มติครม.สั่งขรก.รัดเข็มขัดหั่นงบเบิกจ่าย3ข้อ

มติครม.สั่งขรก.รัดเข็มขัดหั่นงบเบิกจ่าย3ข้อ

มติครม.สั่งขรก.รัดเข็มขัดหั่นงบเบิกจ่าย3ข้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นั่งเครื่องบินชั้นประหยัด ของว่างในการประชุมหัวละ 25 บาทต่อมื้อ อาหารไม่เกิน 80 บาท นายกสมาคมโรงแรมไทย รับกระทบเอกชน เชื่อเจอต่อรองราคาวุ่นแน่ เล็งลดต้นทุนดีกว่าไม่มีงาน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการประหยัดในการเบิกค่าใช้จ่ายและขอความร่วมมือจากส่วนราชการให้ใช้ดุลพินิจในการเบิกค่าใช้จ่ายในอัตราต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

โดยมีรายละเอียดดังนี้ ข้อแรก ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ขอความร่วมมือหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมทุกแห่ง ใช้พระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 (มาตรา 6) โดยขอความร่วมมือให้ออกระเบียบภายใน ให้ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า เบิกค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศในอัตราชั้นประหยัด เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทน รองประธานสภาผู้แทน รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และอธิบดี หรือผู้มีตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น แต่มีฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวง หรืออธิบดี จะเบิกจ่ายค่าเครื่องบินในอัตราที่ตนมีสิทธิ หรืออัตราที่ต่ำกว่าสิทธิที่จะได้รับก็ได้

ข้อสอง ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในการฝึกอบรม โดยขอให้เบิกในอัตราคนละ 25 บาทต่อมื้อ ส่วนกรณีการจัดฝึกอบรมในสถานที่ราชการขอให้เบิกค่าอาหารไม่เกินคนละ 150 บาทต่อมื้อ ส่วนสถานที่เอกชน ถ้าจัดเลี้ยงอาหารมื้อเดียว เช่น มื้อกลางวัน ขอให้เบิกได้ไม่เกินคนละ 400 บาท แต่ถ้าเลี้ยงเกิน 1 มื้อ ให้เบิกไม่เกินอัตราตามระเบียบ

ข้อสาม ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในการประชุม ให้เบิกคนละ 25 บาทต่อมื้อ ส่วนค่าอาหารในการประชุมเบิกได้ไม่เกินคนละ 80 บาทต่อมื้อ แต่ก็ขอความร่วมมือให้จัดประชุมภายในสถานที่ราชการ หากส่วนราชการใดไม่สามารถเบิกจ่ายตามอัตราดังกล่าวได้ ก็ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะพิจารณาโดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและประหยัด

ด้าน นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวถึงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลว่า นโยบายการควบคุมค่าใช้จ่ายราชการของรัฐบาลดังกล่าว อาจมีผลทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย เนื่องจากการต่อรอง และการลดระดับโรงแรมที่เคยใช้บริการ โดยเฉพาะการประชุมภายในหน่วยงาน หรือระหว่างหน่วยงานที่ไม่สำคัญมากนัก คาดว่าอาจมีการลดระดับการใช้โรงแรมจากที่เคยใช้ระดับ 4-5 เป็น 3 ดาว ซึ่งทำให้โรงแรมระดับ 3 ดาว ได้ประโยชน์ แต่สำหรับงานระดับชาติของภาครัฐเอง เชื่อว่าจะยังคงมีการเลือกโรงแรมระดับ 5 ดาวในการจัดประชุมสัมมนาหรือกิจกรรมของภาครัฐอยู่

"หลังจากนี้การต่อรองเรื่องราคาอาจจะเห็นมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าโรงแรมเองจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามต้นทุนการจัดงานที่ลดลงตามสัดส่วนที่รัฐกำหนด เพราะถือว่ายังดีกว่าไม่มีงานเข้ามาเลย ในแง่รายได้อาจกระทบแน่ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มากนัก" นายประกิจกล่าว

นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวอีกว่า เอกชนเข้าใจบทบาทการทำงานของภาครัฐรวมถึงนโยบายดังกล่าว ถือเป็นการรัดเข็มขัดของภาครัฐเอง ซึ่งจริงๆ แล้วในธุรกิจโรงแรมพบว่า กระแสการลดต้นทุนการจัดงานของภาคราชการมีให้เห็นมาปีกว่าแล้ว เนื่องจากรัฐบาลมองเห็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ความเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้อาจกระทบโรงแรมไม่มากนัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook