กมธ.การเงิน การคลังฯ ส.ส. ตรวจติดตามการใช้งบประมาณไทยเข้มแข็ง จ.ระนอง

คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ตรวจติดตามการใช้งบประมาณโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ของจังหวัดระนอง วันนี้ (23 พ.ย.52) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎรและคณะ ได้ตรวจติดตามการใช้งบประมาณโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของจังหวัดระนอง โดยมีนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมรายงานความก้าวหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ห้องประชุมศาลกลางจังหวัดระนอง ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวอีกว่า จังหวัดระนองได้รับโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 22 หน่วยงาน จำนวน 26 โครงการ วงเงิน 788.20 ล้านบาท แยกเป็น 5 สาขาคือ 1.สาขาทรัพยากรน้ำและเกษตร 6 โครงการ เป็นเงิน 246.92 ล้านบาท 2.สาขาขนส่ง 6 โครงการ เป็นเงิน 364.30 ล้านบาท 3. สาขาการศึกษา 11 โครงการ เป็นเงิน 150.78 ล้านบาท 4. สาขาสวัสดิภาพของประชาชน 1 โครงการ เป็นเงิน 3.40 ล้านบาท 5. สาขาพัฒนาด้านสาธารณสุข พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 โครงการ เป็นเงิน 22.80 ล้านบาท ซึ่งได้มีการทำสัญญาจ้างก่อหนี้ผูกพันไปแล้ว 113.36 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 52.81ล้านบาท นายสุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามบอกว่าโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน แต่จากการลงพื้นที่ติดตามมาหลายจังหวัด หน่วยงานต่าง ๆ ตอบเหมือนกันหมด ทั้งศึกษา และสาธารณสุข ว่า ส่วนใหญ่แล้วส่วนกลางกำหนดมาให้ว่าซื้ออะไร ไม่ได้เกิดจากความต้องการของในพื้นที่อย่างแท้จริง ตนต้องการให้การใช้เงินไทยเข้มแข็ง ซึ่งเป็นเงินกู้ที่ประชาชนแบกรับหนี้สินร่วมกัน มีความโปร่งใสเท่านั้นเอง เพื่อปกป้องเงินของพี่น้องประชาชนที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามา โครงการส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นโครงการใหม่ แต่เป็นโครงการเก่าที่หยิบมาจากหิ้ง แล้วเอามาปัดฝุ่นใหม่ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ