พบมนุษย์รูวัย 72 ปี สร้างกำแพงหินล้อมที่ทำกิน

พบมนุษย์รูวัย 72 ปี สร้างกำแพงหินล้อมที่ทำกิน

พบมนุษย์รูวัย 72 ปี สร้างกำแพงหินล้อมที่ทำกิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พบมนุษย์รูมุกดาหารมุดลงไปใช้ชีวิตในโพรงหินที่ลึก 20 เมตรมาร่วม 12 ปี หลังล้มเหลวกับการใช้ชีวิตในสังคม บ้าน ที่นา ถูกยึด ภรรยาทิ้ง จึงหนีความวุ่นวายมาใช้ชีวิตกลางป่า แต่ตั้งแก้ปัญหาไฟป่าที่ทำลายพืชผล จึงยกหินก่อกำแพงล้อมที่ดินกว่า 60 ไร่ ได้ความยาวร่วม 2 ก.ม.ด้วยมือคนเดียวล้วนๆ

ที่บริเวณยอดภูธง ต.โพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ที่สามารถมองเห็นพื้นล่างได้ทั้งในเขตประเทศไทย และ สปป.ลาว จะพบก้อนหินน้อยใหญ่ที่เรียงรายเป็นแนวรั้วที่ความสูงตั้งแต่ระดับ 2 เมตรถึง 3 เมตร เป็นระยะทางร่วม 2 กิโลเมตรล้อมรอบพื้นที่ประมาณ 60 ไร่ ซึ่งเป็นที่ทำกินของนายดวง คล่องแคล่ว อายุ 72 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ในหมู่บ้านตูมหวาน ต.โพนงาม ได้ผันตัวเองมาอยู่แบบสงบโดยอาศัยอยู่ในรู และสร้างรั้วหินรอบพื้นที่ตัวเองมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว หลังจากที่ใช้ชีวิตในชุมชนแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ที่บ้าน ที่นา ถูกยึด ภรรยาทอดทิ้ง

นายดวง เล่าว่า ที่มาอาศัยอยู่บนยอดเขาเพื่อจะหาความสุขในบั้นปลายชีวิต โดยไม่ต้องทำอะไร เพียงตั้งใจที่จะหาเก็บของป่า ผลไม้ป่า หรืออะไรเท่าที่มีในป่าประทังชีวิต เหมือนฤาษี หรือนักพรต นักบวชทั่วไป แต่เมื่อขึ้นมาถึงยอดภูธงจริง ๆ กลับตัดใจจากความเป็นมนุษย์ที่ยังต้องการไม่รู้จักจบสิ้นไม่ได้ เมื่อมาอยู่สักระยะหนึ่งได้มองเห็นช่องทางในการทำมาหากิน เพราะบริเวณที่มาอาศัยนอนครั้งแรกนั้นเป็นพื้นที่ลุ่มกลางยอดเขา มีตนไม้ใบหญ้าขึ้นอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องมีใครไปใส่ปุ๋ย หรือบำรุงดินแต่อย่างใด ด้วยความที่เป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตัดสินสู้อีกรอบ

แต่ด้วยอายุที่มากแล้ว จึงเริ่มหาพันธุ์ไม้ผล ไม้ล้มลุก พืชผักต่าง ๆ ที่กินได้ ปลูกลงไปในบริเวณนั้น ซึ่งรวมพื้นที่กว่า 60 ไร่ ในลักษณะปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก โดยไม่ทำลายของป่าที่มีอยู่เดิมอยู่แล้ว และเมื่อลงมือปลูกพืช ผัก แล้ว กลับเป็นห่วงเรื่องไฟป่า เพราะบนยอดภูธงแห่งนี้ จะเกิดไฟป่าขึ้นทุกปี นอกจากนั้นเมื่อถึงหน้านา ชาวบ้านก็จะต้อนฝูงวัว ควาย ขึ้นไปหากินบนยอดภู เป็นเวลาหลายเดือนต่อปี ซึ่งวัว ควายเหล่านี้ ก็จะเข้าไปกัดกินพืชผักที่นายดวงปลูกไว้ ทำให้เกิดความเสียหาย

จึงตัดสินใจทำแนวรั้วกันพื้นที่ไว้ เริ่มต้นใช้ไม้ยืนต้นตาย ที่มีอยู่บนพื้นที่ มาทำรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกันไฟป่าได้ ครั้นจะซื้อลวดหนาม หรือเสาปูน มาทำรั้วก็ไม่มีทุน เพราะก่อนขึ้นไปอยู่บนยอดภูธงได้สละทรัพย์สินเงินทองไปหมดแล้ว และก็อยู่เพียงลำพังตัวคนเดียวด้วย ในที่สุดจึงเลือกที่จะใช้หินทำกำแพงรอบพื้นที่ไร่ เพราะบริเวณยอดภูธงแห่งนี้มีก้อนหินทราย ก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ วางอยู่เต็มไปหมด โดยเชื่อว่าถ้าใช้หินทำแพง นอกจากวัวควาย เข้าไม่ได้แล้ว ไฟป่าก็ไม่ลุกลามผ่านกำแพงหินเข้าไปสร้างความเสียหายได้

หลังจากนั้นจึงเริ่มลงเก็บหินที่มีวางระเกะระกะอยู่ทั่วไปมาวางทับซ้อนกันขึ้น ใช้ก้อนใหญ่สุดไว้ด้านล่างโดยไม่ได้ใช้ปูนซีเมนต์ หรืออะไร เป็นตัวเชื่อมประสาน แล้วเรียงขึ้นไปเรื่อย ๆ จุดไหนใกล้ทางวัวควายก็จะทำสูงถึง 3 เมตรก็มี และทำมาเรื่อยๆทุกวันจนวันนี้กำแพงหินของนายดวงที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคน คนเดียว ได้ทอดตัวยาวไปเกือบ 2 กิโลเมตรแล้ว และนายดวง ยังมุ่งมั่นที่จะทำต่อไปให้สำเร็จก่อนสิ้นอายุไขให้ได้ จึงตรากตรำทำแบบหามรุ่งหามค่ำ โดยเริ่มออกหาหินมาวางทำกำแพงตั้งฟ้าสางยันฟ้ามืด หรือวันไหนมีแสงจันทร์สว่างหากยังพอมีแรงเหลือนายดวงก็จะง่วนอยู่กับการนำหินมาเรียงทำกำแพงจนดึกดื่น

นายดวง เล่าว่า ถือว่าเป็นผู้โชคดีคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุ 72 ปีในปีนี้ไม่เจ็บป่วย ถึงกับต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ถึงแม้จะเป็นคนร่างเล็ก น้ำหนักตัวเพียง 41 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อเทียบกับก้อนหินที่ยกขึ้นทำกำแพง ห่างกันนับร้อยเท่า เพราะบางก้อนมีน้ำหนักถึง 500 กิโลกรัมก็ก็หาวิธีการนำมาวางตั้งได้ ส่วนอาหารการกินก็กินตามมีตามเกิด มีอะไรก็กิน เท่าที่หาได้ในไร่ โดยไม่ต้องเน้นในเรื่องของรสชาด แต่ที่ขาดไม่ได้คือกล้วยน้ำหว้าที่ต้องกินตลอด ส่วนน้ำดื่มต้องต้มตลอดไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่

ส่วนที่หลับที่นอนก็แปลก เพราะนายดวงได้ใช้โพรงหินขนาดใหญ่มาดัดแปลงเป็นที่หลับนอน หุงหาอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ ในตัวเสร็จ ข้างใช้โพรง นำแผ่นหินมาก่อทำช่องระบายอากาศพอได้หายใจ แต่เวลาเข้าที่นอนต้องคลานเข้าไปเพราะผนังด้านบนสูงแค่ไม่ถึง 1 เมตร ลึกจากปากรูเข้าไปประมาณ 20 เมตรก็จะเป็นที่นอนของนายดวง ส่วนแสงสว่างภายในรูคุณตาจะใช้ความคุ้นเคยเป็นหลัก หรือจำเป็นจริง ๆ ก็จะใช้ยางรถจักรยานจุดเป็นไฟส่องทาง จึงทำให้ภายในรูมีเขม่าควันดำและกลิ่นเผายางตลบอบอวนไปหมด กว่าที่จะเข้าไปในรูของนายดวงได้ ต้องใช้เวลาในการเปิดประตูนานนับ 20 นาที เพราะประตูรูปิดไว้มิดชิดมาก ทั้งด้วยต้นไม้นับร้อยต้น และข้างในยังเป็นสังกะสีปิดทับซ้อนอีกหลายชั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกหัวขโมยเข้าไปขโมยเครื่องมือทำงานไปชิ้นหนึ่ง จึงทำให้ไม่ไว้ใจใคร

และนับตั้งแต่นายดวง เริ่มลงมือทำกำแพงหินและใช้ชีวิตในรูมากว่า 12 ปีแล้ว นายดวงบอกว่ามีความสุขและพอใจ ที่สามารถทำได้ และจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่ากำแพงหินทรายจะล้อมรอบพื้นที่บนยอดเขาประมาณ 60 ไร่

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook