อภิสิทธิ์ สั่งไอซีทีชะลอเปิดประมูล 3จี ส่งตีความ

นายกฯ ยังข้องใจเปิดประมูล 3จี ยังไม่ชัด ติงกระทรวงไอซีทีควรชะลอไว้ก่อน สั่งส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อน ห่วงผลกระทบทีโอที-กสท ประเมินสูญส่วนแบ่งรายได้ 3.6 หมื่นล้าน หากเอกชนโอนลูกค้าจากระบบเดิมไปสู่ 3จี ทั้งหมด

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้รายงานผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบต่อบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม ที่เกิดจากการออกใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3จี ต่อที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมมอบหมายให้ กทช. รับเป็นข้อสังเกตรวมถึงอำนาจของกทช.ในการออกใบอนุญาตว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ กทช. ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

"นายกฯ บอกว่า ถ้ากทช.คิดว่าไม่หารือกฤษฎีกาในเรื่องการออกใบอนุญาต 3จี รัฐบาลก็คงทำหนังสือหารือไปเอง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในประเด็นด้านกฎหมาย" นายกอร์ปศักดิ์กล่าวและว่า ในประเด็นภาพรวมของการประมูลคลื่นความถี่ของกทช. ในเชิงกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่มีการคัดเลือกกรรมการ กทช. ทดแทนกรรมการที่หมดวาระและที่ลาออก กทช.ควรหารือหารือข้อกฎหมายกับกฤษฎีกาในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนด้วยอีกประเด็น

ทั้งนี้ ปัจจุบันการเปิดประมูลโครงการโทรศัพท์มือถือระบบ 3 จีของกทช.ยังไม่มีความชัดเจน ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ เห็นว่ากระทรวงไอซีที ควรรอความชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมาย และเงื่อนไขการประมูลของกทช.ก่อน ว่าจะออกใบอนุญาตกี่ใบ เงื่อนไขเป็นอย่างไร เพราะถ้าเงื่อนไขที่ออกมาส่งผลกระทบ และมีนัยสำคัญต่อแผนการเงิน อาจจะต้องปรับแผนธุรกิจใหม่ กระทรวงไอซีที จึงน่าจะชะลอการลงทุนโครงการ 3 จีไว้ก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจน ซึ่งกทช.ชี้แจงว่าเงื่อนไขการออกในอนุญาต 3จีจะชัดเจนภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ หลังจากรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ยังได้สอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า การแก้ไขสัญญาสัมปทานของทีโอทีและ กสท โทรคมนาคม ไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ พ.ศ. 2535 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการมอบหมายให้ 2 หน่วยงาน ไปแก้ไขให้ถูกต้องเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ครม.เศรษฐกิจจึงมีมติให้กระทรวงคลัง และกระทรวงไอซีที ไปพิจารณาแนวทางแก้ไขแล้วเสนอกลับมาให้พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์

แหล่งข่าวจากที่ประชุม เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีที ได้ประเมินผลกระทบที่ทีโอทีและ กสท จะได้รับจากการออกใบอนุญาตโทรศัพท์ 3 จี ของกทช.ว่าหากผู้ประกอบการรายเดิมโอนลูกค้าจากระบบเดิมทั้งหมดไปสู่ระบบ 3 จี จะทำให้ทีโอทีและ กสท โทรคมนาคมสูญเสียส่วนแบ่งรายได้เกือบ 3.68 หมื่นล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น การสูญเสียรายได้ของทีโอที 1.8 หมื่นล้านบาทต่อปี และการสูญเสียรายได้ของ กสท โทรคมนาคมอีก 1.88 หมื่นล้านบาทต่อปี มีผลให้ผลประกอบการในภาพรวมของ กทส โทรคมนาคม ขาดทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต่อปี