หุ้นไทยปิดลบเกือบ 9 จุด พลังงานถ่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันที่ 3 พ.ย. ดัชนีอ่อนตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ตามแรงเทขายหุ้นกลุ่มหลัก โดยเฉพาะพลังงาน และธนาคาร ซึ่งระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 676.96 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 666.81 จุด จนมาปิดตลาดที่ 668.48 จุด ลดลง 8.74 จุด หรือ 1.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20,172.16 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 210.38 จุด ลดลง 0.79 จุด มูลค่าซื้อขาย 466.57 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก

1.ปตท.สผ. ปิดที่ 130.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

2.ปตท.ปิดที่ 228.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

3.ปตท.เออาร์ ปิดที่ 21.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

4.บ้านปู ปิดที่ 420.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

5.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 76.25 บาท ลดลง 2.25 บาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผช.ผอ.อาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดภูมิภาค รวมทั้งได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากกรณีไฟไหม้แหล่งมอนทาราของ บริษัท ปตท.สผ. จึงฉุดให้หุ้น ปตท.สผ. และ ปตท.ปรับตัวลดลง ซึ่งหุ้นทั้ง 2 ตัว มีน้ำหนักในตลาดค่อนข้างมาก

ส่วนแนวโน้มวันที่ 4 พ.ย.นี้ มองว่า ดัชนีมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ทั้งใน และต่างประเทศช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับนักลงทุนยังไม่มั่นใจตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา ดังนั้น ทิศทางหุ้นไทยจึงขึ้นกับการปรับตัวของตลาดภูมิภาคเป็นหลัก ประเมินแนวรับที่ 657-660 จุด และแนวต้าน 678-680 จุด ด้านกลยุทธ์ ระยะสั้นแนะนำลงทุนหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดี เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และอิเล็คทรอนิคส์ เป็นต้น.