บันเทิงไทยหัวใจเขมรฮิตเหนือขัดแย้ง

บันเทิงไทยหัวใจเขมรฮิตเหนือขัดแย้ง

บันเทิงไทยหัวใจเขมรฮิตเหนือขัดแย้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"โคนบ้าเดียกาน แค่มอตากาน ก้อข้าวจายอยู่ " ...เสียงร้องคาราโอเกะเพลง "คนบ้านเดียวกัน" ของ ไผ่ พงศธร ที่ลอยมาตามสายลมบริเวณชายแดนตลาดช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ อาจฟังดูแปร่งหู คนร้องอาจเข้าใจความหมายบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่เพลงฮิตติดชาร์ทเพลงนี้ก็ดังลอยตามลมมาให้ได้ยินอยู่เนืองๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

เมื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาเริ่มตึงเครียด ความรู้สึกของคนเมืองกับกระแสรักชาติเริ่มแผ่ขยาย แต่ในอีกมุมหนึ่งของเมืองที่ประชิดติดกันอย่างศรีสะเกษของไทยและเมืองอัลลองเวงของกัมพูชา แม้ว่าชาวบ้านจะวิตกกันอยู่บ้าง เพราะกลัวสถานการณ์จะกระทบต่อการค้า แต่สำหรับความบันเทิงในชีวิตประจำวันแล้ว ช่วงระหว่าง 5 โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ปั่นไฟใช้ จัดเป็นเวลาแห่งความหรรษาที่แทบทุกบ้านจะเปิดทีวี-วีซีดี-ร้องคาราโอเกะกันเสียงดังขรมไปหมด แทบจับไม่ได้ศัพท์ว่ามีเสียงของหนังหรือเพลงอะไรบ้าง

แม้ว่าหนัง-ละคร จะเป็นภาษาเขมร คาราโอเกะเป็นภาษาไทยที่ร้องทับศัพท์ตามตัวสะกดแบบภาษาคาราโอเกะ แต่แทบทั้งหมดเป็นความบันเทิงจากไทยแทบทั้งสิ้น!!!

"ครก ฮก" หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ชาวกัมพูชา พ่อค้าขายซีดีที่ตลาดช่องสะงำ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชื่นชอบความบันเทิงของไทย แม้ว่าจะฟังและพูดภาษาไทยไม่ได้มากนัก แต่เมื่อถามถึงดาราในดวงใจ คำตอบแรกๆ ของเขาคือ "เบิร์ด ธงไชย" "ไผ่ พงศธร"

แต่เมื่อถามถึงศิลปินชาวกัมพูชาที่ชื่นชอบ "ครก ฮก" คิดอยู่นานก่อนจะบอกว่า ชอบ "สุสะ เพีย" ดาราจักรๆวงศ์ๆ ชื่อดังของกัมพูชา ส่วนคนอื่นจำไม่ได้ เพราะดารากัมพูชามีเยอะ !!!

"ครก ฮก" บอกว่า ที่ร้านเขาลงทุนติดจานดาวเทียมที่ซื้อมาจากกัมพูชาด้วยเงิน 80 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,000 บาท ซึ่งสามารถดูทีวีได้ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ชอบรายการทีวีของไทย แต่มีปัญหาคือฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ยกเว้นว่าเป็นละครหรือรายการที่มีพากย์เป็นภาษาเขมรก็จะชอบดูมาก เพราะละครไทยสนุกมาก ส่วนข่าวจะเลือกดูของทั้งกัมพูชาและข่าวฝั่งไทย แต่ข่าวไทยก็ดูได้แต่ภาพเพราะฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน...

สำหรับ "ยวน เฮง" หนุ่มวัย 23 ปี ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวมาอาศัยอยู่ตลาดช่องสะงำ เล่าว่า หัดพูดภาษาไทยเพราะต้องการพูดคุยเชื้อเชิญให้คนไทยซื้อของ จึงพอฟังภาษาไทยได้บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นฟังรู้ทุกคำ เพราะฉะนั้นเมื่อดูละครทีวีไทยจึงยังดูไม่รู้เรื่อง ต้องหาหนังที่มีพากย์หรือแปลมาแล้วจึงจะเข้าใจ โดยส่วนตัวชอบดูหนังไทยมากกว่าหนังกัมพูชา เพราะหนังไทยออกมาใหม่ๆ เรื่อย ไม่เหมือนหนังกัมพูชาที่ส่วนใหญ่จะมีแต่หนังโบราณ จักรๆ วงศ์ๆ ไม่ค่อยมีใหม่ๆ ออกมา

ส่วนเพลงตอนนี้ที่ชอบที่สุดคือเพลง คนบ้านเดียวกัน ชอบเนื้อหาและทำนองของเพลงนี้สนุกดี ฟังบ่อยๆ ก็เริ่มจะจำได้บ้าง นอกจากนี้ที่ผ่านมาก็ชอบเพลงของ "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย ซูเปอร์สตาร์ของไทย โดยเฉพาะเพลง "แฟนจ๋า "ที่โด่งดังจนมีเวอร์ชั่นภาษาเขมรด้วย

"ยวน เฮง" เล่าต่อว่า นอกจากนี้รายการทีวีฝั่งไทยที่คนขะแมร์ส่วนใหญ่ชอบดูคือ ถ่ายทอดชกมวยไทย โดยเฉพาะช่วงเสาร์ อาทิตย์ ก็จะพากันไปดูที่ร้านกาแฟ หรือไม่ก็ร้านก๋วยเตี๋ยว จะเชียร์กันสนุกสนานเสียงดังมาก

เช่นเดียวกับ "สะไล ยา" วัย 26 ปี วัยรุ่นคนหนึ่งที่เดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย พร้อมครอบครัวมาอาศัยอยู่ตลาดช่องสะงำ บอกว่าครอบครัวจะเช่าแผ่นละครไทยที่นำไปแปลเป็นภาษาขะแมร์แล้วมาดู ซึ่งเรื่องหนึ่งๆ จะมีความยาวตั้งแต่ 10-20 แผ่น ค่าเช่าเรื่องละ 50-70 บาท ชอบดูหนังและละครไทย เพราะดูแล้วสบายใจ ดูง่าย และมีหนังแนวใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ทำให้ดูไม่เบื่อ ไม่เหมือนหนังขะแมร์ ที่จะมีแต่หนังเก่าๆ และเป็นหนังโบราณส่วนใหญ่

เมื่อถามว่า ชื่นชอบดาราไทยคนไหนเป็นพิเศษ สะไล ยา บอกว่า เขาจำชื่อดาราไทยไม่ได้สักคน แต่ถ้าดูแล้วก็จะรู้ว่าคนนี้เคยแสดงเรื่องไหนมา จะจำหน้าได้อย่างเดียว

ด้าน "คบฮะ บ๊ะ" วัย 50 ปี พ่อของ สะไล ยา ประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเราไม่สนว่ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาจะมีเรื่องทะเลาะกันอย่างไร แต่ชาวบ้านอย่างพวกเราทั้งชาวขะแมร์และพี่น้องไทยก็ยังเป็นญาติกันเหมือนเดิม เรื่องที่เป็นข้อพิพาทกันขณะนี้เป็นเรื่องระหว่างคนกรุงเทพฯ กับคนพนมเปญ ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อความรู้สึกของการดูหนัง และละครไทย ส่วนปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเขาจะแก้ไขไป พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาได้แต่รอปฏิบัติตามอย่างเดียว

เหล่านี้คือมุมมองและความรู้สึกจากชาวบ้านชายแดนที่ต้องอยู่ร่วมกัน มีสายสัมพันธ์เป็นพี่น้องกันอย่างเหนียวแน่น พวกเขาย้ำชัดเจนว่า...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความสัมพันธ์ของคนสองชาติที่สืบเชื้อสายมาจากชาติพันธุ์เดียวกันมา จะไม่ถูกตัดขาดด้วยเส้นแบ่งแห่งรัฐอย่างแน่นอน

และเสียงเพลงไทยรวมถึงละครไทยก็ยังแว่วมาตามสายลม เป็นที่นิยมของผู้คนของทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนอย่างเป็นปกติ...เหมือนที่เคยเกิดขึ้นทุกวัน!!!

มนูญ มุ่งชู

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook