ปลาทูขายได้แล้ว ยอดทะลุ18ล้าน
เสี่ยทำกระป๋อง ย่านพระราม 2 ประกาศทุ่มงบ 18 ล้าน เทกโอเวอร์ทีมปลาทูคะนอง แฟนบอลประกาศไม่ยอม
หากผู้บริหารทีมชุดใหม่โอนไปใช้ชื่ออื่น และอาจจะเป็นตัวจุดชนวนให้ทีมเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง
หลังจากที่ "บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ประธานทีมลูกหนัง "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี ประกาศสู้เต็มตัวในศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ โดยทุ่มงบประมาณ 15 ล้านบาท ตั้งเป้าผลงานอย่างน้อย 1 ใน 6 พร้อมแสดงสปิริต ใครสนใจจะเข้ามาบริหารทีมแทนที่ทีมงานชุดเก่าขอให้หาเงินมาสนับสนุนขั้นต่ำ 16 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด "คม ชัด ลึก" ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวเชื่อถือได้ว่า หลังจากที่นายสมศักดิ์ ศิริธรรม เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่มีความรู้ความสามารถและมีงบประมาณขั้นต่ำ 16 ล้านบาท ยินดีที่จะยกทีมให้ไปบริหารในการเตรียมทีมสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2010 ปรากฏว่ามีเจ้าของบริษัทที่ทำงานกระป๋อง ย่านพระราม 2 ชื่อเล่นว่า "เสี่ยป๊อก" สนใจอยากเข้ามาทำทีมสมุทรสงคราม พร้อมประกาศทุ่มทุนให้ 18 ล้านบาท เพื่อพาทีมขึ้นไปสู่เป้าหมายให้ได้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาและมีแนวโน้มว่าจะบรรลุข้อตกลงในเร็ว วันนี้
แหล่งข่าวคนเดิมเผยอีกว่า ที่ผ่านมามีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มของทีมงานบริหารชุดเก่าเกิดเสีย ผลประโยชน์ จึงตั้งป้อมต่อต้านกลุ่มผู้บริหารชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะการเข้าไปโจมตีในเว็บไซต์ของสโมสร จนผู้รับผิดชอบทำเว็บไซต์ไม่สามารถทนพฤติกรรมได้ จึงตัดสินใจปิดเว็บไซต์ชั่วคราว ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าแทนที่แฟนบอลจะไปให้ความสนใจในเรื่องผลงานทีมหรือ การยกระดับการเชียร์ กลับเอาเวลามานั่งตรวจสอบการทำงานผู้บริหารชุดปัจจุบัน ทั้งที่งบประมาณส่วนใหญ่มาจากกระเป๋าของนายสมศักดิ์ ศิริธรรม เป็นทั้งคนควักเงิน แถมยังต้องโดดลงมาดูแลเกือบทุกเรื่อง จนช่วยให้ทีมยืนหยัดอยู่ในเกมฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศได้อีกสมัย ไม่เข้าใจคนทำดีและตั้งใจทำเพื่อบ้านเกิดตัวเองต้องมาถูกกลั่นแกล้ง
"ต้องยอมรับในการเป็นสุภาพบุรุษของนายสมศักดิ์ ที่ยอมสละทีมทั้งที่สร้างมากับมือ และไม่กลัวคนอื่นจะมาชุบมือเปิบ เพียงแต่ต้องการเห็นการเจริญเติบโตของฟุตบอลในบ้านเกิด จึงเปิดกว้างให้ทุกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารทีม เพียงแต่มีข้อแม้ทีมต้องอยู่ในสมุทรสงครามเท่านั้น จะโอนไปเป็นสิทธิ์จังหวัดอื่นไม่ได้ เชื่อว่าหากไม่เป็นไปตามนี้แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่ยอมแน่นอน และทีมอาจจะเข้าสู่วิกฤติอีกครั้งก็เป็นได้" แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวปิดท้าย
