แอสเซทพลัสชี้ทองคำมีโอกาสทะลุ 1,200$

แอสเซทพลัสชี้ทองคำมีโอกาสทะลุ 1,200$

แอสเซทพลัสชี้ทองคำมีโอกาสทะลุ 1,200$
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บลจ.แอสเซทพลัส ชี้ระยะสั้นทองคำยังน่าสนใจกว่าน้ำมัน มีโอกาสทะลุ 1,200 ดอลล์ เร็วกว่าที่คาด แนะนักลงทุนปรับกลยุทธ์เล่นรอบสร้างผลตอบแทน

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการลงทุนในทองคำยังคงมีความน่าสนใจกว่าน้ำมัน ดังจะเห็นได้จากข้อมูล ณ วันที 17 พ.ย. 2552 ย้อนหลัง 1 เดือน ทองคำให้ผลตอบแทน 8.0% ในขณะที่น้ำมันให้ผลตอบแทน 1.5% ย้อนหลัง 3 เดือน ทองคำให้ผลตอบแทน 21.0% ในขณะที่น้ำมันให้ผลตอบแทน 9.0%

โดยในระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้า มุมมองการลงทุนในทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและมีโอกาสจะขึ้นไปทะลุระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้เร็วกว่าที่คาดได้เช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์การลงทุนในทองคำที่หันมาลงทุนแทนสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ในขณะที่ดีมานด์จากการผลิตในอุตสาหกรรมและดีมานด์จากเครื่องประดับไม่ได้ลด ลง จึงเป็นปัจจัยบวกให้ราคาทองคำในระยะสั้นยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน

"สำหรับการลงทุนในทองคำระยะสั้นทิศทางยังเป็นขาขึ้นอยู่ โดยนักลงทุนที่มีทองคำอยู่แล้วอาจจะรอโอกาสในการทำกำไรเมื่อราคาปรับเพิ่ม ขึ้นไปแต่จากจุดนี้โอกาสในขาขึ้นอาจจะไม่มากแล้ว ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นอาจจะกำหนดกรอบการลงทุนในลักษณะของการเล่นรอบไป ระหว่าง 1,100 - 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ก็ได้ มีส่วนต่างให้เล่นรอบประมาณ 5% ส่วนนักลงทุนระยะยาวให้รอจังหวะปรับฐานใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปี2010 เพื่อเข้าลงทุนจะเหมาะสมกว่า"

นายวิน ยังกล่าวอีกว่า น้ำมันเองในระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน ความน่าสนใจลงทุนอาจจะสู้ทองคำไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) ส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่ต้องการเห็นราคาน้ำมันสูงกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล เพราะจะทำให้ประเทศขนาดเล็กที่ผลิตน้ำมันได้มีแรงจูงใจที่จะผลิตน้ำมันเพิ่ม เข้ามาในตลาดในขณะที่ดีมานด์ในน้ำมันก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนเหมือนช่วง ก่อนวิกฤติ

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในน้ำมันที่เหมาะสมในระยะสั้นนี้จึงควรลงทุนใน กรอบการเคลื่อนไหวของราคาประมาณ 74-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล มีส่วนต่างผลตอบแทนประมาณ 7-8% ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของน้ำมันจะกว้างกว่าทองคำ นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนไทยที่นิยมการลงทุนระยะสั้นชอบ ลงทุนในน้ำมันนอกเหนือจากการที่น้ำมันเข้าใจง่าย และเป็นเหตุผลว่าทำไมกองทุนน้ำมันส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมจะมีขนาดกองทุนที่ ใหญ่กว่ากองทุนทองคำด้วย

"หลังจากช่วง 3 เดือน ต้องมาติดตามดูทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่4/52 ออกมาดีกว่าที่คาดไว้มากๆ หรือธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็น 2 ปัจจัยหลักที่เป็นบวกต่อทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะสั้นและจะทำให้ ความน่าสนใจลงทุนในทองคำลดลงด้วย เพราะตอนนี้คนหันมาลงทุนในทองคำแทนเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก เช่นเดียวกับทิศทางของราคาน้ำมันที่คงต้องรอดูทิศทางของเศรษฐกิจโลกประกอบ ด้วย"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook