ผบ.ทบ.โยกย้ายพ.อ.พิเศษ

ผบ.ทบ.โยกย้ายพ.อ.พิเศษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คุมขุมกำลังหลัก พท.จองกฐินไว้แล้วซักฟอกไทยเข้มแข็ง

บิ๊กจิ๋ว สับแหลกผู้นำเบบี้ ไม่คิดแก้ปัญหาภายในประเทศ เตือนไร้ฝีมือระวังประชาชนลุกฮือ เปิดตัวทางการเข็นนโยบาย ไทยร่มเย็น เป็นมิตรประเทศบ้าน เข้าแพ็กเกจ โลกล้อมไทย ตามแนวโมเดล ทักษิณ สั่ง ลุงจิ้น ขอ บิ๊กจิ๋ว เดินสายให้เกิดประโยชน์ อย่าสร้างปมปัญหาเพิ่ม นายกฯยืนยันใช้สันติวิธีสร้างมิตรเพื่อนบ้าน ย้ำไม่ให้ไทยเสียสิทธิทุกด้าน วอร์รูมปชป.วิเคราะห์อายุรัฐบาล ชำนิ ชำแหละเหลือเวลาน้อย ได้แค่ 2+4 เดือน หมดสมัยประชุมสภาฯเตรียมวัดใจเลือกตั้งใหม่ โวโพล ปชป.อีสานเริ่มกระเตื้อง บิ๊กป๊อก ขยับขุนพลระดับพ.อ.พิเศษลงคุมกำลังสำคัญ ปูทางให้ ประยุทธ์ รับไม้ต่อ แฟนคลับ ทักษิณ สวดทีวี 100 ช่องไร้สาระ ส่งเอสเอ็มเอสอ้อน ลอยกระทงเผื่อด้วยจะได้หมดเคราะห์

*จิ๋วจุดพลุ ไทยร่มเย็น

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย แถลงเปิดตัว นโยบายด้านความมั่นคงและต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย ภายใต้ชื่อ ไทยร่มเย็น เป็นมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ว่า เนื่องจากปัญหาหลักของประเทศคือความขัดแย้งของ คนในชาติ ซึ่งเพิ่มระดับความรุนแรงภายหลัง รัฐประหาร 2549 ความขัดแย้งนี้แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มแรกมองว่าคนอีกกลุ่มเป็นเผด็จการมาจากทหาร ส่วน กลุ่มที่สองก็บอกว่าคนอีกกลุ่มเป็นเผด็จการรัฐสภา ซึ่งเราเฝ้าดูการแก้ไขปัญหาของรัฐ บาลโดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งของคนในชาติ แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีแผนงานอันใดให้มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ปัญหา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็คงเห็นแล้วว่า นับแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามายังไม่เห็นว่าได้มีการดำเนินการอันใดแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน แม้ว่า นายกฯท่านนี้จะเป็นคนขยันเดินทางบ่อย ค่อนข้างมีเจตนารมณ์ในการทำงาน แต่ว่า เป็นการทำงานที่ไม่ตรงกับปัญหาที่มีอยู่ การเดินทางไปพบปะกับนักธุรกิจที่ อ.หาด ใหญ่ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเพื่อนตนที่เป็นนักธุรกิจรายหนึ่งโทรศัพท์มาหาบอกว่าฟังนายกฯ พูดแล้วก็เหมือนกับที่เคยได้ยินรัฐบาลไทยมาพูดเมื่อ 20-30 ปีแล้ว

*สับผู้นำเบบี้ไม่แก้ปัญหา

การแก้ไขปัญหาในบ้านเมืองของเรา ไม่ได้ยากเย็นอะไรแม้แต่น้อย เป็นแต่เพียงว่าผู้ที่มีอำนาจและความรับผิดชอบต้องแก้ไขปัญหาในวันนี้ ถ้าท่านไม่คิดแก้ คนที่ไม่มีอำนาจคือพี่น้องประชาชนเขาจะลุกขึ้นมาแก้ แล้ววันนั้นคือวันที่พวกเราจะเสียใจ เพราะอย่างน้อยที่สุดวิธีการคือต้องใช้ความรุนแรง พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านว่า การเป็นมิตรกับ ประเทศเพื่อนบ้านคือสิ่งที่มีความสำคัญมาก ตนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ปกครองถึงไม่เข้าใจว่าประเทศเพื่อนบ้านเป็นประเทศที่มีความสำคัญ เขาไม่เข้าใจความคิดในเรื่องที่พูดว่าสิ่งใดก็แล้วแต่ที่อยู่ใกล้สำคัญกว่าสิ่งที่อยู่ไกล ภายในสำคัญกว่าภายนอก ถ้าตระหนักในสิ่งนี้แล้วก็จะรู้จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างสัมพันธภาพอันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ความขัดแย้งของคนในชาติยังได้ส่งผลไปถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ไม่ว่าจะมองไปทางตะวันตกหรือตะวันออก มีปัญหาน่าห่วงใยทั้งสิ้น

*ลุงจิ้น ขอ จิ๋วทำให้ดี

ผมเสียใจมากมันจะจริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ ทราบว่าวันนี้มีความไม่สบายใจ กับผู้ปกครองฝ่ายเรา ผมไปคราวนี้ไม่ว่าจะ ไปที่กัมพูชา ก็มีความปรารถนาที่จะนำเอาความปรารถนาดีของผู้ปกครองหรือพี่น้อง คนไทยทั้งประเทศไปให้กับเขา แต่เผอิญ เรื่องราวมันออกมาอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไม่ค่อยนำมาพูดถึง เช่น เขายืนยันว่าจะใช้หลักการแก้ปัญหาแบบทวิ ภาคี ไม่เอาพหุภาคี แต่เผอิญมีเรื่องสุดท้ายที่เขาได้กล่าวออกมาจากหัวใจว่าเขานั้นมีความรักในตัวท่านทักษิณ ผมไม่เห็นมันจะไปมีปัญหากับใครเลย ไม่ทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาไปกระแทกจิตใจของผู้คนบางคนได้อย่างไร พล.อ.ชวลิตกล่าว

ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ชวลิต จะออกนโยบายเกี่ยวกับต่างประเทศ คือนโยบาย ไทยร่มเย็น เป็นมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ถ้าเป็นเจตนาดี ก็ถือว่าดี เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ผู้อาวุโสซึ่งเคยเป็นอดีตนายกฯ มาแล้วพูด มาให้ความเห็น ก็ถือว่าดี อะไรที่ทำให้ประเทศชาติอยู่ด้วยความสงบ สันติ สามัคคี ก็น่าจะต้องสรรเสริญ และคงต้องรอดูผลตอบรับจากกัมพูชาเป็นอย่างไรบ้าง

*นายกฯย้ำนโยบายผูกมิตร

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ได้พิจารณากระทู้ถามด่วนที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้สอบถามนายกรัฐ มนตรี ถึงเรื่องการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ที่ถามว่ารัฐบาลไทยได้ดำเนิน การตอบโต้สมเด็จฮุนเซนด้วยมาตรการทาง การเมืองระหว่างประเทศอย่างไร หลังเกิดเหตุการณ์รัฐบาลจะดำเนินการต่อการนำ บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) 3 ฉบับ ที่จะเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 190 อย่างไร นอกจากนี้จะคัดค้านมติของคณะกรรม การมรดกโลกที่ยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียวต่อไปหรือไม่อย่างไร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ชี้แจงว่า เป้าหมายในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทยคือต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศเพื่อนบ้านโดยแนวทางสันติวิธี ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ให้ประเทศไทยเสียสิทธิส่วนการคัดค้านมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่ยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวนั้น เรื่องนี้รัฐบาลได้ส่ง รมว.ทรัพยากรฯไปติดตามแล้ว

*ม็อบบี้นายกฯรื้อปมเขมร

ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 4 เวลา 10.30 น. นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ พร้อมด้วยผู้ชุมนุมกว่า 200 คน ได้มายื่นหนังสือ เรื่องปัญหากัมพูชากรณีปราสาท พระวิหาร ถึง นายอภิสิทธิ์ โดยมีนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมืองเป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ ทั้ง นี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ดำเนินการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดการณ์ร่วม ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2552 ปลดนายวศิน ธีรเวชญาณ ประธานคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา (JBC) ฝ่ายไทย ออกจากตำแหน่ง

ข้อเรียกร้องยังระบุอีกว่า ให้ออกคำสั่งปิดชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการชั่วคราวงดให้ความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน และให้นายอภิสิทธิ์ ออกคำสั่งเรียกเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับประเทศไทยเป็นการด่วน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้บอกด้วยว่าหลังจากยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วก็จะเดิน ทางไปชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย

*ชี้อายุรัฐบาลได้อีก2+4เดือน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) ของพรรคประชาธิปัตย์ โดย มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวอร์รูมเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงการเตรียมเดินทางไปเยือนประเทศต่าง ๆ ของพล.อ.ชวลิตว่า พล.อ.ชวลิต ก็ยังคงเล่นการเมืองโดยมองความมั่นคงเป็นหลัก ใช้ยุทธวิธีการใช้โลกล้อมไทยเพื่อสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาล โดยเลือกเฉพาะประเทศที่มีความ ขัดแย้งกับประเทศไทย ทั้งนี้เชื่อว่าการเดิน ทางจากนี้ไป พล.อ.ชวลิตจะพยายามชูด้าน นโยบายต่างประเทศเพื่อให้ประชาชนเกิดการเปรียบเทียบ มากกว่านำมาโจมตีรัฐบาล

ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้น่าจะอยู่ได้อย่างน้อยอีก 2+4 เดือน คือ 2 เดือนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร และ 4 เดือนในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งหน้า จากนั้นหากสถานการณ์เหมาะสมก็อาจ เป็นไปได้ว่าจะมีการยุบสภา เพื่อให้รัฐบาล ใหม่เข้ามาจัดทำงบประมาณรวมถึงพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ก็อาจเป็นไปได้อีกว่ารัฐบาลอาจจะลากยาวไปยุบสภาหลังทำงบประมาณแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม แหล่งข่าวอ้างคำพูดประธานวอร์รูม

*เชื่อโพลอีสานปชป.ดีขึ้น

นอกจากนี้ที่ประชุมวอร์รูมฯ ยัง วิเคราะห์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงไม่สามารถทำสำเร็จได้ในรัฐบาลชุดนี้ แต่น่าจะ ใช้เป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกตั้งครั้ง ต่อไป ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการทำโพล วิเคราะห์การเลือกตั้งเป็นรายจังหวัดรายอำเภอ โดยเจาะลึกรายเขตว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร พบว่าในเขตเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น โดยในภาคอีสานจากเดิมที่อัตราส่วนเสียงของพรรคเพื่อไทยต่อพรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่น อยู่ที่ 7:2:1 เชื่อว่าครั้งต่อไปจะเปลี่ยนเป็น 6:3:1

โดยเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.เพิ่มขึ้น เนื่องจาก 19 จังหวัดในภาคอีสาน มีจังหวัดที่ อ.เมืองเป็น ส.ส.สัดส่วน 3 คนอยู่ถึง 17 จังหวัด ขณะที่เสียงแบบ สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์น่าจะชนะพรรคเพื่อไทยเพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้วแพ้เพียง 1.5 แสนคะแนนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ อาจจะมาตัดคะแนนกันเองกับพรรคประชาธิปัตย์จนทำให้เสียเปรียบพรรคเพื่อไทย

*ตอกพท.ยืมข้อมูลเก่าตีกิน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยตรวจสอบพบโครงการไทยเข้มแข็ง การจัดซื้อ ครุภัณฑ์กระทรวงศึกษาธิการซื้อสินค้าแพงเกินจริงและมีการล็อกสเปกว่า ตนได้ขอ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ชี้แจงมาแล้วพบว่าหนังสือ ที่พรรคเพื่อไทยนำมาอ้างนั้นเป็นหนังสือที่ประกาศไว้ในเว็บไซต์ของ สพฐ.อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทราบว่า รายละเอียดของโครงการในการจัดซื้อของ สพฐ.ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว เพื่อให้ สพท. สามารถดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนได้เลย ไม่ได้เป็นความลับอะไร

หากผู้กล่าวอ้างมีข้อมูลว่า ศธ. ทุจริตในเรื่องใดขอให้ส่งมา เพราะก็มีการ กล่าวหากันมาครั้งหนึ่งแล้วแต่เมื่อติดต่อกลับไปก็ไม่พบตัวหาตัวไม่ได้ไม่สามารถประสานงานได้ ครั้งนี้ผมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพบและ ได้โปรดให้ข้อมูลมาด้วย เท่าที่ดูข้อมูลการกล่าวอ้างเหมือนกับว่ามีการสั่งการอะไรที่ ไม่ถูกต้องไปแล้ว แต่ความจริง ศธ.ยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด การจะพูดอะไรก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความรับผิด ชอบและบนข้อเท็จจริงด้วย ไม่ใช่พูดเพื่อสร้างความเสียหายให้กับองค์กรหรือหน่วยอื่น รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

*แจงมั่วโกงต้นกล้าฯ252ล.

นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ บริหารโครงการต้นกล้าอาชีพ เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยแถลงถึงความไม่โปร่งใสในโครงการต้นกล้าอาชีพในลักษณะการทำบัญชีผีเบิกเงินค่าอบรมเป็นจำนวนเงินกว่า 252 ล้านบาท ใน 24 จังหวัดนั้น ขอยืนยันว่า ภายใต้การวางระบบอย่างเข้มงวดรัดกุมของโครงการตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัคร การคัดกรอง ที่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐานยืนยัน และการเซ็นชื่อเข้ารับการอบรมที่มีเจ้าหน้าที่บริเวณจุดฝึกตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักฐานการเบิกจ่าย และการจ่ายเงิน เป็นไปตามระยะเวลาการฝึกอบรมจริง

นายกนก กล่าวว่า หากคำนวณตามจำนวนเงินที่พรรคเพื่อไทยระบุว่ามีปัญหา 252 ล้านบาท ขณะที่ผู้ฝึกอบรมได้รับเงิน ค่าเบี้ยเลี้ยงคนละประมาณ 4,800 บาท จะต้องมีจำนวนผู้ฝึกอบรม ที่มีปัญหามากถึง 50,000 คน ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก เชื่อว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นจริงจะต้องมีการ ร้องเรียนเข้ามาอย่างแน่นอน ซึ่งการสุ่ม ตรวจข้อมูล รวมถึงบันทึกการร้องเรียนผ่านโทรศัพท์ 1111 ของรัฐบาล ก็ยังไม่พบว่ามีการร้องเรียนปัญหาเรื่องนี้เข้ามาแต่อย่างใด

*พท.จองกฐินซักฟอกแล้ว

นายคณวัตร วศินสังวรณ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยนายคณวัตร กล่าวว่า ที่ประชุมได้หยิบยกกรณีแผนการใช้เงินกู้ 8 แสนล้านบาทตามโครงการไทยเข้มแข็งงบประมาณทั้งสิ้น 1.43 ล้านล้านบาท แต่ว่าขณะนี้ร่างพ.ร.บ.กู้เงินจำนวน 4 แสน ล้านบาทยังไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา หลังวุฒิสภามีมติไม่รับร่าง จึงต้องนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนและตั้งคณะกรรมาธิการร่วมอีกรอบ แต่ปรากฏว่าระหว่างนี้รัฐบาลได้เร่งอนุมัติโครงการต่าง ๆ ไปแล้ว ดังนั้นพรรคจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในต้นปีหน้า เพราะเห็นว่า ครม.ทำเกินอำนาจหน้าที>

*ป๊อกขยับขุนพลพ.อ.พิเศษ

รายงานข่าวจากกองบัญชาการกองทัพบกว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นประธาน การประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (ผบ.นขต.ทบ.) ระดับนายพลขึ้นไป โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ., พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ, พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และพล.อ.พิรุณ แผ้วผลสง เสนาธิการทหารบก รวมถึงแม่ทัพภาคที่ 1,2,3 และ 4 เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ก่อนการประชุมได้แจกจ่ายสำเนาคำสั่งการปรับย้ายนายทหารระดับ (พันเอกพิเศษ) หรือการปรับย้ายนายทหารระดับรองผู้บัญชาการ, รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (ผบ.มทบ.), รองเจ้ากรม และผู้บังคับการกรม ซึ่งเป็นการปรับย้ายนายทหารระดับผู้บังคับการกรมในหน่วยต่างจังหวัด ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะลงนามคำสั่งดังกล่าวที่ 291/2552 เรื่องให้นายทหารรับราชการ และปรับระดับเงินเดือน 256 ตำแหน่ง ในช่วงเย็นวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้แจกจ่ายคำสั่งในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ซึ่งคำสั่งปรับย้ายนี้พล.อ.อนุพงษ์ ได้หารือและร่วมจัดทำกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานบอร์ดการพิจารณาย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษ

*จัดแถวปูทางประยุทธ์คุม

การปรับย้ายนายทหารระดับ พ.อ. พิเศษ ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้จัดวางนายทหารคนใกล้ชิดเข้าไปรับตำแหน่งในหน่วยสำคัญระดับรองผู้บัญชาการกองพล และผู้การกรม เพื่อจ่อคิวในการปรับย้ายครั้งหน้า โดยมีตำแหน่งที่น่าจับตา เพราะมีการปรับย้าย นายทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษา พระองค์ (พล.ร.2 รอ.) หรือบูรพาพยัคฆ์ เข้ามารับตำแหน่งสำคัญในหน่วย กทม.

รวมทั้งโยกผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21รอ.) หรือหน่วย ทหารเสือราชินี ขึ้นจ่อเป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. เพื่อเตรียมขยับคุมตำแหน่งเป็นผบ.พล. ร.2 รอ. ในเดือน ต.ค. นี้โดยจะโยก พล.ต. วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ. คนสนิท พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ เข้า มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีหน้า เพื่อ จ่อคิวขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการก้าวรับตำแหน่ง ผบ.ทบ. ที่คาดว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แทน พล.อ.อนุพงษ์ ที่เกษียณในวันที่ 30 ก.ย. 2553

*แฟนคลับสวดทีวี100ช่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ twitter.com ถึงการออกอากาศทีวี 100 ช่องเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขณะนี้ทีวี 100 ช่องอยู่ในขั้นทดลองออกอากาศ กำลัง เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่ แน่นอนว่าจะมีการจัดทำในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และจะมีการเพิ่มช่องบันเทิงอีกด้วย นอกจากนี้พ.ต.ท. ทักษิณ ยังทวิตข้อความตอบโต้แฟนคลับรายหนึ่งที่ระบุว่า ขอวิจารณ์หน่อยเหอะ..การขยับเรื่องสื่อของ @thaksi*live ด้วย TV ร้อยช่อง เป็นการคิดผิดโดยสิ้นเชิง แค่สองช่องก็หาสาระแทบไม่ได้ อุตส่าห์เชียร์ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ใจเย็น ๆ ครับ เพิ่งเริ่มทดลองอยู่ครับใช้เวลาเพียง 2 เดือนเองครับ กรุงโรมไม่สามารถสร้างให้เสร็จได้ในวันเดียวครับ ถ้าเชียร์จริง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งข้อความผ่านมือถือให้แก่สมาชิก เนื่องในวันลอยกระทงว่า สุขสันต์วันลอยกระทง ลอยเคราะห์หมดจากไทย ลอยเผื่อผมด้วยอยากไปช่วยให้พ้นทุกข์

*รายงานม็อบเมืองกรุงคุมได้

ที่ บช.น. พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองโฆษก ตร. แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีการชุมนุมของกลุ่มประชาชนรักชาติประท้วงที่สถานทูตกัมพูชา นำโดย นายวีระ สมความคิด นัดชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า หลังจากนั้นเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อ ยื่นหนังสือโดยมีรองเลขาธิการนายกฯเป็นผู้รับหนังสือ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังสถานทูตกัมพูชาเพื่อชุมนุมกันต่ออย่างสงบ

ส่วนการชุมนุมที่ตลาดคลองเตยและกระทรวงแรงงานมีประชาชนประมาณ 50 คน ชุมนุมที่ตลาดคลองเตย ถนนรัชดาฯขาออกทำให้เกิดปัญหาจราจร ส่วนที่หน้ากระทรวงแรงงานมีผู้ชุมนุมประมาณ 60 คน ชุมนุมเรียกร้องให้ได้กลับไปทำงานที่บริษัทไทรอัมพ์เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยโดยใช้กำลังตำรวจจาก สน. ดินแดงดูแลอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา

*สร.รฟท.บุกร้องนายกฯ

ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ แห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) พร้อมด้วยกลุ่มตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) 150 คน ได้ชุมนุมด้านข้างทำเนียบฯ บริเวณประตู 4 เพื่อยื่นหนังสือกับนายกฯ โดยเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนการสั่งปลดพนักงานรถไฟอ.หาด ใหญ่ทั้ง 6 คนที่ไม่เป็นธรรม โดยพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นตัวแทนรับเรื่อง พร้อมหารือเพื่อหาแนวทางยุติปัญหาร่วมกันของการรถไฟฯ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook