สินค้าดาหน้าขึ้นเงินเฟ้อ0.4%

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ต.ค.52 ที่สำรวจจากสินค้าและบริการจำนวน 417 รายการ เท่ากับ 105.5 เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.51 ที่ 105.1 เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบใน 10 เดือน นับจากเดือน ธ.ค. 51 ส่วนเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 52 ที่มีดัชนี 105.3 สูงขึ้น 0.2% แต่ยอดเฉลี่ย 10 เดือน ม.ค.-ก.ย. 52 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 1.5%

ทั้งนี้สาเหตุที่เงินเฟ้อปรับเพิ่มเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาจากการปรับขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 1.6% โดยมีรายการสำคัญ เช่น เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำเพิ่ม 4% ผักและผลไม้ 5.4% ไข่และผลิตภัณฑ์นม 2.9 เป็นต้น ส่วนดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มก็ปรับเพิ่มเช่นกัน เช่น ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 13.6% ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และวัสดุก่อสร้าง 3.5% ค่ายาเวชภัณฑ์ เป็นต้น

ส่วนเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.52 มาจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 0.6% เพราะราคาอาหารหลายชนิดสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ทั้ง ข้าวสารเจ้าและขนียว 1.2% เนื่องจากผู้ส่งออกเร่งส่งมอบข้าวไปยังต่างประเทศ ผักและผลไม้ เช่น คะน้า ผักกาดขาว เห็ด กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ผักชี มะนาว มะม่วง และแตงโมเพิ่มขึ้น 4.2% เพราะตรงกับเทศกาลกินเจและเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ ไก่สดเพิ่ม 0.8% อาหารสำเร็จรูปเพิ่ม 0.4% ด้านดัชนีหมวดอื่นที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.1% มาจากน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ 1.2% วัสดุก่อสร้าง 0.4% โทรศัพท์มือถือ 0.3% และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 0.5% ส่วนสินค้าที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าโดยสารเพิ่ม 9% สบู่ ยาสีฟัน น้ำมันใส่ผม และครีมนวดผมเพิ่ม 0.1% เป็นต้น

นายยรรยง กล่าวว่า การปรับขึ้นของเงินเฟ้อสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศ จนทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการใช้จ่ายอีกครั้ง และคาดว่าแนวโน้มเงินเฟ้อไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะปรับขึ้นเฉลี่ย 1.5% โดยเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.4% และเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2-3% ทำให้เงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ลบ 0.9% ตามกรอบประมาณ การณ์ที่กระทรวงพาณิชย์คาด -1 ถึง 0% และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 53 จะเป็นบวก 3.3% ภายใต้กรอบ 3.0-3.5% มีสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 70-80 อลลาร์สหรัฐต่อบาร์ เรล อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 31-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และมีมาตรการลดค่าครองชีพจากรัฐบาล

นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน วันนักการตลาดแห่งประเทศไทยวันที่ 2 พ.ย. ว่า ภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในไตรมาสสุดท้าย มีสัญญาณดีขึ้นชัดเจนตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นได้จากยอดขายสินค้าแบรนด์เนม และสินค้าหรูหรา ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบปี จากยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศมากขึ้น และสินค้าอุปโภคบริโภคที่เริ่มขายดีตามไปด้วย ทำให้สมาคมฯ ได้ปรับเป้าหมายตลาดรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในปีนี้ใหม่เป็น 5-6% จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 4%.