พัลลภปัดเอี่ยวยิงเอ็ม 79 ถล่มเวทีพธม.
บิ๊กจิ๋ว บอกอโหสิกรรม สนธิ โยงวางระเบิดบึ้มพันธมิตรฯ อัดไม่น่าเป็นคนแบบนั้น ด้าน"ทักษิณ"ประณามมือปาระเบิดม็อบพธม.บอกคนไทยด้วยกันอย่าทำร้ายกันเลย ขณะที่"ประวิตร-อนุพงษ์" ระบุ ไม่เกี่ยวกับทหาร
(16พ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่พาดพิงว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบปาระเบิดระหว่างที่มีการชุมนุมวานนี้ โดยพล.อ.ชวลิต ได้กล่าวติดตลกว่า "ทำไมให้อยู่แต่เบื้องหลัง ทำไมไม่ให้อยู่เบื้องหน้าบ้างเล่า"
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยื่นฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถ้าฟ้องก็ฟ้องกันตายเลย คงไม่ฟ้อง อโหสิกรรมให้ นอกจากนี้พล.อ.ชวลิต ยังเปรยสั้นๆ ก่อนที่จะรีบขึ้นลิฟท์ไปประชุมว่า "คุณสนธิ ไม่น่าเป็นคนแบบนั้นเลย"
ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวในเว็ปไซต์ทวิตเตอร์ภายหลังเดินทางเยือนประเทศกัมพูชา ว่า "ผมเข้าไทยไม่ได้ไม่เฉพาะเหยียบแผ่นดินเกิดเท่านั้น แม้กระทั่งน่านฟ้าไทยก็ห้ามผ่านเข้ามา เขาสั่งว่าถ้าผ่านมาให้ใช้ฝูงบินขับไล่บังคับให้บินลง"
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีการปาระเบิดป่วนการชุมนุมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ทราบเหตุระเบิดที่หลังเวทีพันธมิตรมีคนบาดเจ็บ ผมขอประณามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดทั้งผู้ลงมือและผู้สั่งการ คนไทยด้วยกันอย่าทำร้ายกันเลย นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวขอโทษที่หายไปหลายวันเพราะเดินทางและงานเยอะมาก ขอขอบคุณคนเสื้อแดงและส.ส.เพื่อไทยที่แวะไปเยี่ยมผมที่กัมพูชาขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจและห่วงใยผม
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุ ว่า เหตุระเบิดหลังเวที่พันธมิตรฯที่ท้องสนามหลวง เมื่อคืนวานนี้(15พ.ย.) มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าไม่มีทหารเกี่ยวข้อง
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดเวทีพันธมิตรฯที่มีการวิจารณ์ว่าเกี่ยวข้องกับทหาร ว่า ไม่เกี่ยว เมื่อถามว่า เกี่ยวข้องกับทหารนอกราชการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุระเบิดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุว่าพบผู้ต้องสงสัยสองราย แต่ปรากฏว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นอาจไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ และเช้าวันนี้(16พ.ย.) ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งว่าระเบิดที่ใช้เป็นชนิดใด เพราะที่ทราบบริเวณสถานที่ระเบิดมีหลุมลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งรุนแรงกว่าระเบิดปิงปอง ทั้ง นี้ตนสั่งการพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชกานแทนผบ.ตร.(รรท.ผบ.ตร.) ให้ดูแลเอาใจใสเรื่องนี้เป็นพิเศษ และยืนยันว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาเอง นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ไปกล่าวหาจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีรายงาน หากพบผู้ต้องสงสัยก็คงดี เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่เกิดเหตุ เพราะ รัฐบาลไม่ยอมประกาศพ.ร.บ.มั่นคงฯ นายสุเทพ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ตนรักษาตามอาการของโรค โรคที่เบาก็กินแค่พาราฯ ต่อข้อถามว่าแต่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นโรคหลายมาตรฐาน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพร้อมจะถูกตำหนิอยู่แล้ว แต่คนที่ตำหนิตนมีมาตรฐานเดียวในใจ ก็จะเข้าใจ
"พัลลภ"ปัดเอี่ยวยิงเอ็ม79ถล่มพันธมิตร
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าวว่า ไม่ว่าใครไปทำอะไรก็มีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องตลอด แต่เมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนทานข้าวกับพล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรค เพื่อนร่วมรุนเตรียมทหาร 10 (ตท.10) ซึ่งไม่ได้ไปไหน
ทั้งนี้คงหาคนทำยากขนาดคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ยิงกลางถนนยังหาคนยิงไม่ได้เลย เหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่ได้ทำ ถ้าทำแล้วจะบอก วันนี้อยากเห็นบ้านเมืองมั่นคงไม่อยากเห็นสงคราม อยากเห็นบ้านเมืองสันติสุข
พัลลภนำ2พยานคดียุบทรท.แถลงข่าว
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 พ.ย.โรงแรมเรดิสัน พล.อ.พัลลภ พร้อมพล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรค เพื่อนร่วมรุนเตรียมทหาร 10 (ตท.10) นำนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้อำนวยการพรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งเป็นพยานปากเอกคดียุบพรรคไทยรักไทย ร่วมแถลงข่าวถึงเบื้องหลังการยุบพรรคไทยรักไทย
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนพร้อมพยานปากเอกมาชี้แจงถึงกรณียุบพรรคไทยรักไทย เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพรรคและคณะผู้บริหารพรรค 111 คน รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพยานปากเอกทั้ง 2 ให้การเป็นเท็จต่อศาลจนนำไปสู่การยุบพรรค แต่วันนี้ทั้งสองสำนึกผิดจึงมาพบตนและพล.ต.ต.มณเฑียร เพื่อแถลงให้คนไทยได้ทราบข้อเท็จจริง แม้เขาจะติดคุกหรือตายก็ยอม แต่การแถลงข่าววันนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สำนึกผิด ต้องว่าตามกระบวนยุติธรรม
