สมเด็จพระบรมฯ เสด็จแทนพระองค์อัญเชิญอุณาโลมฯ ขึ้นประดิษฐานที่พระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต)

สมเด็จพระบรมฯ เสด็จแทนพระองค์อัญเชิญอุณาโลมฯ ขึ้นประดิษฐานที่พระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงอัญเชิญพระอุณาโลมขึ้นประดิษฐานที่พระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก(หลวงพ่อโต) วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้(14/11/52) เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัชมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงอัญเชิญพระอุณาโลมขึ้นประดิษฐานที่พระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก(หลวงพ่อโต) ภายในพระวิหาร วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ภายในวัดแห่งนี้ประดิษฐานสิ่งสำคัญ อาทิ ศาลพระนางสร้อยดอกหมาก ศาลเทพเจ้ากวนอู และพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต โดยพระพุทธไตรรัตนนายก เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 7 วา 10 นิ้ว ความสูงตลอดรัศมี 9 วา 2 ศอก สร้างขึ้นเมื่อปีชวด พุทธศักราช 1867 ก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี 26 ปี แต่ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง พระพุทธไตรรัตนนายก ได้รับการปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ซึ่งปรากฏหลักฐานการปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญ เมื่อปีพุทธศักราช 2444 ได้เกิดเพลิงไหม้ผ้าห่มพระพุทธไตรรัตนนายก เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2445 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินจากพระราชวังบางปะอิน เสด็จฯ ขึ้นประทับเกยทรงปิดทองพระภัตร์พระพุทธไตรรัตนนายกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2445 เวลาบ่าย 3 โมง 48 นาที หรือ(15.48 น.) แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนปิดทองต่อจนสมบูรณ์ สิ้นทอง 184,807 แผ่น แล้วโปรดให้มีมหรสพสมโภช 3 วัน ต่อจากนั้นได้มีการปฏิสังขรณ์อีกครั้งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2471 นับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันได้ 81 ปี การปฏิสังขรณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยการดำริของพระราชรัตนวราภรณ์(แวว) เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และคณะกรรมการวัดได้สำรวจพบว่า พระพุทธไตรรัตนนายก ได้เกิดรอยร้าวชำรุดตามกาลเวลา จึงได้ถือวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 ปี เมื่อปี พ.ศ.2550 เป็นมหามงคลฤกษ์ในการปฏิสังขรณ์พระพุทธไตรรัตนนายก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ปฏิสังขรณ์ภายในพระวิหารและปิดทององค์พระพุทธไตรรัตนนายกใหม่ทั้งองค์ รวมทั้งได้บูรณะซ่อมแซมพระอุณาโลมที่ประดับกลางพระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก การปฏิสังขรณ์ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วทุกส่วน โดยสิ้นค่าใช้จ่ายในการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งสิ้นเป็นเงิน 40 ล้านบาทเศษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook