ผู้แสวงบุญชาวไทยแนะรัฐให้ความสนใจสภาวะการตลาดช่วงเทศกาลฮัจย์หาทางนำเงินเข้าประเทศ

ผู้แสวงบุญชาวไทยที่มาประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้เสนอความเห็นว่ารัฐควรให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสินค้าและผู้ประกอบการไทย ให้เข้ามามีส่วนแบ่งการตลาดในเทศกาลฮัจย์อย่างจริงจังเพื่อนำเงินเป็นรายได้ให้ประเทศ นายอัสรี บินอับดุลเลาะห์ รองประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาโรงเรียนอามานะศักดิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ได้แสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลสมควรที่จะให้ความสำคัญต่อการการตลาดในช่วงเทศกาลฮัจย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญจำนวน 3,500,000 คน จากกว่า 200 ประเทศเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ และทุกคนที่มาเป็นผู้ที่มีอำนาจซื้อสูงทั้งสิ้น ภายใน 45 - 50 วันในช่วงเทศกาลฮัจย์ แต่ละคนจะใช้เงินคนละไม่น้อยกว่า 30,000 บาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้อย่างน้อยประมาณ 100,000 ล้านบาทเศษ และจากการสังเกตพบว่าสินค้าที่วางจำหน่ายที่นี่ หากเป็นประเภทของใช้จะนำเข้าจากประเทศจีน และเกาหลี หากเป็นเครื่องประดับหรืออัญมณีจะมาจากประเทศอินเดีย ถ้าพิจารณาในด้านความสวยงามแล้วสินค้าจากประเทศไทยสามารถแข่งขันและทำการตลาดได้ไม่ยาก ดังนั้นหากรัฐบาลให้ความสนใจจริงๆแล้ว สามารถทำการศึกษาและหาวิธีการให้สินค้าจากประเทศไทยเข้ามาจำหน่ายในช่วงเทศกาลฮัจย์แต่ละปี ซึ่งสามารถสร้างงานให้ประชาชนและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก นอกจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะแนะนำสินค้าไทยในโลกมุสลิม