วีลแชร์สัตว์เลี้ยง มีกี่ขาก็ร่าเริงได้

วีลแชร์สัตว์เลี้ยง มีกี่ขาก็ร่าเริงได้

วีลแชร์สัตว์เลี้ยง มีกี่ขาก็ร่าเริงได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย : ภัทรดา ฤทธิ์แตง

มองไปตามท้องถนน หลายคนคงเคยเจอหมา 3 ขา แมว 2 ขา เดินนั่งกันขวักไขว่ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้หงุดหงิดกับความพิการของตัวเองเท่าไหร่

แต่คุณภาพชีวิตน้อยๆ ก็สามารถดีขึ้นได้ด้วย 'วีลแชร์' รุ่นจิ๋ว ขนาดสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ


แม้ว่าวีลแชร์สำหรับสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้เป็นของแปลกใหม่เท่าไหร่ นัก แต่ที่ผ่านมามักจะเป็นการทำแบบตามอัตภาพ ไม่ได้มีคุณภาพหรือมาตรฐานรับรอง วีลแชร์ที่มีผลการรับรองทางการแพทย์รับประกัน พร้อมทั้งรูปทรงที่สวยงามห่อหุ้มวัสดุคุณภาพดีสีสันสดใสจึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยฝีมือของ 'มีมี่' เกวลิน สุรคุปต์ ว่าที่คุณแม่วัย 30 ต้นๆ ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตร 'วีลแชร์สำหรับสุนัข' ภายใต้ยี่ห้อ 'ไทยวีลแชร์ฟอร์ด๊อกส์'

เกวลินเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ 2 ปีแล้ว มีที่มาจาก 'สิงโต' สุนัขแสนรักพันธุ์เชา เชา ที่มีน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมป่วยเป็นโรคอัมพาต จากข้อด้อยทางพันธุกรรม เธอจึงพยายามจะหาวีลแชร์เพื่อช่วยพยุงขาหลังจากในประเทศแต่ไม่พอใจเท่าไหร่ เมื่อลองหาจากต่างประเทศก็มีราคาสูง จึงตัดสินใจทำเอง ใช้เอง ขายเองให้รู้กันไป

"จบปริญญาโทสาขาบริหารเพื่อนักบริหาร จากมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ประเทศไทย แต่มาออกแบบผลิตภัณฑ์(หัวเราะ) และให้เพื่อนผู้เป็นสัตวแพทย์อีก 3 คนเป็นคณะที่ปรึกษาด้านหลักการแพทย์ ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งใช้เวลาพัฒนาสินค้า 6 เดือนเท่านั้นก่อนจะออกวางขาย เพราะคิดว่าทำตรงนี้น่าจะช่วยได้ทั้งสุนัขเราและสุนัขคนอื่น เพราะเราเริ่มต้นราคาขายเพียงสองพันกว่าเท่านั้นเอง"

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ต้องสั่งทำตามอาการ และสัดส่วนจริงของสุนัข เพราะแต่ละตัวแตกต่างกันไป แยกเป็นสองรุ่นหลัก ๆ คือ รุ่น 2 ล้อ และ 4 ล้อ ซึ่งสองล้อเหมาะกับไม่กว้างมากนัก มีพื้นสูง ๆ ต่ำ ๆ เช่น บ้านในต่างจังหวัด เพราะจะคล่องตัวมากกว่า แต่รุ่น 4 ล้อ ซึ่งไม่สามารถขึ้นพื้นต่างระดับได้ จึงลดอัตราการพลิกคว่ำ และช่วยเรื่องการผ่อนแรงขาหน้ามากกว่า เพราะมีล้อคู่กลางลำตัวซึ่งถือว่าดีกว่าตามหลักการแพทย์ เพราะไม่ต้องรัดเชือกกลางลำตัว ทำให้ดีต่อระบบประสาทของสุนัขมากกว่า

ราคาของรุ่น 4 ล้อเริ่มที่ 2.9 และ 3.3 พันบาท ในขนาดประมาณสุนัขไทย แต่หากเป็นพันธุ์ขนาดโกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะเริ่มต้นราคาที่ 3 พันบาทถึง 3.5 พันบาท ส่วนรุ่น 2 ล้อเริ่มที่ราคา 2.5 พันบาท โดยมีอายุการใช้งานของสินค้าอยู่ที่ประมาณ 10 ปีสำหรับตัวโครง ล้อมีอายุประมาณ 2-3 เดือนแต่สามารถซื้อเปลี่ยนได้ในราคาไม่แพง


แม้ธุรกิจต่างๆ จะบ่นกันอุบว่ายอดจำหน่ายลดฮวบตามเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แต่ธุรกิจวีลแชร์ของเกวลินยังไปได้สวย จนต้องเปิดโรงงานการผลิตทุกวัน โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ 100 ตัวต่อเดือน นอกจากวีลแชร์สุนัขแล้ว ตอนนี้ยังขยับขยายไปถึงวีลแชร์แมว กระต่าย หรือแม้กระทั่งตัวนาก!!!

เกวลินบอกด้วยสีหน้าภูมิใจกับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดว่า "เราก็ต้องมานั่งวิจัยผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับแต่ละสายพันธุ์ โดยแมวเริ่มปี 2551 และกระต่ายเริ่มในปีนี้ แต่ใช้เวลาในการวิจัยน้อยลง เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านกายภาพแล้ว แต่ยังต้องศึกษาหาวัสดุที่เข้ากับสัตว์ประเภทนั้นๆ"

ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากในประเทศเกือบทั้งหมด ส่วนที่ขายต่างประเทศจะเป็นผู้ที่เข้ามาเห็นผลิตภัณฑ์ว่ามีประสิทธิภาพ แล้วจึงหิ้วกลับประเทศมากกว่า เพราะน้ำหนักเพียง 1-2 กิโล ด้วยโครงสร้างเป็นเหล็กกลวง แต่ส่วนที่ยากคือ ต้องวัดสัดส่วนทั้งหมด 7 จุดเพื่อสั่งทำวีลแชร์แต่ละตัว ซึ่งเจ้าของสามารถทำเองแล้วส่งข้อมูลมา หรือมาหาที่โรงงาน

"ส่งขายที่โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ ได้แก่ โรงพยาบาลสัตว์จุฬา สุวรรณชาติและตามคลีนิค โดยหมอจะสั่งให้สุนัขที่ป่วยเป็นกรณี ไม่ได้วางขายทั่วไป โฆษณาทางโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที และทางอินเตอร์เนต ทำไปไม่ได้หวังกำไร บางตัวไม่มีตังค์เราทำให้ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะใจรักและอยากช่วยสัตว์ จึงไม่สามารถกะรายได้ผลประกอบการต่อปีที่แน่นอนได้"

สินค้าแต่ละรุ่นใช้เวลาการผลิตไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งความพิเศษคือ ปรับสูง-ต่ำได้ เผื่อในกรณีวัดสัดส่วนคลาดเคลื่อนก็ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้ แต่ทั้งนี้ แนะนำเพิ่มว่า สุนัขจะหยุดโตหลัง 1 ปี เพราะฉะนั้นการสั่งซื้อก่อนหน้านั้นจะทำให้ต้องสั่งทำวีลแชร์ตัวใหม่ในอีก ไม่นานเพื่อให้พอดีกับขนาดของสุนัข แต่ถ้าสุนัขอายุ 6-7 เดือน อาจเผื่อช่วงเหล็กได้ โดยมีลายผ้าที่หุ้มทั้งสิ้นอยู่ 8 ลายให้เลือกสรร

อนาคตทางการตลาดของวีลแชร์ยังคงมีเส้นทางสดใส ด้วยเหตุผลว่า วีลแชร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผ่อนแรงเจ้าของในการดูแลสุนัข เช่น สุนัขสามารถเดินไปขับถ่ายด้วยตนเอง และไม่เกิดแผลจากการลากขาหลัง จึงประหยัดค่ารักษาพยาบาล และถ้าออกแบบมาหน้าตาน่าใช้ก็ยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้เป็นอย่างดี เหมือนที่เจ้าตัวยืนยันให้ฟัง

"ธุรกิจยังไม่มีจังหวะขาลง เพราะไม่มีเจ้าอื่นในเมืองไทยทำสินค้าที่เหมือนเราเปี๊ยบ นอกจากนั้น บางคนยังเห็นเป็นเครื่องประดับ เป็นที่เชิดหน้าชูตาเวลานำสุนัขออกไปข้างนอก เพราะคนอื่นมักจะถามว่าวีลแชร์ดี ๆ ที่มีลายเก๋ ๆ แบบนี้ซื้อที่ไหน"

ธุรกิจเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยพลังใจเช่นนี้ นอกจากจะให้ความสุขกับคนทำแล้ว ยังช่วยให้เพื่อนร่วมโลกตัวน้อยๆ ได้กลับมาวิ่งเริงร่าอยู่คู่กับคนรักสัตว์ไปอีกนาน

รู้ไว้ ก่อนใช้วีลแชร์


-สาเหตุที่ทำให้สุนัขต้องใช้ วีลแชร์กว่า 60% คือ อุบัติเหตุ ที่เหลือมาจากโรคอีกประมาณ 4-5 โรค เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท กระดูกงอกทับเส้นประสาท พยาธิในเม็ดเลือด อุบัติเหตุ ข้อสะโพกเสื่อมฯลฯ ซึ่งเกิดได้ในสุนัขทุกพันธุ์

- การฝึกใช้วีลแชร์สองล้อจะใช้เวลานานหรือไม่ขึ้นอยู่ที่สุนัข เพราะปัญหาคือ ความไม่มั่นใจในตัวสุนัขกับอุปกรณ์ การฝึกใช้เวลาประมาณ 2 วัน โดยเจ้าของต้องลากรถไปข้างหน้าเบาๆ เพื่อแสดงให้สุนัขเห็นว่าการใช้อุปกรณ์เสริมสามารถทำให้ทรงตัวและเคลื่อนไหว ได้ดีขึ้น แต่สำหรับรุ่นสี่ล้อจะไม่ประสบปัญหาดังกล่าว เพราะมีล้อเพื่อช่วยในการทรงตัวให้มั่นคงยิ่งขึ้น สุนัขจึงรู้สึกปลอดภัยมากกว่าประเภทแรก

-ถ้าสุนัขที่ซื้อใช้วีลแชร์เสียชีวิตไปแล้ว สามารถทำการบริจาควีลแชร์ได้ โดยบริจาคที่บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการในกรณีที่เป็นพันธุ์ไทย หรือบริจาคคืนทางบริษัทหากเป็นสายพันธุ์ต่างชาติ เพื่อส่งต่อให้สุนัขที่ขนาดใกล้เคียงกัน

 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ วีลแชร์สัตว์เลี้ยง มีกี่ขาก็ร่าเริงได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook