สรุปข่าวภาค 07.00 น. วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2552

สรุปข่าวภาค 07.00 น. วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2552

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด ที่ถือโอกาสในวันหยุดสุดสัปดาห์ พาบุตรหลานและผู้สูงอายุ ไปลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ที่ศาลาศิริราช 100 ปี ซึ่งนับเป็นวันที่ 63 ของการเปิดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ ต่างใช้โอกาส ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประชาชนที่มีโอกาสมาต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และตั้งใจนำหลักคำสอนของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นคนดีของสังคม สำหรับคณะบุคคลที่ได้นำแจกันดอกไม้มาถวายพระพรหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี คณะลูกเสือแห่งชาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงคณะนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิต บางแค ปานขำ ที่ได้นำสมุดลงนาม พร้อมกับเหรียญในโครงการ 1 เหรียญ 1 คำอธิษฐานเพื่อในหลวงมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย สำนักราชเลขาธิการ ส่งหนังสือยกย่องการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.อาทิตย์ หลังเข้าล่อซื้อยาเสพติดจนถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง ร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ที่วัดตรีทศเทพ ซึ่งญาติได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน และมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. นอกจากนี้ ทางสำนักราชเลขาธิการได้ส่งหนังสือแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ร.ต.อ.อาทิตย์ ที่ต้องสูญเสียกำลังสำคัญของครอบครัว และยกย่อง ร.ต.อ.อาทิตย์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างสมเกียรติ กล้าหาญ เสียสละ และทุ่มเท ทั้งนี้ ร.ต.อ.อาทิตย์ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ขณะเข้าล่อซื้อยาไอซ์ที่ซอยรามคำแหง 127 เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 5 ชั้นยศ เลื่อนยศจาก ร้อยตำรวจเอก เป็น พลตำรวจโท พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและดูแลสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่ครอบครัว นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการไทยเข้มแข็งและประกันรายได้เกษตรกร ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง พร้อมย้ำความมั่นใจแม้เป็นโครงการใหม่ แต่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร แม้จะมีกระแสข่าวว่าจะถูกลอบทำร้าย เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ ยังคงเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการไทยเข้มแข็งและการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรที่ จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก และจังหวัดพิจิตร โดยก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวลแม้อาจถูกกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน สำหรับจุดแรกที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปถึง คือที่จังหวัดสุโขทัย นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจังหวัดพิษณุโลกตรวจเยี่ยมโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่อำเภอวังทอง และจุดสุดท้าย นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการไทยเข้มแข็งและการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรที่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกับประชาชนถึงผลการทำงานของรัฐบาลช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจได้ว่าสภาพเศรษฐกิจกำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น วิกฤตเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ของประเทศกำลังจะคลี่คลายไปทิศทางที่ดี ส่วนการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรเชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศด้วย แม้จะเป็นโครงการใหม่เพิ่งเริ่มดำเนินการ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำพร้อมเดินหน้าโครงการช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนการหมุนเวียนเงินในระบบ สร้างงาน สร้างรายได้ ส่วนโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าเกษตรได้ในราคายุติธรรม และไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ จึงขอให้เกษตรกรเร่งมาขึ้นทะเบียน และภายหลังเดินทางกลับจากลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศให้ 16 อำเภอ ในจังวัดสงขลา เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และได้มอบหมายให้ ส.ส.ลงพื้นที่ ดังกล่าว เพื่อให้ความช่วยเหลือกับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ยังวิกฤต หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักใน จังหวัดสงขลา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมา และในหลายพื้นที่ ฝนยังไม่หยุดตก ทำให้พื้นที่โดยรอบเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มีน้ำจากลำคลอง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบจากกว่า 4,000 ครัวเรือน ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นเร่งให้ความช่วยเหลือ นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากการที่มีฝนตกติดต่อกัน 3 วันทำให้เกิดน้ำท่วมในอำเภอรัตภูมิ หาดใหญ่ นาหม่อม และ บางกล่ำ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 13,000 คน เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว ส่วนความเสียหายขณะนี้ยังไม่มีรายงาน แต่ยืนยันว่าเส้นทางการจราจรยังใช้ได้ตามปกติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดริมคลองให้ระวังน้ำหลาก พร้อมแนะนำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่าน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากให้รีบอพยพไปบนที่สูง พร้อมแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังที่ว่าการอำเภอ หรือกำนันผู้ใหญ่บ้านทันที ด้าน จังหวัดพัทลุง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่ทางด้านการเกษตรสวนยางพาราและนาข้าว โดยเฉพาะที่ตำบลชะรัด อำเภอกงหรา และที่ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน ชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือนต้องอพยพสิ่งเครื่องใช้ขึ้นไว้ที่สูง เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและมีสีแดงขุ่น ขณะที่ การเดินรถไฟระหว่างสถานีหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ ถึงสถานีปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จำเป็นต้องหยุดเดินรถชั่วคราวหลังจากที่เกิดน้ำท่วมรางรถไฟระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลให้ขบวนรถไฟระหว่างประเทศเส้นทาง ลังกาวี-หาดใหญ่ ตกค้างอยู่ที่สถานีปาดังเบซาร์ รวมถึงขบวนรถสินค้าอีกหลายขบวน ที่ต้องจอดอยู่ที่สถานีหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเดินรถไฟสายใต้ทุกขบวนยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมแต่อย่างใด กระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 สำหรับฉีดประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ ซึ่งวัคซีนล็อตแรกถึงไทยปลายเดือนธันวาคมนี้ นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนฉีดป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่สั่งซื้อจากต่างประเทศ ล็อตแรกจะถึงประเทศไทยปลายเดือนธันวาคมนี้ จึงได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 2009 จำนวน 6 คณะ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการวัคซีนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย รวมถึงการควบคุมการแจกจ่ายวัคซีน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยการฉีดวัคซีนจะเริ่มในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง คือ หน่วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมไปถึงผู้ป่วยที่คาดว่าจะติดเชื้อ และจะมีการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการแจกจ่ายวัคซีนและหน้าที่ของหน่วยงานทั้ง 6 คณะ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ที่กรมควบคุมโรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินหน้าจัดกิจกรรม รวมพลคนใช้นำมันแก๊สโซฮอล 91 ในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หันมาใช้แก๊สโซฮอล 91 กันอย่างจริงจัง นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการจัดกิจกรรม รวมพลคนใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ในวันนี้ (22 พ.ย.52) ที่จังหวัดขอนแก่น ว่า ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีรถจักรยานยนต์มากถึง 353,270 คัน มากเป็นลำดับที่ 2 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรองจากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหากกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมดนี้หันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากจะช่วยส่งเสริมการผลิตเอทานอลที่ผลิตจากพืชผลทางการเกษตรแล้ว ยังพึ่งพาพลังงานในประเทศได้อีกด้วย สำหรับโครงการรวมพลคนใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 กับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวัดทุกรุ่นโดยไม่มีผลกระทบเสียหายต่อเครื่องยนต์ ซึ่งกระทรวงพลังงานมีกำหนดจัดงานดังกล่าวไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และขณะนี้จัดไปแล้วในตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี ภาคเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น และกำลังเตรียมจัดในภาคกลางที่กรุงเทพมหานครเดือนธันวาคมนี้ ขณะเดียวกันกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระทรวงพลังงานในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ให้เพิ่มการใช้พลังงานทดแทนเป็นร้อยละ 8 ในปี 2554 และเพิ่มเป็นร้อยละ 12 ในปี 2565 จังหวัดสุโขทัยจัดโครงการไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็งที่บริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด มั่นใจทำให้ประชาชนในจังหวัดมีความสามัคคี นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวถึงการจัดโครงการไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง ซึ่งจังหวัดสุโขทัยเป็นเจ้าภาพลำดับที่ 64 ที่จะจัดขึ้นในเย็นวันนี้ (22 พ.ย.) ว่า ได้กำหนดจัดงานบริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย โดยมีเหล่ามวลชนจากทั้ง 9 อำเภอ มาร่วมร้องเพลงชาติไทยเพื่อแสดงถึงความสมัครสมานสามัคคี คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานประมาณ 20,000 คน ซึ่งการรวมพลังเพื่อร้องเพลงชาติในครั้งนี้ทำให้ชาวจังหวัดสุโขทัยมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักชาติ รักสามัคคี โครงการไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง ของจังหวัดสุโขทัยจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. โดยจะมีการแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป์สุโขทัย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมงาน และชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเพื่อชื่นชมกับบรรยากาศของกรุงเก่าอีกด้วย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอเชิญศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันร่วมงาน 38 ปีรามคำแหง ในโอกาสครบรอบวันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหง 38 ปี ระหว่างวันที่ 24 - 27 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งและแสดงถึงการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีทางศาสนา การแสดงนิทรรศการเปิดบ้านรามคำแหง การอภิปราย และการเสวนาในหัวข้อส่องกระจกมองรามฯ โดย ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วันนี้ (22 พ.ย. 52) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดน่าน ที่หมู่ 1 บ้านห้วยเลา ตำบลชนแดน อำเภอสองแคว หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่ออน ที่บ้านดอยงาม ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ข่าวช่วงที่ 2 เวลา 07.30-08.00 น. -สัมภาษณ์สด นางอุษา จารุภา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ เรื่อง งานฉลองพระชนมายุ 84 พรรษา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสงานฉลองพระชนมายุ 84 พรรษา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี 24 พฤศจิกายน 2552 รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ประชาชนร่วมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามแต่ละศาสนา และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระกุศล นางอุษา จารุภา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์สดรายละเอียดการจัดงาน การเผยแพร่พระประวัติและพระกรณียกิจของพระองค์ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ พระราชวังพญาไท ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี และกิจกรรมที่ประชาชนสามารถร่วมบำเพ็ญกุศลและถวายพระพร -รายงานพิเศษ เรื่อง นักวิจัยไทยปรับปรุงพันธ์ไม้ดอกเยบีร่าพันธ์ใหม่ของโลก 3 ดอกในก้านเดียว นักวิจัยไทยพัฒนาเทคโนโลยีลำไอออนมวลหนัก ปรับปรุงพันธ์ไม้ดอกเยบีร่าพันธ์ใหม่ของโลก 3 ดอกในก้านเดียว มีชื่อเรียกแบบฉบับของไทย ว่าตองสยาม เยอบีร่าสายพันธ์ใหม่ของโลกเกิดขึ้นอีกแล้ว ด้วยความสามารถของนักวิจัยไทย จากหน่วยไอออนไบโอเอ็นจีเนียริ่ง ศูนย์วิจัยนิวตรอนพลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่พัฒนาจนสำเร็จ โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ ถิรพัฒน์ วิลัยทอง ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ และที่ปรึกษาโครงการประยุกต์ลำไอออนมวลหนักกับการปรับปรุงพันธุ์พืช มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยได้ปรับปรุงพันธ์ไม้ดอกเยอบีร่า ด้วยเทคนิคใช้ลำไอออนมวลหนักพลังงานต่ำ หรืออะตอมของไนโตรเจน ยิงเข้าไปในเมล็ดพันธุ์ของดอกเยอบีราให้มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม คล้ายกับการผสมพันธ์ของแมลง จนทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของเยอบีร่าจาก 1 ดอกกลายเป็น 3 ดอกในก้านเดียวจนสำเร็จ มีชื่อเรียกที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัวว่า ตองสยาม เพราะเจ้าไม้ดอกชนิดนี้มีถึง 3 ดอกด้วยกัน และแถมเป็นฝึมือการพัฒนาของคนไทย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะการปรับปรุงพันธุ์ครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคการปรับปรุงพันธ์ครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ "เป็นเยอบีร่า 3 หัวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เราคิดเทคนิคได้ใหม่ในการปรับปรุงพันธ์พืช เราเริ่มตั้งแต่ปรับปรุงพันธ์ข้าวเราก็เอามาทดลองดูว่าจะใช้ได้กับไม้ดอก ปรากฏว่ามันใช้ได้ ทางทีมวิจัยก็ได้เอาไปทดลองกับดอกไม้ชนิดอื่น ชวนชม และมีอีก 2-3 อย่าง ปรากฏว่าใช้งานได้ ชวนชมปกติมี 5 กลีบเราก็พบว่าเราได้ดอกที่มี 4 กลีบ ทำให้ดูแปลกไปกว่าชวนชมปกติ สรุปว่าเราค้นพบวิธีใหม่ที่จะปรับปรุงพันธ์พืช โดยใช้เครื่องยิงอะตอมที่สร้างขึ้นเอง ซึ่งก็นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเองที่พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทยในราคาเครื่องละ 10 ล้านบาท ซึ่งมีราคาต้นทุนถูกกว่าต่างประเทศถึงเท่าตัวที่มีราคาสูงถึง 20 ล้านบาท โดยทีมวิจัยเตรียมจะพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยิงไอออนมวลหนักขนาดเล็ก ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท ภายใต้การสนับสนุนของสภาวิจัยแห่งชาติ เพื่อให้หน่วยงานที่สนใจนำไปทดลองใช้จริง โดยประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกมักนิยมใช้รังสีแกมม่า หรืออิเล็กตรอน ที่มีขนาดเล็ก ยิงเข้าไปเปลี่ยนแปลงพันธุ์ไม้ดอก ซึ่งถือว่ามีความแม่นยำและสำเร็จน้อยกว่าการยิงด้วยลำไอออนที่มีขนาดใหญ่กว่า 2,000 เท่า "ทำวิจัยโดยใช้ลำไอออนมวลหนัก ที่มาใช้ลำไอออนมวลหนัก เพราะถ้าเราสามารถยิงไปถึงเซลล์ข้างในจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างดีมากๆ ปกติเราจะใช้รังสีแกมม่า ซึ่งก็คือใช้อิเล็กตรอน ตัวมันเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับไออน มีขนาดกว่า 2,000 เท่า และความสำเร็จก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยจากหน่วยไอออนไบโอเอ็นจีเนียริ่ง ยังได้ประสบความสำเร็จ ในการยิงลำไอออนมวลหนักให้เกิดการกลายพันธุ์ในข้าวหอมมะลิ 105 สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่ไวแสง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญยังออกรวงได้นอกฤดู และยังประสบความสำเร็จปรับปรุงพันธุ์เยอบีร่า 2 สีในดอกเดียว มีสีแดงแซมเหลือง ที่มีความโดดเด่นสวยงามมากและแตกต่างจากดอกเยอบีราทั่วไปที่มีสีเดียว ซึ่งเทคนิคที่นำมาปรับปรุงพันธ์ที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นความหวังให้กับผู้ที่อยู่ในแวดวงไม้ดอก นำไปพัฒนาพันธ์พืชที่สร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของไทยๆ ตลอดจนเป็นโอกาสให้พวกเค้ากระตุ้นตลาดไม้ดอกให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น -รายการใจเขา ใจเรา โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสพ รัตนากร เสนอเรื่อง คติชีวิต -ท้ายข่าวเสนอธรรมะเพื่อชีวิต โดยพระครูปลัดสุวัฒน์ เมตตาคุณ สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต จังหวัดสระบุรี เรื่อง ผู้บำเพ็ญประโยชน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook