พร ที่พระเจ้าไม่ประทาน

พร ที่พระเจ้าไม่ประทาน

พร ที่พระเจ้าไม่ประทาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย : นันชนก มีสุวรรณ

โจ้ - ลีซอ - แทมมี่ สามพรีเซนเตอร์ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ไม่ใช่แค่หลงกีฬา แต่เข้าขั้นเชื่อมั่นว่า กีฬา เป็นทุกอย่าง

อ่อนแอ แต่ใจแกร่ง

สมัยเด็ก โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ไม่ ค่อยแข็งแรงนัก เขาโชคร้ายได้รับอุบัติเหตุระหว่างที่คุณหมอทำการผ่าคลอดแม่ของเขา บังเอิญพลาดมีดไปโดนหลัง ทำให้เขาต้องรักษาตัวต่อเนื่อง

บวกกับสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรง โจ้ จึงกลายเป็นเด็กที่ตัวเล็กกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

...แต่ในความโชคร้าย ก็ยังมีสิ่งดีๆ อยู่ พ่อของโจ้ เป็นคุณครูสอนพลศึกษา และมีความรู้ด้านโภชนาการมากคนหนึ่ง

กีฬา บวกกับโภชนาการด้านอาหาร จึงกลายมาเป็นยาขนานเอกสำหรับโจ้ นอกเหนือจากการบำบัดทางการแพทย์

4 ขวบ โจ้ ก็เล่นทั้งฟุตบอลและตะกร้อ ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารครบทุกหมู่ และนมสด ที่เจ้าตัวบอกว่าดื่มมาก ชนิดที่ว่าแทนน้ำกันเลยทีเดียว

จากเด็กขี้โรค ที่ต้องพบแพทย์เป็นประจำ กลับมีชีวิตวัยรุ่นที่แข็งแรง ด้วยส่วนสูงเกือบ 180 เซนติเมตร และกลายเป็นนักตะกร้อทีมโรงเรียน นักตะกร้อเขต คัดเลือกทีมชาติครั้งแรกก็ติดทีมชาติชุด B และได้รับคัดเลือกให้เล่นตะกร้อทีมชาติชุด A ในที่สุด

"ตะกร้อไม่สามารถเป็นอาชีพ แต่ตะกร้อสร้างอาชีพให้ผมได้"

และนี่เป็นพรอีกประการที่โจ้ได้รับจากกีฬา

นอกจากเล่นตะกร้อให้ดีแล้ว ความใฝ่ฝันอีกอย่างของโจ้ ก็คือ รับราชการตำรวจ

โจ้ เคยไปสอบแข่งขันเพื่อเข้า โรงเรียนเตรียมนายร้อยตำรวจ แต่เขาพลาดโอกาส หลังจากนั้นเขาหันมาทุ่มเทความสามารถที่มีให้กับกีฬาตะกร้อมากยิ่งขึ้น เพราะรู้ดีหากเขาสามารถไปถึงทีมชาติ ที่นั่นก็จะมีโควต้าตำรวจ เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เขาได้เดินตามเส้นทางฝัน

ในที่สุดก็ได้ในสิ่งที่ฝัน เขาได้เป็นตำรวจ วันนี้เขาเดินมาถึงยศร้อยตำรวจโทสืบศักดิ์ ผันสืบ และยังคงมีความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานรอเขาอยู่

"เด็กต่างจังหวัดอย่างผม ผมถือว่าผมมาไกลกว่าที่ฝันไว้มาก ถ้าไม่มีกีฬา คิดไม่ออกเหมือนกันว่า ตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน ทำอะไร"

สัจธรรมของแพ้และชนะ

"เด็กผมเล่นทั้งเทนนิสและฟุตบอล แต่ฟุตบอลมีกองเชียร์ มีเพื่อนเยอะดี" ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ผู้ชายหลายกีฬาบอก

ด้วยเสียงกรี๊ดจากรอบสนาม บวกกับมิตรภาพระหว่างคนเล่นกับกองเชียร์ ทำให้ "ลีซอ" หลงเสน่ห์จนถึงขั้นตัดสินใจเลือก ฟุตบอล กีฬากลางแจ้ง แทนที่จะเล่นเทนนิส กีฬาที่ลีซอเล่นตามพ่อตั้งแต่สมัยเด็ก

เหตุผลที่ลีซอ เลือกที่จะเอาดีด้านกีฬาฟุตบอล จนยอมที่จะมีชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นอยู่กับสนามหญ้าสี่เหลี่ยมและลูกบอลกลม แทนที่จะไปเที่ยวเล่นสนุกตามบ้านเพื่อน หรือโรงภาพยนตร์

มองเผินๆ กีฬา สำหรับลีซอ ก็คือสิ่งที่นำมาซึ่งชื่อเสียง เงิน-ทอง และเสียงกรี๊ด เหมือนนักกีฬาดาวรุ่ง ที่มีสโมสรต่างชาติการันตี

เปลือกนอกที่เป็นความใฝ่ฝันของ "ลีซอ"

แต่เมื่อได้ลงเล่นจริง ต้องฝึกซ้อม สิ่งที่ลีซอบอกเขาได้เรียนรู้จากกีฬาฟุตบอลมากมายกว่าที่เขาคิดไว้มาก กีฬาฟุตบอลทำให้มีการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ทางด้านความคิด ต้องมีวินัย รู้จักการอยู่ร่วมกับคนอื่น มีน้ำใจ และที่สำคัญต้องมี "ทีม"

กีฬาฟุตบอลต้องอาศัย ทั้งความสามารถเฉพาะตัว ความสามารถของเพื่อนร่วมทีมอีก 10 คน และคำชี้แนะของโค้ช ผู้ซึ่งผ่านประสบการณ์ และเกมที่เผ็ดร้อนมามากกว่า

"ฟุตบอล ไม่ใช่กีฬาที่เล่นคนเดียว ทุกตำแหน่งสำคัญหมด ทุกคนต้องช่วยกัน เล่นดีคนเดียวไม่ทำให้เกมชนะได้"

สำคัญกว่านั้น กีฬาฟุตบอล ยังสอนให้เขารู้จักคำว่า "เพื่อน" คนที่พร้อมจะให้อภัยเขา และคนที่พร้อมจะให้อภัยเขาเสมอ

ประสบการณ์ในการเล่นกีฬาฟุตบอล ของลีซอเขาผ่านมาแล้วที่ในฐานะของทีมที่ชนะ ทีมที่เสมอ ทีมที่แพ้ และแพ้ทั้งที่เขาคิดว่า เป็นเกมที่เขาทำได้ดีมากกว่าครั้งที่เขาและเพื่อนร่วมทีมได้แชมป์มาเสียอีก

และนี่แหละเป็นสิ่งที่ลีซอ บอกว่า มันคือเกม ที่มาจากกีฬาฟุตบอล ซึ่งใครๆ มักชอบพูดว่า "ฟุตบอล มันกลม เอาแน่เอานอนไม่ได้" แต่สำหรับเขาแล้ว เพราะความกลมของลูกฟุตบอลโดยแท้ ที่สอนให้เขาเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ

"ชนะ-เสมอ-แพ้"

คู่แข่งคือตัวเอง

แทมมี่-แทมมารีน ธนสุกาญจน์" นักเทนนิสหญิงขวัญใจชาวไทย เป็นอีกผู้หนึ่งที่ บอกว่าก็ต้องเรียนรู้ที่จะชนะให้เป็นเช่นกัน

แทมมี่ เล่าว่าเมื่อลงสนามกีฬาแล้วก็ไม่มีใครที่อยากจะแพ้ แต่หากคำนึงผลชนะมากเกินไป จะกลายเป็นการกดดันตนเอง สำคัญคือ เต็มที่และสนุกกับมัน

กีฬาเทนนิส สอนให้เธอรู้ที่จะควบคุมจิตใจ มีสมาธิ เพื่อที่จะได้มีสติในการแก้ปัญหาต่างเฉพาะหน้าที่กำลังจะเข้ามา เพราะทันทีที่ลงสนาม มีเพียงผู้เล่น 2 ฝ่ายเท่านั้น ที่จะเป็นผู้กำหนดเกม

เกมเทนนิส สำหรับแทมมี่ ก็มีทั้ง แพ้ เสมอ ชนะ ซึ่งทุกครั้งที่จบการแข่งขัน เธอก็จะทบทวนดูถึงผลที่เกิดขึ้น

เตรียมตัวพร้อมไหม...

เต็มที่หรือยัง...

ถ้าไม่ เธอต้องฝึกซ้อมให้มากขึ้น สม่ำเสมอเพื่อที่จะได้พร้อมสำหรับการแข่งขันนัดต่อไป ตรงกันข้าม หากทุกอย่างเธอทำเต็มที่แล้ว แต่มีปัจจัยอื่นที่เข้ามาเป็นตัวแปร

คู่แข่งขันแข่งกว่า... พร้อมกว่า...

เธอก็มีหน้าที่ที่ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ เธอจะไปจมอยู่กับความผิดหวัง หรือหลงอยู่กับ ชัยชนะ

"แทมมี่มีคุณพ่อ คุณแม่ และทุกคนในครอบครัวค่อยให้กำลังใจ มีคนไทยทั้งประเทศที่ชื่นชมความสำเร็จรวมกับแทมมี่ ทั้งหมดนี้แทมมี่ถือเป็น กำลังใจ ไม่ใช่แรงกดดัน"

ดังนั้น สิ่งที่แทมมี่ทำ ซึ่งเชื่อว่าไม่ต่างจากนักกีฬาคนอื่น ก็คือ ฝึกซ้อมอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และทำร่างกาย ให้แข็งแกร่ง เพื่อพร้อมรับทุกสนามที่จะต้องเจอ

"แทมมี่ก็ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน แต่ปัญหาหนึ่งที่แทมมี่เจอคือ แม้จะเล่นเทนนิสหนักแค่ไหน แต่น้ำหนักก็ไม่ลด"

เหตุนี้ทำให้เธอตัดสินใจเข้าพบนักโภชนาการ เธอยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อ "สวย" แต่ต้องการความคล่องตัวให้มากที่สุดเมื่ออยู่ในสนาม

และเธอก็พบว่า ระบบการเผาผลาญแป้งในร่างกายเธอนั้นไม่ดี

เกือบ 4 ปี มาแล้วที่ มื้อเที่ยง และมื้อเย็น ของแทมมี่ เป็นเขตปลอดแป้ง ในขณะที่ยังคงฝึกซ้อมเทสนิส และเล่นฟิสเนสอย่างสม่ำเสมอ มุ่งหวังเพื่อว่าแข็งแกร่งและคล่องตัวของร่างกาย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook