช่วงที่พรรคโดยนายชวน หลีกภัย เข้ามาเป็นรัฐบาล ที่เคยบอกว่าประเทศเปรียบเหมือนผู้ป่วยอยู่ในห้องไอซียู. แต่พรรคก็สามารถรักษาจนผู้ป่วยคนนั้นออกจากห้องไอซียู. กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ ดังนั้นเมื่อนายอภิสิทธิ์เข้ามาบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตที่คล้ายกัน เมื่อทำงานครบรอบ 1 ปี ตนจะประเมินว่าจะสามารถรักษาคนไข้ได้หรือไม่ หรือคนไข้จะตายในมือหรือไม่

"ชวรัตน์"เชื่อ"กอร์ปศักดิ์"ไร้ปัญหา

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงการประสานงานกับนายกอร์ปศักดิ์ ว่าที่เลขาธิการนายกฯคนใหม่ ว่า คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะตั้งแต่ตั้งรัฐบาล มีระบบที่พรรคภูมิใจไทยกับปชป.ประสานงานกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว และเป็นธรรมดาอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกันบ้าง หรือไม่เห็นด้วยในบางเรื่องในเรื่องการทำงาน แต่ทำความเข้าใจกันได้

เมื่อถามว่ามีการมองว่านายกอร์ปศักดิ์เป็นคนละเอียดละออมากเกินไป จะมีปัญหาหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่าที่เป็นคนละเอียด คงเป็นเนเจอร์(บุคลิกส่วนตัว)ของนายกอร์ปศักดิ์ ซึ่งบุคลิกของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ไม่เป็นปัญหา ส่วนการมาเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจของนายไตรรงค์คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีคลังมาก่อน อีกทั้งจบทางเศรษฐศาสตร์มา

เมื่อถามว่าขณะนี้ตำแหน่งผู้จัดการรัฐบาลที่ทำหน้าที่ประสานงานกันระหว่างภท. กับปชป.ยังเป็นคู่เดิมคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาฯนายกฯ อยู่หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า "ครับ สำหรับนายสุเทพ ยังเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนนายนิพนธ์นั้นช่วงนี้อาจจะต้องหยุดชั่วคราว แต่เชื่อว่าจะยังคงช่วยงานอยู่ในปชป.ต่อไป เพราะยังเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ในส่วนการประสานงานกัน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร"

พท.เย้ย"ไตรรงค์"ไร้เครดิตทีมศก.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. แกนนำนปช. กล่าวว่าปชป.ไม่ได้ใช้งานนายไตรรงค์ ในด้านเศรษฐกิจมานานแล้วตั้งแต่สมัยนายชวนเป็นนายกฯสมัยแรก และก็ไม่ได้ชู หรือให้เครดิตนายไตรรงค์จนคนลืมว่าเป็นทีมเศรษฐกิจปชป.มานานแล้ว การปรับแบบนี้ไม่เหมาะสม เพราะนำนายกอร์ปศักดิ์มีแผลจากโครงการชุมชนพอเพียง ไม่ได้มีการลงโทษใดๆนอกจากให้ ส.ข.ของพรรค 2 คน และสมาชิกปชป. 2 คนออกจากพรรคไปเท่านั้น ถามว่าจะเอาคนที่มีข้อครหามาเป็นเลขาฯแทนนายนิพนธ์ ที่ไม่มีปัญหาการทุจริตใดๆเลย จะเหมาะสมหรือ

จี้"มาร์ค"รับผิดชอบออกไปทั้งคณะ

นายจตุพร กล่าวว่า การปรับครม. ควรปรับส่วนอื่นๆด้วย เพราะมีข้อครหาเยอะ ที่เห็นๆกันอยู่คือในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งตัวรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ เพราะตอนนี้ทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีก็ลาออกไปแล้ว รัฐมนตรีก็ควรรู้สึกอับอาย จะหนีความรับผิดชอบทางการเมืองในฐานะเป็นเจ้ากระทรวงโดยนั่งเก้าอี้ต่อไปคงไม่ได้ ต้องลาออกไป ไม่เช่นนั้น ก็จะเหมือนโครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการส่งสัญญาณและตัดตอนความรับผิดชอบ นอกจากนี้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไม่ควรตั้งมาแต่แรก

"ตอนนี้มันมีปัญหาทุกกระทรวงที่มีข้อสงสัยเรื่องการคอรัปชั่น วันนี้นายอภิสิทธิ์กำลังอยู่ในข้องปลาเน่าและอยู่ลำบากแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงปลายรัฐบาลชุดนี้แล้ว นายอภิสิทธิ์ควรจะเป็นคนไปมากที่สุดเพราะเป็นผู้กำกับดูแล เป็นผู้นำฝ่ายบริหารต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง ตามที่ประกาศกฎเหล็กไว้ และเมื่อนายกฯคนเดียวออกไปทั้งคณะก็ไปหมด ตอนนี้ประชาชนดูอยู่ ก็เห็นว่ารัฐบาลสร้างเรื่องใหม่ให้เกิดขึ้นทุกวัน แต่เป็นเพียงเทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะปัญหาเดิมก็ไม่แก้ไข ทำเพียงสร้างเรื่องใหม่มากลบ กลุ่มคนเสื้อแดงจึงจะประกาศเริ่มกระบวนการถอดถอนนายกฯในวันที่ 11 ตุลาคม ในการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย"

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook