ห่วงลูกติดคุกเขมรแม่วิศวกรวอนรัฐเร่งช่วยเหลือ

ห่วงลูกติดคุกเขมรแม่วิศวกรวอนรัฐเร่งช่วยเหลือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ป่วยหอบหืด-กลัวกำเริบ กษิตขอต่อสายฮอ นัม ฮง

หัวใจแม่รวยริน เป็นห่วงลูกชายถูกขังคุกเขมร มารดา ศิวรักษ์ เผยลูกป่วยหอบหืดเป็นห่วงหากเครียดจัด อาการกำเริบหนัก ฝากความหวังให้รัฐบาลเร่งนำตัวลูกชายกลับบ้านได้สำเร็จ เอเอฟพีรายงานให้เจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมในคุกแล้ว แต่ กษิต ไม่ยืนยันข้อมูล เผยขอต่อสาย ฮอ นัม ฮง เจรจายุติปัญหา ยันประสานครอบครัว ศิวรักษ์ เรียบร้อย นายกฯ ยังมึนไม่คืบหน้าช่วยวิศวกรไทย ลั่นเรื่อง 2 ประเทศจบเองได้ ไม่พึ่งอินโดฯ ช่วยกล่อม ฝ่าย เนวิน ออกหน้าขอ แม้ว ร่ายคาถา ช่วยคลายมนตร์เขมร คืนความสงบ 2 ประเทศ แนะปล่อย ทักษิณ บ้าฝ่ายเดียว เดี๋ยวคนก็เกลียดไปเอง เพื่อไทย เตือน กษิต แก้ปัญหาไม่ดีขึ้น ก็อย่าทำให้แย่ลง นพดล ปัด ทักษิณ คิดล้มรัฐบาล สับปชป.เอาแต่ดีใส่ตัว เผยถ้าเสียงอ่อนอ้อน แม้ว เชื่อนายใหญ่เต็มใจช่วย พัลลภ ลาก 2 พยานยุบพรรค แฉเบื้องหลังรัฐประหาร ปชป.สวนกางหลักฐานให้เห็นด้วย

*ไม่คืบหน้าช่วยวิศวกรไทย

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 17.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ความช่วยเหลือกรณีที่นายศิวรักษ์ ชุติพงศ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกจับกุมในกัมพูชาว่า ขณะนี้ทางกัมพูชายังไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ชัดเจนในเรื่องการจับกุมนายศิวรักษ์ รวมถึงการห้ามเข้าไปเยี่ยมด้วย แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถเข้าพบกับผู้ที่ถูกจับกุม โดยได้มีการติดตามเป็นระยะ ๆ ซึ่งได้พยายามเจรจากับ ทางการกัมพูชาตั้งแต่เมื่อเวลา 12.00 น. จนถึงขณะนี้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ได้รับคำตอบจากกัมพูชา

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เรียกร้องให้ทางกัมพูชาเคารพแนวปฏิบัติตามหลักสากล โดยจะต้องมีการเปิดโอกาสให้เข้าไปเยี่ยมผู้ถูกจับกุมได้ เพื่อให้มีการดูแลเรื่องข้อกฎหมาย และสภาพความเป็นอยู่ ทั้งนี้ถ้าในกรณีที่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในระยะเวลาอันใกล้ ทาง กระทรวงการต่างประเทศจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เมื่อถามถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสนอว่า พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมเจรจากับทางการกัมพูชาเพื่อขอให้ปล่อยตัวนายศิวรักษ์ นายกฯ กล่าวว่า ที่จริง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้สร้างปัญหาไว้

*ยังไม่พึ่งอินโดฯช่วยเจรจา

ผมคิดว่าถ้าได้มีการพูดคุยกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ทางกัมพูชาก็น่าจะต้องดำเนินการตอบสนอง มิเช่นนั้นจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย แล้วเกิดปัญหาขึ้นอีก ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร นายอภิสิทธิ์กล่าว ต่อ ข้อถามถึงกรณีที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รับเข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นที่จะต้องให้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะถือเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันได้

ส่วนกรณีที่จะมีการทบทวนข้อตกลงและโครงการให้ความช่วยเหลือกัมพูชาด้านต่าง ๆ นั้น นายกฯ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 17 พ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้เสนอเรื่องเข้ามา ทั้งนี้ตนขอย้ำให้ทางกัมพูชาปฏิบัติตามหลักสากลในทุกเรื่อง เพราะประเทศไทยไมได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามว่าคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามท้าทายรัฐบาลไทยด้วยการมาอยู่ใกล้ประเทศหรือ ไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนแปลกใจว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศไทย

*กษิตต่อสายฮอ นัม ฮง

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ แถลงว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชา ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาด ไทย และกรมราชทัณฑ์ของกัมพูชา ในการขอเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยม ทั้งนี้ตนได้แจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาแล้วว่าในเวลา 18.00 น. จะโทรศัพท์สายตรง ถึงนายฮอ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ที่อยู่ในระหว่าง การเดินทางไปอิตาลี เพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ และตนจะมีหนังสือถึง รมว.ต่างประเทศกัมพูชาด้วย

นายกษิต กล่าวอีกว่า ส่วนการประสานงานกับครอบครัวของนายศิวรักษ์ที่อยู่ที่ จ.นครราชสีมานั้น ทางกระทรวงได้พูดคุยและรายงานสถานะล่าสุดของนายศิวรักษ์ และรับฟังความห่วงใยจากครอบครัวอย่างเต็มที่ และในช่วงบ่ายก็ได้ส่งรองอธิบดีกรมการกงสุลเดินทางไป จ.นครราชสีมา เพื่อให้ข้อมูลกับทางครอบครัวแล้ว นอก จากนี้ในช่วงเช้าตนได้พบกับนายเจริญรัตน์ วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทสามารถฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยตนได้ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อเรื่องนี้

*เร่งช่วยเป็นเรื่องชีวิตมนุษย์

นายกษิต ระบุว่า จนขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากกัมพูชาเป็นลายลักษณ์อักษรในเรื่องข้อกล่าวหา ส่วนประเด็นที่ระบุว่านายศิวรักษ์มีโรคประจำตัวก็ได้รับการยืนยันจากกัมพูชาว่ามียาทุกอย่างพร้อม แต่เราอยากจะมีคนของเราเข้าไปสอบถามอาการ หรือจัดหาแพทย์เข้าไป หรือจัดเตรียมยาประจำที่นายศิวรักษ์ต้องการไว้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นการเมืองหรือไม่ นายกษิต ปฏิเสธทันทีว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ที่ชื่อ นายศิวรักษ์ อย่าไปโยงกับเรื่องอื่น เขาเป็น พนักงานบริษัทไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ต่อข้อ ถามถึงกรณีนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขา นุการเอกประจำสถานทูตไทยฯ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นายคำรบได้มารายงานตัวต่อกระทรวงแล้ว ซึ่งยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีของนายศิวรักษ์ เพราะข้าราชการของสถานเอกอัครราชทูตไม่ใช่เจ้าหน้าที่โจรกรรม เราต้องเชื่อในความซื่อสัตย์สุจริตของข้าราชการ

*สื่อนอกตีข่าวเขมรให้เยี่ยม

วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาว่า นายกอ ยกวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาแถลงว่า รัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ ลูกจ้างของบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์ วิส ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในข้อหาทำจารกรรม ด้วยการให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลเที่ยวบินของเครื่องบินส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ

ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 16 พ.ย.นี้ กัมพูชาจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทย เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ เมื่อเวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่เรือนจำซึ่งผู้ต้องสงสัยชาวไทยผู้นี้ถูกควบคุมตัวอยู่ อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้รับการยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวที่ออกจากกัมพูชาต้องตรวจสอบอีกครั้ง ยังไม่ขอยืนยันใด ๆ

*แม่ห่วงลูกชายป่วยหอบหืด

นางสิมารักษ์ ณ นครพนม ครูชำนาญการประจำวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา มารดา นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม กล่าวว่า ยังรู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก เพราะตั้งแต่เดินทางกลับไปประเทศเขมรเมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากลูกชายเลย เพราะปกติลูกชายจะเป็นฝ่ายติดต่อมาหาตนทุกสัปดาห์ ๆ ละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย กระทั่งมารู้จากกระทรวงการต่างประเทศว่าลูกชายถูกจับกุมก็รู้สึกตกใจและเป็นห่วง ไม่รู้จะกินนอนหรืออยู่อย่างไร รวมทั้งลูกชายยังมีสุขภาพไม่ค่อยดีด้วย มีโรคประจำตัวคือ โรคหอบหืด เวลานอนหลับมักจะมีปัญหาเรื่องการหายใจติด ๆ ขัดๆ จึงอยากให้ทางรัฐบาลไทยหาทางนำตัวลูกชายกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

ลูกชายไปทำงานกับบริษัทสามารถนานกว่า 10 ปีแล้ว เขาบอกว่าทำงานที่นั่นสบาย ๆ ไม่ลำบาก มีความสุขดี ชีวิตส่วนตัวก็ยังเป็นโสด ไม่มีแฟน มีแต่เพื่อน ๆ คนไทยที่ทำงานด้วยกัน และก็มีเพื่อนที่เขมรด้วย หลังทราบข่าวตนไม่สบายใจมาก แต่พอได้รับการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เพราะเขาให้กำลังจและความมั่นใจว่าจะนำตัวลูกชาย กลับบ้านได้อย่างแน่นอน นางสิมารักษ์ กล่าว

*ไม่ถึงขั้นต้องจารกรรมข้อมูล

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือวิศวกรไทยที่ถูกจับกุมในกัมพูชาว่า การเข้าไปดูแลเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กงสุลไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกัมพูชา ซึ่งต้องเข้าไปดูว่าทางการกัมพูชาตั้งข้อหาอย่างไร และมีการปฏิบัติอย่างไร คนของเราปลอดภัยเรียบร้อยดีหรือไม่ ในเบื้องต้นคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนชาติอื่นที่อยู่กับเรา แม้ว่ารัฐบาลจะมีปัญหากันและเราดูแลสถานทูตกัมพูชารวมทั้งชาวกัมพูชาเป็นอย่างดี ดังนั้นทางกัมพูชาต้องดูแลประชาชนคนของเราดีเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการตั้งนักกฎหมายไปช่วยว่าความทางคดีให้กับวิศวกรไทยที่ถูกจับกุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทางบริษัทต้นสังกัดของวิศวกรไทยที่ทำงานอยู่คงจะดูแลได้ ทั้งนี้ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงกรณีที่ระบุว่าวิศวกรคนดังกล่าวมีความสนิทสนมและนำข้อมูลไปให้กับเลขานุการเอกอัครราชทูตไทย แต่ตนเชื่อว่า คนที่ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันก็ต้องรู้จักมักคุ้นกันและไปมาหาสู่คบค้าสมาคมกันเป็นปกติ การที่มากล่าวหาว่าเราไปทำจารกรรมข้อมูลจะทำไปทำไม ในเมื่อมีข้อมูลในการบันทึกของวิทยุการบินอยู่ชัดเจนแล้วดังนั้นการตั้งข้อหาว่าเป็นการจารกรรมข้อมูลน่าจะไม่ใช่ข้อหาที่ถูกต้อง

*สับแม้วยิ่งป่วนคนยิ่งเกลียด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประกาศในการชุมนุมจะรวมเงินตั้งค่าหัว พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นการกดดันให้รัฐบาลเร่งติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามอยู่แล้ว แต่ละประเทศก็มีอธิปไตยของตัวเอง ส่วนที่ยังไม่มีการยื่นร้องขอตัวต่อศาลกัมพูชาเหมือนกรณีร้องขอตัวนายราเกซ สักเสนา นั้นเพราะเป็นกรณีที่แตกต่างกัน เพราะกรณี พ.ต.ท.ทักษิณหลบหนีไม่ได้อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน เมื่อเราทำหนังสือขอไปยังกัมพูชาเขาก็ปฏิเสธชัดเจนไม่ได้มีโอกาสไปต่อสู้กันในศาล

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าคดีพ.ต.ท.ทักษิณเป็นแค่คดีลหุโทษทำไมจึงมีการบี้กันจนจะให้ล้มหายตายจากแผ่นดิน นายสุเทพ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำอย่างนั้นเพราะไม่ใช่นิสัยคนไทย เราไม่ได้ตามไล่ล่าที่จะสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะให้ล้มหายตายไป แต่เป็นหน้าที่เมื่อหลบหนีกฎหมายก็ต้องตามจับกุมตัว เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมากัมพูชาบ่อย ๆ เพื่อให้คำปรึกษา กังวลหรือไม่ว่า จะมาป่วนประเทศไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่กังวล คุณทักษิณยิ่งมาทำให้บ้านเมืองเราปั่นป่วนเท่าไหร่ ประชาชน คนไทยก็จะโกรธคุณทักษิณมากเท่านั้น ก็จะเสียหายกับคุณทักษิณเอง

*บัวแก้วเร่งเจรจาช่วยเหลือ

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขา ธิการนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์การช่วยเหลือวิศวกรไทยที่ถูกจับกุมในประเทศกัมพูชาว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติด ต่อประสานเพื่อขอเข้าไปดูแลเช่นเดียวกับกรณีที่คนไทยในต่างแดนถูกดำเนินคดี และได้ส่งสิ่งของที่จำเป็นให้กับคนไทยแล้ว ขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายขอรอดูข้อกล่าวหาที่ชัดเจนก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะถือเป็นกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาซึ่งเราต้องเคารพ และเชื่อว่าจะเป็นข้อกล่าวหาที่เราต่อสู้ได้

นายปณิธาน กล่าวต่อว่าในการเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปกของนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศได้สอบถามเกี่ยวกับปัญหาไทยกัมพูชาเนื่องจากต้องการเห็นการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยดี แต่เราต้องระมัดระวังและต้องเฝ้าระวังในอีกหลายจุด เช่น การชุมนุมภายในประเทศจะต้องระวังไม่ให้มีการพาดพิงหรือระวังไม่ให้ มีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเพราะอาจทำให้กัมพูชารู้สึกไม่พอใจได้

* รอกัมพูชาแจ้งข้อหาอะไร

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึง การให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมว่า หลังจากที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศและกรมราชทัณฑ์กัมพูชา เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ภายในเรือนจำเพซอร์ ขณะนี้ฝ่ายไทยกำลังรอคำตอบจากกัมพูชาอยู่ว่าข้อกล่าวหาที่เป็นทางการคืออะไร สภาพความเป็นอยู่ของนายศิวรักษ์เป็นอย่างไร และจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยเข้าเยี่ยมหรือไม่ ซึ่งเราพยายามพบนายศิวรักษ์ในวันที่ 16 พ.ย. ให้ได้

นายชวนนท์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามถ้ากัมพูชาปฏิเสธไม่ให้เข้าเยี่ยมก็ต้องมีเหตุ ผลที่ดีพอ ทั้งนี้ในส่วนของข้อกล่าวหานั้นถ้ามีการพาดพิงถึงรัฐบาลไทยว่าเป็นการโจรกรรมเพื่อนำข้อมูลมาให้รัฐบาลไทย เราต้องปฏิเสธทันทีและช่วยเหลือนายศิวรักษ์อย่างเต็มที่ เพราะเราไม่มีนโยบายที่จะทำเช่นนั้นและเราสามารถพิสูจน์ได้ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาต้องเสนอพยานหลักฐานที่ชัดเจนในการกล่าวหาคนไทยแต่เขายังไม่ตอบกลับว่าจับในข้อหาใด

* เรียกทูตยูเออีเข้ารับข้อมูล

นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รมว. การต่างประเทศ แถลงหลังเชิญนายมูฮัมมัต อาลี อะห์เมด อัล ชามซี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประจำประเทศ ไทยมาพบที่กระทรวงว่า ได้เชิญทูตยูเออีมาเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากที่นายกษิต ได้มีหนังสือลงวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ไปถึง รมว.ต่างประเทศยูเออีแล้วเกี่ยวกับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากกัมพูชากลับไปที่ดูไบ นอกจากนี้ยังได้มอบเอกสารเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ไทม์ส ออนไลน์ ฉบับเต็ม พร้อมกับคำให้สัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรงอีก 2-3 ฉบับ ซึ่งเนื้อหามีหลายประเด็นที่ระบุชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่ดูไบรวมถึงการดำเนินการทางการเมืองระหว่างที่อยู่ในยูเออี แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ดูไบเป็นที่ขับเคลื่อนทางการเมือง

* เนวินขอแม้วเป่ามนต์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนอยากฝากข้อความไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจจากสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา และฝากไปถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วกลับมาบอกว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างดียิ่ง ตนอยากบอกว่ามีคนไทยคนไหนบ้างที่ได้เป็นถึงที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ถ้ามีความสัมพันธ์กันอย่างดีอย่างนี้ ก็อยากกราบขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หากยังคิดว่าตัวเองเป็นคนไทยอยู่ ขอได้ใช้ฐานะที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน ช่วยคนไทยที่ถูกดำเนินคดีและอยากขอให้ ส.ส.เพื่อไทยที่เดินทางไปกัมพูชาได้ให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกรัฐบาลกัมพูชาดำเนินคดีและถูกจับกุมอยู่ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ตนอยากฝาก

ผมว่าไม่เกินกว่าวิสัยที่จะดำเนินการได้ เพราะเรื่องใหญ่กว่านั้น สมเด็จฮุนเซนยังแสดงออกเพื่อปกป้องท่านเลย ดังนั้นเรื่องของคนไทยหากนายกฯทักษิณเอ่ยปาก หรือมีใจที่จะปกป้องคนไทยด้วยกัน ก็น่าจะกระทำได้ เมื่อถามว่า ในทางการข่าวคนไทยที่ถูกจับกุม ทำผิดจริงหรือไม่ นายเนวิน กล่าวอีกว่า ไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่เห็นมาในทุกเรื่อง ไม่ว่าคนชาติใดไปกระทำความผิดในประเทศไหน ตนก็เห็นตัวแทนของประเทศนั้น ๆ เขาช่วยคนของเขา โดยยังไม่ต้องไปดูรายละเอียด

* ชี้ไม่ปกติจับวิศวกรไทยขัง

ส่วนที่กัมพูชาไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้าเยี่ยมผู้ถูกจับกุมนั้น นายเนวิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เมื่อไม่ให้รัฐบาลหรือตัวแทนของรัฐบาลไทยเข้าไปดูแลคนไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ก็ช่วยกรุณาดูแลคนไทยด้วย เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน เว้นแต่ท่านคิดว่ามีสถานะที่แตกต่างจากคนไทยที่ถูกดำเนินคดีแล้วเท่านั้น เมื่อถามว่ายังหวังกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อีกหรือ นายเนวิน กล่าวว่่มีความเห็น แต่พฤติกรรมจะเป็นคำตอบ

เมื่อถามว่าจะทำให้มองได้ว่าศักย ภาพของรัฐบาลมีไม่พอหรือถึงต้องเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณช่วย นายเนวิน กล่าวว่า ตนมองว่าการที่คนไทยถูกดำเนินการอยู่ในกัมพูชาเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องปกติ และมันมีต้นเหตุมาจากเรื่องเดียว คือการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มารับตำแหน่งที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ดังนั้นเหตุเกิดที่ใดก็ควรจะระงับเหตุที่นั่น อย่างไรก็ตามตนคิดว่าเรื่องนี้คงไม่พัฒนาไปจนส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่ทำมาหากินตามแนวชายแดน

* เตือนกษิตอย่าทำให้แย่ลง

นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศพรรคเพื่อไทยและอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศชิลีและภูฏาน กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ตนเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นเงื่อนไขให้บานปลายและรุนแรง รัฐบาลไทยไม่ควรปล่อยให้กุล่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวโดยใช้ประเด็นเหล่านี้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และรัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับทางการกัมพูชา ส่วนกรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ประกาศว่าไทยควรลดระดับความสัมพันธ์ขั้นรุนแรงกับกัมพูชานั้นตนเห็นว่าถ้านายกษิตไม่สามารถ ทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศดีขึ้นได้ ก็อย่าทำให้เลวลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรงดเดินทางเข้ากัมพูชาเพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งหรือไม่ นายพิทยา กล่าวว่า ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็คงคิดหนักการเดินทางมากัมพูชาล่าสุดก็เพื่อตอบรับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ แต่การทำหน้าที่ต่อไปก็สามารถใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารได้หลายวิธี เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะพิจารณาสถานการณ์ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจใด ๆ

* โต้แทนแม้วล้มรัฐบาล

นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. การต่างประเทศและที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้กัมพูชาเป็นฐานเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลให้ได้ภายในสิ้นปีนี้นั้นว่า เป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความคิดใช้กัมพูชาเป็นฐานเคลื่อนไหวและไม่เคยคิดใช้กัมพูชามาทำร้ ายคนไทยและประเทศไทย พรรคประชาธิปัตย์พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ คนอื่น โดยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหลัก ยัง ไม่มีกำหนดการเดินทางเข้ากัมพูชา ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจผ่านทางสื่อสารออนไลน์และ อีเมลได้

นายนพดล กล่าวว่า คณะทำงานด้านกฎหมายและคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ ประเมินว่ารัฐบาลจะใช้ประเด็นชาตินิยมมาทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป เพื่อกลบเกลื่อน 2 ประเด็น คือ กรณีปราสาทพระวิหารที่นายอภิสิทธิ์ เคยบอกว่าประเทศไทยสามารถรื้อคดีและเรียกร้องสิทธิคืนได้ และประเด็นที่สองคือกรณีที่ดินใต้ปราสาท ซึ่งทั้งสองประเด็นต่างเป็นความเท็จและไม่สามารถดำเนินการได้จริง อย่างไรก็ตามเรามีคำกล่าวที่ว่า รักชาติ ยิ่งชีพ แต่วันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯและคนอีกหลายคนกำลังเอาชาติมาเลี้ยงชีพ

* เผยนายใหญ่พร้อมช่วยเจรจา

นายนพดล กล่าวว่า สำหรับกรณีที่วิศวกรไทยถูกทางการกัมพูชาจับกุมข้อหาจารกรรมข้อมูลลับนั้น จากที่ตนได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุดมีความเห็นว่าอยากให้กัมพูชาปฏิบัติต่อวิศวกรไทยรายนี้ด้วยความเป็นธรรมเช่นคนไทยคนหนึ่ง โดยเปิดโอกาส ให้เจ้าตัวได้พบปะญาติ เจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยและเปิดให้มีทนายความเข้าร่วมรับฟังการสอบสวน ซึ่งตอนนี้ต้องสันนิษฐานว่าวิศวกรไทยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ความผิดได้

นายนพดล กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิด ขึ้นเป็นกระบวนการภายในของกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอำนาจและไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง เช่น ให้ปล่อยตัวได้ แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมให้การช่วยเหลือหากรัฐบาลไทยโทรศัพท์ไปปรึกษา อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้กัมพูชาได้ให้ความเป็นธรรมกับคนไทยเหมือนกับที่ประเทศไทยได้ให้ความเป็นธรรมกับคนกัมพูชาในประเทศไทย

* แฉซ้ำเบื้องลึกแผน19ก.ย.

ที่โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 กรุง เทพฯ เวลา 11.45 น. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวถึงเบื้องหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 โดยได้นำพยานบุคคล 2 คนมาร่วมแถลงข่าวด้วย คือ นายสุขสันต์ ชัยเทศ และนายชวการ โตสวัสดิ์ พยานคดียุบพรรคไทยรักไทย โดยนายสุขสันต์ กล่าวว่า ตนได้รับการจ้างวานจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลคนหนึ่ง ให้มาทำงานเพื่อชาติเพื่อแก้วิกฤติ ถึงแม้จะหลอกคนไทยก็ต้องทำเพื่อชาติ ผู้ใหญ่คนนั้นให้สัญญาว่าจะช่วยเรื่องคดีอาญา ดูแลความปลอดภัย ให้เงินสนับสนุน 15 ล้านบาท และจะสนับสนุนให้เป็น ส.ส. และจะให้ตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้าไม่ร่วมมือจะโดนคดีอาญา

นายสุขสันต์ กล่าวว่า แต่ที่ผ่านมาถูกเบี้ยว แล้วพยายามติดต่อกลับไปผู้ใหญ่คนนั้นไม่ตอบรับ ตนกลัวไม่ปลอดภัยจึงต้องมาเปิดโปง หากตนติดคุกคนที่ร่วมกับตนต้องโดนด้วย และขอโทษทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน ด้าน พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า พยานทั้ง 2 คน ติดต่อผ่านตนเพื่อมาเปิดเผยข้อมูลเพราะสำนึกผิดอยากให้คนไทยได้รับทราบข้อเท็จจริง ถึงติดคุกหรือตายก็จะยอม ตนจึงพามาชี้แจงในวันนี้

* ปชป.ท้าเอาหลักฐานมากาง

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องที่บุคคลทั้งสองให้การในชั้นศาลเอง ซึ่งศาลมีระบบไต่สวนอยู่แล้ว เมื่อศาลวินิจฉัยอย่างไรก็ถือเป็นที่สิ้นสุดชัดเจนแล้ว ดังนั้นใครที่ดึงบุคคลทั้งสองออกมาพูดเพื่อหวังผลทางการเมืองขอให้ระวัง อาจจะโดนข้อหาให้การเท็จหรือหมิ่นศาลได้ อย่างไรก็ตามตนไม่แน่ใจว่าบุคคลทั่วไปจะเชื่อในคำพูดของบุคคลทั้งสองหรือไม่ ยืนยันได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการวางแผนอย่างที่กล่าวหา

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า 1. คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องการยุบพรรคเป็นที่สุดแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ 2. ตนรู้จักพยานทั้ง 2 คนดีและยืนยันว่าได้ให้อิสระกับเขาไม่มีการบังคับขู่เข็ญหรือว่าจ้างแต่อย่างใด 3. นอกจากพยานทั้ง 2 ปากนี้ ยังมีพยานบุคคลอื่นอีกที่นำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทย บุคคลทั้ง 2 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลเท่านั้น อย่างไรก็ดี ถ้าผู้เปิดเผยคิดว่ามีหลักฐานก็ขอให้นำออกมาแสดงด้วย.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook