ศาลยกฟ้องมนต์ เมืองเหนือข้อหาขาย จดหมายเป็นหมัน

ศาลยกฟ้องมนต์ เมืองเหนือข้อหาขาย จดหมายเป็นหมัน

ศาลยกฟ้องมนต์ เมืองเหนือข้อหาขาย จดหมายเป็นหมัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากเป็นคดีฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ปี 2546 ระหว่าง ก้อง กาจกำแหง นักแต่งเพลงเจ้าของเพลง จดหมายเป็นหมัน (เสียงร้องต้นฉบับโดย ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด) ที่ยื่นฟ้อง บริษัทแม่ไม้เพลงไทย กับ มนต์ เมืองเหนือ ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว

เฉลียว ฉิมมา หรือ มนต์ เมืองเหนือ กล่าวให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงที่มาที่ไปของการทำเพลงในครั้งนั้นกับทีมข่าว "คม ชัด ลึก" เป็นครั้งแรกหลังจากศาลมีคำสั่งยกฟ้องว่า

"เรารู้จักกันมาก่อน รักใคร่นับถือ ทำมาหากินด้วยกันมา เขานึกว่าเพลงที่เขาอัดเสียงที่เขาแต่ง เขานึกว่าเป็นของเขา ความจริงแล้ว เพลงยังเป็นของครูก้องเขา แต่ส่วนของดนตรีที่มีการลงทุนอัดแผ่นเป็นของผม มาสเตอร์เทปค่าห้องอัดเป็นของผม เริ่มเดิมทีมันเป็นแผ่นเสียง ครั้งแรกครูก้องกับผมคุยกัน ตอนนั้นเขาเป็นนักจัดรายการอยู่กับพร พรนารายณ์ และเล่นดนตรี ตอนนั้นผมทำเพลงมาตลอด วันหนึ่งก้องอยากอัดแผ่นเสียง ผมเลยนำเขามาอัดแผ่นเสียงเพลง "รักกับคนรถ" รู้สึกว่าดีแล้ว เขาก็นำนักร้องอีกคนมาอัดแผ่นเสียงให้ผมคือ น้ำอ้อย พรวิเชียร เพลง "รอวันทหารกลับ" บันทึกเสียงกันที่กมลสุโกศล ครูก้องนำเพลงมา ผมก็ลงทุนดนตรีกับห้องอัดเหมือนเดิม เพลงก็ประสบผลสำเร็จพอสมควร ผมเลยเอาเพลง "รักกับคนรถ" ประกบกับเพลง "รอวันทหารกลับ" เป็น 2 เพลงโดยผมลงทุน ผมก็นำเพลงไปให้นักจัดรายการเปิด ได้แผ่นหน้าขาวๆ มา 100 แผ่นไปแจกตามสถานีวิทยุ"

นักปั้นชาวพิจิตร เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมงานกับครูก้อง กาจกำแหง ซึ่งทั้ง 2 เพลงได้รับความนิยมจนทั้ง 2 คนตกลงทำเพลงร่วมกันอีกคือเพลง "คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์" โดยครูก้องเป็นผู้หาเพลง และมนต์ลงทุนเรื่องดนตรีกับห้องอัดเช่นเดิม

"สุดท้ายผมก็มาอัดให้ครูก้องอีกเพลงชื่อ "คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์" เริ่มติดตลาดก้องเขาก็เลยตั้งวง เพลงหนึ่งก็ 300-500 บ้างเพื่อนฝูงกัน ผมก็ไปกราบตามสถานีวิทยุทั่วประเทศ ทำแล้วก็เอาไปโฆษณา แล้วมาขายตามสะพานเหล็กได้บ้างไม่ได้บ้าง ตอนนั้นจำได้ว่าแผ่นละ 7 บาท มาขาย 10 บาท ผมได้กำไร 3 บาทต่อ 1 แผ่น จากนั้นเขาก็คิดจะอัดเสียงกันอีก ตอนนั้นพอเพลง "คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์" ดังก็ต้องหาผู้หญิงมาร้องแก้ "ชื่อเพลง "คนไทยล้านเปอร์เซ็นต์" ให้เรไร ณ โคราช ร้องก็ขาดทุน จากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่เป็นความกันเกิดขึ้น"

มนต์เล่าต่อว่า หลังจากทำเพลงออกมาแต่ขายไม่ได้ ทั้งคู่จึงได้นั่งปรึกษาหารือกันตามประสาเพื่อนฝูงถึงทางออก ซึ่งครูก้องก็หาทางออกให้เพื่อนด้วยการนำ สุบิน ทิพวัฒน์ หรือ ดวงใจ สุริยา มาทำเพลง

"ก้องมาแนะผมว่า จะทำเพลงให้ สุบิน ทิพวัฒน์ หรือ ดวงใจ สุริยา เขาจะตั้งวง ผมก็บอกว่าได้ เอาเพลงมาเดี๋ยวผมจะหาดนตรี ก็ไปพบกันที่ห้องอัด ตอนนั้นผมก็บอกว่าให้เขาเอาลิขสิทธิ์ไปทำมาหากินนะ แต่แผ่นเสียงผมก็จะไปขายตามท้องถนนเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแอบแฝง ตอนนั้นนอนเฝ้าสถานีกันเลยเพื่อให้เขาเปิด พอเพลงดังจะได้ไปขายให้ตู้เพลงตอนนั้นมีประมาณ 100 ตู้ได้ ทุกอย่างผมลงทุนเอง พอถึงวันอัดเสียงผมนัด ดวงใจ สุริยา มาอัดเสียงตอนเที่ยง แต่เขามาบ่าย 3 โมง นักดนตรีก็บ่นแล้วจะกลับบ้าน ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งกลับเดี๋ยวผมเลี้ยงข้าว ดวงใจก็ยังมาไม่ถึง พอดีมีเด็กของก้องคนหนึ่งชื่ออ๊อด หรือ ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด เป็นเด็กส่งเทปให้ก้องเขา เขาบอกว่าดวงใจไม่มาไม่เป็นไรเขามีเด็กอีกคนจะเอาไหม ผมก็บอกว่าเอามา ใจร้อน เขาเลยเอาอ๊อดเข้ามาร้อง ดนตรีก็เริ่มทำกันเดี๋ยวนั้นเลย เพลง "จดหมายเป็นหมัน" อัดสองเที่ยวเพลงมันติดนะ แต่ผมก็บอกว่าขออีกเที่ยวเป็นครั้งที่ 3 ผมนึกเองว่าคนเขียนจดหมายตอนตี 4 ตี 5 ต้องมีนกกาหว่าร้องเลยให้นักดนตรีที่เล่นคีย์บอร์ดใส่เสียงนกกาหว่าเข้าไป ด้วย เมื่ออัดเสียงเสร็จฟังดูเพราะดี ขวัญชัยเคยผ่านวง ศักด์สยาม วงของภาคอีสาน แล้วมาเป็นเด็กส่งเทป นักจัดรายการ ชื่อ ศรีไพร ใจพระ นำเพลง "จดหมายเป็นหมัน" ไปเปิดก็ดัง ดวงใจมาถึงเลยให้ฟังเด็กร้อง เขาบอกว่าเด็กคนนี้ร้องดีเขาไม่อัด นี่คือที่มาที่ไปของเรื่อง"

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการฟ้องกลับกันหรือไม่ มนต์ เมืองเหนือ บอกว่า "คนวงการเดียวกันไม่อยากไปจองเวรจองกรรมอะไรกันอีก ตอนที่อัดเพลงกันเราก็ช่วยเขามาตลอด ใครเป็นมาอย่างไรก็รู้กันอยู่แก่ใจ เขาฟ้องเกินความเป็นจริง เขาคงเข้าใจผิดก็ขอให้ผ่านไปเพราะเรารักใคร่เป็นเพื่อนกันมา ไม่ได้โกรธกัน เราก็แก่ๆ กันแล้ว"

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังครูก้อง กาจกำแหง ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งครูเพลงชื่อดังให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ระหว่างรอผ่าตัดดวงตา ที่โรงพยาบาลวชิระ ว่าขอปรึกษาทนายความอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อ แต่ยืนยันว่าจะเดินเรื่องต่อแน่นอน

 

ภาพประกอบข่าวภาพประกอบข่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook