ฮุนเซนประกาศชัดตั้งทักษิณที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

ฮุนเซนประกาศชัดตั้งทักษิณที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ควบกุนซือใหญ่รัฐบาลเขมร กกต.สอยมานิตพ้นรมช.สธ.

ฮุนเซนตั้งแม้ว นั่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจ สตช.แจง กมธ.ยุติธรรมขั้นตอนถอดยศ-ริบเครื่องราชฯ ผอ.สำนึก อาลักษณ์ฯ เผยยกร่างหนังสือกราบบังคมทูลให้ถอดยศ-ริบเครื่องราชฯ ทักษิณ ไว้แล้ว รอเอกสารครบนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ภายใน 3 วัน ยอมรับเรียกคืนตระกูลจุลจอม เกล้าฯ ต้องให้ สำนักราชเลขาธิการ เป็นเจ้าภาพ ส่วน ตำรวจ ขึ้นบัญชีถอดยศอดีตนายกฯ ลำดับที่ 15 มีชื่อ ป๋าลอ ต่อท้าย ขณะที่ สุทัศน์ เล่นบทฝ่ายค้านช่วย เพื่อไทย รุมซักด้วย ด้าน กกต. เชือด มานิต เด้งที่สอง ถือหุ้นสื่อขาดคุณสมบัติ รมต. ส่งศาล รธน. สอยอย่างเป็นทางการ ฝ่ายเจ้าตัวโอด รธน.ปี 50 ทำพิษ ยันไม่ไขก๊อก อ้างขอสู้คดีสร้างบรรทัดฐาน ส่วนสภาหวิดล่มซ้ำซาก ฝ่ายค้าน วอล์กเอาต์ประท้วงพวกเดียวกันไม่เล่นเกมด้วย ส่วน เหลิม เป็นโรคฮิตหูดับต้องเข้า รพ. ขณะที่ มาร์ค แย้มรอ ธานี รับเทียบเชิญ

* กกต.ตามบี้ 4 รมต.ถือหุ้น

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงผลการ ประชุม กกต. ว่า จากกรณีที่ กกต. เคยมีมติว่า ส.ส. 29 คน ถือครองหุ้นต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 48 ประกอบมาตรา 265 (2) (4) และเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (6) ไปแล้ว แต่ ส.ส. ทั้งหมดที่ถูกร้องบางคนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบันด้วย ดังนั้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา กกต. จึงมีมติให้คณะกรรมการไต่สวนไปสอบเพิ่มเติมว่า ส.ส. ดังกล่าวที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมีการถือครองหุ้นต้องห้ามจนถึงวันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีด้วยหรือไม่

เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า มีรัฐมนตรี ถือครองหุ้นดังกล่าวรวม 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม 2.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ 3.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และ 4.นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข แต่ในจำนวนนี้มีนายมานิตเพียงรายเดียวที่ถือครองหุ้นต้องห้ามจนถึงวันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในวันที่ 20 ธ.ค. 2551

* มติเสียงข้างมากเชือดมานิต

นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า ในการ ประชุมครั้งนี้ กกต. ได้พิจารณาความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนและมีมติเสียงข้างมากเห็นตามที่คณะกรรมการไต่สวนเสนอว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 ประกอบมาตรา 267 อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7) ของรัฐ ธรรมนูญ จึงให้สำนักวินิจฉัยและคดีดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 182 วรรคสาม ทั้งนี้หุ้นที่นายมานิตถือครองเป็นหุ้นในบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 500 หุ้น ถือครองตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2545-7 ต.ค. 2552 และยังถือครองหุ้นในบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2547 จำนวน 4 ล้านหุ้น ต่อมาได้ขายออกทั้งหมดจำนวน 17 ครั้ง ล่าสุดขายเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2551

ขอยืนยันว่าประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นใหม่ แต่เป็นกรณีที่สืบเนื่องมาจากที่ กกต. วินิจฉัยเรื่องหุ้นของ ส.ส. และเมื่อความปรากฏว่ามีรัฐมนตรีถือหุ้นต้องห้ามทำให้ กกต. เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบว่าการถือหุ้นดังกล่าวเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ จึงไม่ใช่ประเด็นที่ กกต. ต้องการไปตามล้างตามเช็ด

* ส่งศาลวินิจฉัยหลุดรมช.สธ.

เลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า กรณีนี้เป็นคนละกรณีกับการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามมาตรา 269 ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีถือ หุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 5 และหากประสงค์จะรับประโยชน์จากหุ้นที่ถือก็ต้องโอนให้กับบริษัทจัดการหุ้น สำหรับกรณีของนายมานิตเป็นการถือหุ้นต้องห้ามที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตาม 182 (7) อย่างไรก็ตามมติของ กกต. เป็นเพียงความเห็น ส่วนจะมีผลในเรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต่อเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อย่างไรก็ตามกรณีของนายมานิตอยู่ในรายชื่อ ส.ส. 16 คนที่ กกต. มีมติว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ไปก่อนหน้านี้ด้วย

ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช. สาธารณสุข กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดของ กกต. ว่าชี้มูลอย่างไร ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรโดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่ก็พร้อมน้อมรับคำตัดสินของ กกต. และไม่รู้สึกหนักใจ จากนี้ไปการพ้นจากตำแหน่งก็ยังคงมีกระบวน การของศาลรัฐธรรมนูญ

* มานิตโอดรธน.ปี50ทำพิษ

นายมานิต เปิดเผยว่า ตอนเข้ามารับตำแหน่งได้ให้นักกฎหมายช่วยดู และตอนเข้ามาสู่การเมือง หลังเลือกตั้งตรงไหนที่คิดว่าจะขัดต่อคุณสมบัติก็ได้พยายามดำเนินการให้ถูกต้อง ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ค่อนข้างละเอียด หุ้นบางตัวซื้อมาตั้งแต่เริ่มเปิดจองตั้งแต่แรก ๆ บางตัวซื้อมาขายไป แต่บางตัวใบหุ้นหายไปก็มี จึงขอฝากเตือน ไปยังนักการเมืองว่า ต่อไปคนที่จะเข้ามาเล่นการเมืองจะต้องละเอียดรอบคอบพอสมควรเพื่อจะไม่เกิดปัญหา

ต่อข้อถามว่า การลงนามต่าง ๆ ใน ช่วงนี้จะดำเนินการอย่างไร เพราะขั้นตอนการชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญยังอีกนาน รมช. สาธารณสุข กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าในสมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว. สาธารณสุข ดำเนินการอย่างไร และคงต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะทำอะไรได้บ้าง

* ขอสร้างบรรทัดฐานไม่ลาออก

นายมานิต เปิดเผยว่า หลังทราบมติ กกต. ตนได้แจ้งต่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และผู้ใหญ่ภายใน พรรคซึ่งอยู่ระหว่างประชุมพรรคเพื่อจะได้หารือว่าการวินิจฉัยของ กกต. มาจากสาเหตุใด ส่วนจะต้องแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยหรือไม่นั้น เรื่องนี้อยากทำเป็นบรรทัดฐานว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ใบหุ้นที่ถือไว้หายไปจะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ถูกต้อง เพราะตนได้แจ้งความที่เป็นการแสดงเจตนาไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ นายไชยา หลังถูก กกต. วินิจฉัยก็ยังทำงานอยู่ จึงจะดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

* ลูกพี่อุ้มอ้างทำสัญญาขายก่อน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย กลุ่มมัชฌิมา ให้สัมภาษณ์ว่า นายมานิตได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนแล้วซึ่งตนได้ให้กำลังใจพร้อมบอกไปว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นบรรทัดฐาน เนื่องจากหุ้นที่นายมานิตถือนั้นได้มีการขายไปแล้ว แต่เป็นการขายในลักษณะทำสัญญาไว้ก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากใบหุ้นนั้นเกิดการสูญหายและได้แจ้งความไว้เรียบร้อย ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นการขายหุ้นไปแล้ว และถือหุ้นดังกล่าวเพียง 500 หุ้น มูลค่าหลักพันบาทจึงไม่เข้าข่ายแทรกแซงหน่วยงานรัฐได้ อย่างไรก็ตามได้แนะนำให้นายมานิต รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเตรียมที่จะไปชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญ

ไม่ปรับ ถ้าปรับตอนนี้ยุ่งตายเลย และที่สำคัญนายมานิตเป็นคนทำงานดีมีฝีมือคนหนึ่ง จึงไม่มีเหตุผลที่จะปรับออก แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ระบุ

* เทพเทือกยันรัฐนาวาไม่ร้าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณี กกต. มีมติให้นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากถือหุ้นในบริษัทที่มีสัมปทานกับรัฐว่า ตามขั้นตอนต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าจะมีการปรับ ครม. ไปพร้อมกับตำแหน่งรองนายกฯ ของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยดู เร็วไปที่จะตอบ

ส่วนที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความเป็นห่วงความขัดแย้งระหว่างนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กับนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย นั้น นายสุเทพ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยยังไปได้ ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประเมินว่ารัฐบาลจะต้องยุบสภาภายใน 3 เดือนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ พูดตั้งแต่แรกว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้แค่ 3 เดือน แล้วก็ขยายทีละ 3 เดือน

* มาร์ครับดึงธานีช่วยงาน

ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดึง พล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร. เข้ามาช่วยทำงานว่า ในส่วนของ พล.ต.อ.ธานี กำลังคุยกันอยู่หลายเรื่อง เมื่อถามว่า พล.ต.อ. ธานี ตอบรับหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ยังขอเวลาตัดสินใจก่อน

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสข่าวถอดใจจะลาออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข กรณีมีความไม่ชอบมาพากลในโครงการไทยเข้มแข็งของ กระทรวงสาธารณสุขว่า เป็นเพียงข่าวลือ ตนไม่ทราบเรื่อง ขณะนี้ก็ยังทำหน้าที่อยู่ และรอกำลังใจจากสื่อมวลชน เมื่อถามว่าถึงกรณีที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะไปชี้แจงโครงการไทยเข้มแข็งต่อคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จะมีการกำชับอะไรหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ให้ทุกคนพูดไปตามควาริง ในส่วนของตนยืนยันว่าจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์กระทรวง จะไม่ปกป้องนักการเมืองด้วยกันแน่นอน

* ประชา-สุทัศน์รุมซักถอดยศ

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พิจารณากรณีการถอด ยศและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญนายสมชาย พฤฒิกัลป์ ผอ.สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการ ครม. (สลค.) และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร. มาชี้แจง แต่ พล.ต.อ.ปทีป ได้ส่ง พ.ต.อ.โชติกร สีมันตร รองผู้บังคับการกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาชี้แจงแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการซัก ถามนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิ การฯ และนายสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รุมซักถึงกระบวนการการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างละเอียด ทั้งที่ไม่มีการถอดยศข้าราชการตำรวจรายอื่นที่ศาลพิจารณาถึงที่สุด อาทิ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีต ผบช. ประจำ ตร. นอกจากนี้ยังหยิบยกกรณีนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข มาเปรียบเทียบพร้อมตั้งคำถามว่ากรณี พ.ต.ท. ทักษิณ มีการเร่งรัดเป็นพิเศษหรือไม่

* ทักษิณอยู่ในบัญชีลำดับที่ 15

พ.ต.อ.โชติกร ชี้แจงว่า รายชื่อ ข้าราชการตำรวจที่ถูกเสนอให้ถอดยศในวาระต้นของปี 2552 มีจำนวน 15 ราย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนึ่งในนั้น กรณี พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นประเด็นที่เป็นที่สนใจของสังคม ผบ.ตร. ในขณะนั้นจึงส่งเรื่องให้คณะกรรม การกฤษฎีกาตีความ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นกรณีแรกที่มีการถูกพิพากษาโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วน พล.ต.ท.ชลอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาถอดยศเนื่องจากคดีเพิ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา

รอง ผบก.กำลังพล ชี้แจงต่อว่า สาเหตุที่ยังไม่ส่งรายชื่อของผู้ที่ถูกเสนอถอดยศจำนวน 15 รายไปยังสำนักเลขาธิการ ครม. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนไปสู่การนำความกราบบังคมทูลต่อสำนักราชเลขาธิการ เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการขอคัดสำเนาคำพิพากษาและตรวจสอบเครื่องราชฯ ของ พล.ต.ท.ชลอ และนายตำรวจอีก 4 นายที่เพิ่มเติมเข้ามาภายหลัง คาดว่าจะส่งให้สำนักเลขาธิการ ครม. ได้ภายในเดือนนี้ ส่วนระยะเวลาในการถอดยศไม่สามารถตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย

* ยกร่างคำกราบบังคมทูลไว้แล้ว

ด้านสมชาย ชี้แจงว่า เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนจากรักษาการ ผบ.ตร. ทาง สลค. จะส่งต่อให้นายกฯ ให้ความเห็นชอบ ซึ่งมีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว ประกอบกับได้ยก ร่างคำกราบบังคมทูลไว้รอแล้ว ดังนั้นกระบวน การในชั้นของ สลค. คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 3 วันทำการก่อนส่งเรื่องกราบบังคมทูลไปยังสำนักราชเลขาธิการ อย่างไรก็ตาม สลค. ปฏิบัติเหมือนกันทุกกรณี

ส่วนขั้นตอนการเรียกคืนเครื่องราชฯ นั้น ผอ.สำนักอาลักษณ์ฯ ชี้แจงว่า หน่วย งานต้นสังกัดซึ่งเป็นผู้ทำเรื่องขอเครื่องราชฯ จะต้องเป็นผู้ทำเรื่องเรียกคืน กรณีนายรักเกียรติหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ทำเรื่องส่งมา

ขณะที่นายนิพนธ์ วิสิษฐ์ยุทธศาสตร์ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่สบายใจที่มีการพิจารณาเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลจุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เนื่องจากเป็นเครื่องราชฯ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้ในกรณีพิเศษถือเป็นเรื่องพระราชอัธยาศัย ดังนั้นหากมีการเรียกคืนจะถือว่าก้าวล่วงพระราชอำนาจหรือไม่

* มึนเรียกคืนชั้นจุลจอมเกล้าฯ

นายสมชาย ตอบคำถามนายนิพนธ์ว่า ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องเรียกคืนทุกชั้นตรา แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่มีกรณีการเรียกคืนเครื่องราชฯ ตระกูลจุลจอมเกล้ามาก่อน เพราะถือเป็นเรื่องที่พระองค์ท่านพระราชทานมาโดยตรง ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะขอคำปรึกษาไปยังสำนักราช เลขาธิการในการดำเนินการว่าเป็นเรื่องของสำนักราชเลขาธิการหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจที่อยู่ระหว่างเสนอถอดยศที่ตำรวจนำมาแสดงต่อคณะกรรมาธิการฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 20 คน พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในลำดับที่ 15 และมีชื่อของ พล.ต.ท.ชลอ และ พ.ต.ท.ศักดา ช่างเรือ อดีตรองผู้กำกับการจราจร สน.ลุมพินี ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก 14 ปี 4 เดือน ในคดีร่วมกันพราก ผู้เยาว์ กระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ในลำดับที่ 16 และ 17 ตามลำดับ

* เล่นเกมนับองค์ประชุมสภา

วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย ในวาระสอง มาตรา 32 ที่คณะกรรมาธิการฯ แก้ไข หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเลื่อนประชุมกะทันหัน เนื่องจาก ส.ส. อยู่ในห้องไม่ครบองค์ประชุม โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้แก้ไขมาตรา 32 ให้ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎกระทรวงว่าด้วยแผนการบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ ให้ความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ.2519 ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะมีกฎกระทรวงว่าด้วยแผนการบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ ซึ่งผลการลงมติในมาตราดังกล่าวปรากฏว่ามี ส.ส. ลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนน 225 ต่อ 221 เสียง งดออกเสียง 3 และไม่ลงคะแนน 5 ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนแสดงความสงสัยผลคะแนน

* กังขา ปธ.ไม่ยอมขานคะแนน

นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ขอให้ประธานที่ประชุมตรวจสอบองค์ประชุมให้แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่าอาจมีการกดบัตรลงคะแนนแทนกัน แต่หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบองค์ประชุมและยังไม่มีการขานจำนวน นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้สั่งพักประชุมเป็นเวลา 10 นาทีทันที และเมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง นายสุนัย ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า องค์ประชุมคลาดเคลื่อนมาแล้วหลายครั้ง หากกฎหมายผ่านไปแล้วตรวจสอบพบว่าองค์ประชุมไม่ครบจะทำให้มีปัญหาตามมา น่าสงสัยที่นับองค์ประชุมเสร็จสิ้นกลับไม่มีการขานคะแนน ไม่ยอมโชว์ผลคะแนนบนจอภาพ ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนประท้วงว่าควรนับ ส.ส.ฝ่ายค้านที่อยู่ในห้องประชุมด้วย

* เพื่อไทยวอล์กเอาต์ประท้วง

หลังจากที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันนานเกือบชั่วโมง ในที่สุด พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้นได้สั่งให้นับองค์ประชุมใหม่ ผลปรากฏว่ามีผู้เสียบบัตรแสดงตนจำนวน 237 คน ถือว่ากึ่งหนึ่งพอดี ขณะ เดียวกัน พ.อ.อภิวันท์ ได้ใช้สิทธิ ส.ส. นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เสียบบัตรแสดงตนด้วยทำให้มีผู้อยู่ในที่ประชุมทั้งสิ้น 238 คน ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยังคงแสดงความไม่พอใจผลการนับคะแนนในมาตรา 32 เนื่องจากมั่นใจว่ามีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันแน่นอน แต่ พ.อ.อภิวันท์ ได้ขอให้ที่ประชุมเดินหน้าลงมติในวาระสามต่อไป เป็นผลให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เกือบทั้งหมดวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมเป็นการประท้วง ท่ามกลางเสียงโห่ไล่จาก ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์

จากนั้นที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในวาระสามด้วยคะแนน 227 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1

* สภาล่มซ้ำซาก2สัปดาห์ติดกัน

จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ในวาระสองและสามอีก 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ. ..., ร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... โดยทั้งสามฉบับใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

ต่อมาในช่วงค่ำ ขณะที่สภาเตรียมลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษ สายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ในท้องที่เขตบางเขน สายไหม และเขตคลองสามวา กทม. ที่ ครม. เป็นผู้เสนอนั้น พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้ขอตรวจสอบองค์ประชุมก่อน ผลปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 234 คน รวม พ.อ. อภิวันท์ ที่แสดงตนอยู่ในห้องประชุมด้วยเป็น 235 คน ถือว่าไม่ครบกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมที่ต้องมีเสียงกึ่งหนึ่ง คือ 238 เสียง ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ ต้องขอเลื่อนการลงมติและสั่งปิดประชุมในเวลา 19.20 น.

* ปชป.โยนบาปพท.ป่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์ประชุมสภาที่ไม่ครบจนเป็นเหตุให้สภาล่มครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองติดต่อกันในรอบ 2 สัปดาห์ ทั้งที่วิปรัฐบาลและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอ ส.ส.ที่ขาดประชุมว่าจะไม่ส่งลงสมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ แต่องค์ประชุมก็ยังคงล่มซ้ำซาก

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมสภาล่มว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมตลอดสัปดาห์ มีทั้งการประชุมร่วมรัฐสภา และการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในการประชุมร่วมรัฐสภา รัฐบาลต้องใช้เสียง 312 เสียง แต่รัฐบาลมี ส.ส. 273 เสียง หากประเมินเผื่อเหลือเผื่อขาดจะอยู่ที่ 250-260 เสียง จึงต้องอาศัยเสียง ส.ว. ประมาณ 60 เสียงขึ้นไป ดังนั้น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีความพร้อม อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ฝ่ายค้านเหมือนจะป่วนสภา แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายค้านยังใช้เวทีสภาในการแก้ปัญหา และอยากเรียกร้องให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลับมาใช้เวทีสภามากกว่าออกไปเคลื่อนไหวนอกสภา

* เก็บข้อมูลถล่มประกันราคาข้าว

อีกด้านหนึ่ง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระน ครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า การประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ย. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะใช้หอประชุมสนามกีฬาจังหวัด เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและการประชุมพรรค เนื่องจากกว้างขวางและเป็นสถานที่ที่มีทางเข้าออกทางเดียว ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย เนื่องจากในวันดังกล่าวจะมีบุคคลสำคัญของพรรค อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรค นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทัก ษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอดจนแกนนำต่าง ๆ มาร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยด้วยว่า หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นจะมีการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่วัดชัยภูมิ อ.เสนา เพื่อ ติดตามโครงการประกันราคาข้าวที่กำลังประสบปัญหาอยู่ เบื้องต้นคาดว่าสมาคมชาวนาไทยจะส่งตัวแทนยื่นหนังสือให้กับพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะเปิดเวทีปราศรัยย่อยในช่วงเย็น

* เสื้อแดงกรุงเก่ารอรับทัพใหญ่

นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งจังหวัด จะไปต้อนรับสมาชิกพรรคเพื่อไทย และจะเป็นการ์ดให้กับ ส.ส. ที่มาประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนบางกลุ่มไปก่อกวน อย่างไรก็ตามการเดินทางมาประชุมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีกับประชาชน เพราะ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดหลักของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะ ส.ส. 4 ใน 5 คน เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย จึงถือเป็นฐานที่มั่นในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของคนเสื้อแดง

ขณะที่ นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้รับการประสานด้วยวาจาจากแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าจะขอใช้หอประชุมเป็นสถานที่จัดประชุมสัมมนาพรรคเพื่อไทย หากมีหนังสือมาขอใช้หอประชุม อบจ.พระนครศรีอยุธยาคงไม่ขัดข้อง เนื่องจาก อบจ. สร้างหอประชุมขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนเช่าใช้บริการได้

* เหลิมเดี้ยงนอนรักษาหูดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ารักษาตัวเพราะเกิดอาการหูดับฉับพลัน หลังจากเกิดอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน โดยคนใกล้ชิดแจ้งว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พญาไท ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเช้าวันที่ 4 พ.ย. ได้ย้ายมาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เบื้องต้นอาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว แพทย์แจ้งว่าอาการปลอดภัย แล้ว พักอีก 1-2 วันก็กลับบ้านได้ ทั้งนี้ได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วนหลังทราบข่าวก็ได้ทยอยเข้าเยี่ยม ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และได้เข้าเยี่ยม พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ. สส. ที่เข้ารักษาตัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ด้วย

* สั่งทบทวนบทลงโทษ6หัวโจก

อีกเรื่องหนึ่ง ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชิญฝ่ายบริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาพูดคุยเพื่อรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายหลังจากที่ได้หารือกับตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. (สร.รฟท.) เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือกับ รมว.คมนาคม และผู้ว่าการ รฟท. ว่า จากการพูดคุยกันไม่มีปัญหาความขัดแย้งในสิ่งที่น่าจะต้องดำเนินการต่อไป และการให้ความเป็นธรรมกับพนักงานในแง่ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาลก็ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มีคำสั่งของ รฟท. ไม่ให้พนักงานที่ถูกไล่ออกเข้าพื้นที่นั้น รมว.คมนาคม รับที่จะไปทบทวน แต่พนักงานจะต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเดินรถ ส่วนการร้องเรียนที่มีต่อผู้ว่าการ รฟท. และผู้บริหาร รฟท. รวมถึงการหยุดเดินรถที่ อ.ละแม จ.ชุมพร ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะมีการตั้งกรรมการ ตรวจสอบผู้บริหารที่ทำผิดหรือไม่ จะปรึกษากับ รมว.คมนาคม อีกครั้งหนึ่ง

* ยันสหภาพฯหนุนปฏิรูปรถไฟ

สำหรับความปลอดภัยของหัวรถจักรนั้น นายกฯ กล่าวว่า รฟท. จะให้บุคคลภายนอกที่เป็นกลางมาช่วยตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยให้ ส่วนการปฏิรูปรถไฟก็เห็น ตรงกันที่จะให้สหภาพฯ เข้ามาให้ความเห็นประกอบด้วย ทั้งนี้การปฏิรูปองค์กรจะทำในลักษณะของการแยกหน่วยธุรกิจแต่ไม่แยกองค์กร แนวทางนี้สหภาพฯ ก็บอกว่ายอมรับได้ โดยจะนำเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 9 พ.ย.นี้ จะมีการแถลงข่าวใหญ่ในเรื่องการแก้ปัญหารถไฟทั้งระบบ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะมีการแปรรูป ส่วนในเรื่องการปฏิรูปต้องปรึกษาหารือให้ครบและเสนอเข้า ครม. เพื่อให้มีการยกเครื่องทั้งหมด ส่วนแกนนำ 6 คนที่ถูกไล่ออกก็สามารถเข้ามาร่วมรับฟังได้ในฐานะประชาชน แต่ต้องระวังไม่ให้มีการวางยาเกิดขึ้น

* ฮุนเซนตั้งแม้วกุนซือ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า รัฐบาลกัมพูชาประกาศแต่งตั้งให้ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐบาลกัมพูชา โดยแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาเมื่อวันพุธ ซึ่งมีการอ่านออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของกัมพูชา ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับสมเด็จฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา ในด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกฤษฎีกา มีขึ้นเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากสมเด็จฮุน เซน สร้างความขุ่นเคืองแก่รัฐบาลไทย โดยการเสนอให้ที่พักพิงแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook