ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก กลับไปพักอาศัยที่บ้านแล้ว หลังระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก กลับไปพักอาศัยที่บ้านแล้ว หลังระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลกกลับไปพักอาศัยที่บ้านแล้ว หลังระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังฝนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หยุดตก จนระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ราษฎรที่อยู่ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งอพยพไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ของเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกกลับไปทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเอง พร้อมขนสัมภาระกลับอาศัยที่บ้านตามปกติทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตามหน่วยงานในระดับอำเภอและตำบลในพื้นที่ ได้มีการจัดประชุมเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอีก เนื่องจากสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาสแจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมมาปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ โดยปริมาณฝนคาดว่าจะมีสูงถึง 609 มิลมิเมตร ในการเตรียมการรับมือในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานเพิ่มความคล่องตัวของเจ้าหน้าที่ การเตรียมยาและอาหารสำหรับผู้ประสบอุทกภัย และการเร่งขุดลอกคูคลองในพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อไม่ให้ไหลเข้าท่วมในแหล่งชุมชนเช่นที่ผ่านมา ส่วนศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส ได้สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ 75 ตำบล 414 หมู่บ้าน 17 ชุมชน ผู้ประสบภัยทั้งหมด 33,653 ครัวเรือน 133,361 คน อพยพประชาชน 1,697 ครัวเรือน เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บ้านเรือนเสียหายรวม 20 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตร 53,767 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 125,832,171 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook