สเปอร์ส ฟอร์มหรูไล่ถล่ม วีแกน 9-1

สเปอร์ส ฟอร์มหรูไล่ถล่ม วีแกน 9-1

สเปอร์ส ฟอร์มหรูไล่ถล่ม วีแกน 9-1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สเปอร์ส ทำสถิติเป็นเจ้าบ้านชนะมากที่สุดในเกมเดียวเทียบเท่า แมนฯยูไนเต็ด เมื่อเปิดบ้านสอนเชิง เดอะ ลาติกส์ วีแกน 9-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก โดย เจอร์เมน เดโฟ ยิงคนเดียว 5 ประตู ขณะที่ เลเวอร์คูเซน จ่าฝูงบุนเดสลีกา เมืองเบียร์ บุกเสมอ บาเยิร์น มิวนิค รองแชมป์เก่า 1-1


ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "ซูเปอร์ซันเดย์" คืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ วีแกน แอธเลติก 9-1 ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ของตัวเอง จาก ปีเตอร์ เคราช์ นาที 9, เจอร์เมน เดโฟ คนเดียว 5 ประตู นาที 51, 54, 58, 69 กับ 87, อารอน เลนนอน นาที 64, การทำเข้าประตูตัวเองของ คริส เคิร์กแลนด์ นาที 88 และ นิโก ครันชาร์ นาที 90 ส่วน "เดอะ ลาติกส์" แก้คืนได้ประตูเดียวจาก พอล ชาร์เนอร์ นาที 57

ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" แข่ง 13 นัด มี 25 แต้ม พุ่งขึ้นอันดับ 4 พื้นที่สโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทันที แต่ยังตามหลัง เชลซี ทีมจ่าฝูง 8 แต้ม และทิ้ง แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 5 พื้นที่ถ้วยยูฟ่า คัพ 3 แต้ม ขณะที่ วีแกน แข่ง 13 นัด มี 14 แต้มเท่าเดิม หล่นสู่อันดับ 15 ห่างจาก โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับ 18 พื้นที่ตกชั้น ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด เพียง 3 แต้ม

หลังเกม แฮร์รี เรดแนปป์ ผู้จัดการทีมสเปอร์ส กล่าวว่า "ต้องถือว่า 25 นาทีแรกของเรา ทำให้ผลแข่งออกมาเช่นนี้ แม้ขณะนั้นจะนำแค่ประตูเดียวก็ตาม เพราะการคุมเกมแบบเบ็ดเสร็จ ทำให้เรารู้ว่าลูกทีมของผมจะต้องทำอะไร เพราะเกมในครึ่งหลังเราก็ทำเหมือนเดิม โดยเกมนี้นอกจาก เดโฟ ที่ยิงคมได้เหมือนซ้อมแล้ว ต้องถือว่า เลนนอน มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้ผลแข่งออกมาเป็นแบบนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์ และรู้ว่าจะใช้พรสวรรค์ที่มีอย่างไร และถือเป็นวันเลวร้ายของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผมหวังว่าเขาจะกลับมาได้ เพราะมันแค่ผลแข่งเกมเดียวในระบบลีกเท่านั้น"

ขณะที่ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมวีแกน กล่าวว่า "มันยิ่งกว่าวันแย่ๆ ที่ทีมคุณต้องเสียถึง 9 ประตู ทั้งที่ครึ่งแรกเราเสียแค่ประตูเดียว เราโทษใครไม่ได้นอกจากเรา เราคงต้องกลับไประบายสิ่งแย่ๆ ออกมา เพื่อให้มันจบลงในวันเดียว"

นอกจากนั้น สกอร์ 9-1 ยังทำให้ สเปอร์ส เป็นทีมชนะที่เจ้าบ้านยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ แมนฯยูไนเต็ด แชมป์เก่า ซึ่งเคยทำไว้เมื่อปี 1995 ในเกมชนะ อิปสวิช ทาวน์ 9-0 โดยเกมนั้น แอนดี้ โคล ก็ยิงได้ 5 ประตูเท่ากับ เดโฟ และเมื่อจบฤดูกาลแข่งขัน "ม้าขาว" อยู่ด้วยอันดับสุดท้าย ตกลงไปอยู่ลีก แชมเปี้ยนชิพ

ส่วน สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 ที่สนามบริทานเนีย ของตัวเอง จาก ริคาร์โด ฟูลเลอร์ นาที 74 ขณะที่ "ปอมปีย์" พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาที 8 และถือเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งของเกมเมื่อ เควิน พรินซ์ บังเต็ง ยิงจุดโทษไม่เข้า ส่งผลให้ "ช่างปั้นหม้อ" แข่ง 13 นัด มี 19 แต้ม อยู่อันดับ 9 ส่วนลูกทีมของ พอล ฮาร์ท แข่ง 13 นัด มี 7 แต้ม ยังอยู่อันดับ 20 หรืออันดับสุดท้ายต่อไป และเป็นทีมเดียวในลีกที่ยังมีแต้มไม่ถึงหลักสิบ

ด้าน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส บุกชนะ โบลตัน 2-0 ถึงถิ่นรีบอค จาก เดวิด ดันน์ นาที 32 และการโหม่งเข้าประตูตัวเองของ ซามูแอล ริกเก็ตต์ส นาที 73 ส่งผลให้ "กุหลาบไฟ" แข่ง 12 นัด มี 16 แต้ม เขยิบขึ้นสู่อันดับ 11 ทั้งที่เกมนี้ แบล็คเบิร์น ไม่มี แซม อัลลาไดซ์ ผู้จัดการทีมยืนคุมทีมอยู่ข้างสนาม เพราะเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ และไม่สามารถทำหน้าที่ได้ 3 เกม เป็นอย่างน้อย โดยเริ่มจากเกมนี้ ซึ่ง นีล แม็คโดนัลด์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมทำหน้าที่แทน

สำหรับศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี คืนเดียวกัน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมจ่าฝูง บุกเสมอ บาเยิร์น มิวนิค รองแชมป์เก่า 1-1 ถึงถิ่นอัลลิอันซ์ อารีนา ทั้งที่ บาเยิร์น ขึ้นนำก่อนจาก มาริโอ โกเมส นาที 8 ทว่า "ห้างยา" ไล่ตีเสมอได้จาก สเตฟาน คีสลิง นาที 14 จากผลแบ่งแต้มแม้ เลเวอร์คูเซน จะยังนำอันดับ 1 เช่นเดิม เมื่อแข่ง 13 นัด มี 27 แต้ม ทว่าช่องว่างห่างจาก แวร์เดอร์ เบรเมน รองจ่าฝูง ลดลงเหลือแต้มเดียว ส่วนลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล เสมอเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน และทำให้แข่ง 13 นัด มี 21 แต้ม อยู่อันดับ 7

ขณะที่ โบคุ่ม บุกชนะ ฮัมบูร์ก 1-0 ถึงถิ่นฮาเอชฮา อารีนา จาก เดนนิส โกรเต ทำให้ โบคุ่ม แข่ง 13 นัด มี 11 แต้ม แม้ยังอยู่อันดับ 17 รองสุดท้ายเช่นเดิม ทว่าลดช่องว่างห่างจาก โคโลญจน์ ทีมอันดับ 15 ก่อนพื้นที่ตกชั้น เหลือแต้มเดียว ส่วน ฮัมบูร์ก แข่ง 13 นัด มี 23 แต้ม หล่นสู่อันดับ 5 พื้นที่ถ้วยยูฟ่า คัพ ทีมสุดท้าย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook