พระราชทานโกศ 8 เหลี่ยม

พระราชทานโกศ 8 เหลี่ยม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พร้อมทรงรับศพอดีตนายกฯไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน เจ้าภาพอโหสิกรรมอริการเมือง

ในหลวงพระราชทานโกศ 8 เหลี่ยม พร้อมรับศพสมัคร สุนทรเวชไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ขณะที่นักการเมือง-ขรก.-ชาวบ้าน แห่ร่วมอาลัยน้ำตาซึมเจ้าภาพอโหสิกรรมอริการเมืองทุกคน ยื่นคำขาด เสื้อแดง ชูตีนตบ-โห่ไล่พลพรรค ปชป. ในงานศพ ขณะที่ เจ้าของร้านข้าวแกงเจ้าประจำ ผงะกลิ่นเตะจมูก อธิษฐานทำเมนูโปรด แกงหน่อไม้ใส่หอยแมลงภู่-ผัดผัก ใส่บาตรไปให้ ฝ่าย ลูกน้องเก่า ยันไม่ได้สั่ง จนท. เอาภาพอำลาขึ้นจอ ยกผลงาน รัฐสภาใหม่ ให้ลูกพี่เก่า ด้าน บัวแก้ว เผยศาลเขมรไฟเขียวแม่วิศวกรหนุ่มบินไปเยี่ยมลูกได้แล้ว มือขวา กษิต ส่งชื่อ ทักกี้ ชิเนตร้า ให้ ตร.สากลตามจับ อ้าง แม้ว ใช้ชื่อใหม่ ขณะที่ ดีเอสไอ รับคดีหมิ่นเบื้องสูงผ่าน ไทม์สออนไลน์ เล่นงานอดีตนายกฯ อีกคดี

* พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เวลา 17.39 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ทรงวางพวงมาลาหลวง และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่หน้าโกศศพ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ที่กราบถวายบังคมลาถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ยังได้พระราชทานน้ำสรงส่วนพระองค์ และพวงมาลาส่วนพระองค์ จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย เครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระสวดพระอภิธรรม และเมื่อสวดพระอภิธรรมจบจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโกศ ไม้ 8 เหลี่ยม และรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน

* คนดัง-ชาวบ้านแห่ร่วมงาน

ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 13.15 น. ครอบครัวและญาติได้เคลื่อนศพนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มาถึงวัดเบญจมบพิตรฯ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากมารอร่วมรดน้ำและกราบศพ ชาวบ้านบางคนถึงกับร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า

จากนั้นเวลา 14.00 น. มีพิธีรดน้ำศพที่ศาลาบัณณรศภาค โดยมีบุคคลในครอบครัว คนใกล้ชิด และบุคคลสำคัญมาร่วมพิธีจำนวนมาก อาทิ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต รมว. มหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย พร้อมด้วยบุตรชาย นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. รวมถึงแกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ และยังมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมพิธีด้วย อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นต้น

* มาร์ค-แม้วส่งหรีดไว้อาลัย

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจด้วย อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่มาร่วมงานได้โวยวายว่าพวงหรีดของนายกฯ ตั้งไว้สูงเกิน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้นำพวงหรีดของคุณหญิงพจมานมาตั้งคู่กับ พ.ต.ท. ทักษิณ และย้ายพวงหรีดของนายกรัฐมนตรีไปไว้ที่อื่น และนอกจากบุคคลสำคัญจากวงการการเมืองแล้ว ยังมีสมาชิกนักแสดงจาก สภาโจ๊ก มาร่วมพิธีรดน้ำศพนายสมัครด้วย โดยนายบุญศรี สีกอง นักแสดงหน้าเหมือนนายสมัคร ถึงกับน้ำตาซึมในระหว่างร่วมงาน

* เสื้อแดงชูตีนตบไล่ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายบัญญัติ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เดินขึ้นและลงจากศาลาเพื่อรดน้ำศพนายสมัคร กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่มาร่วมพิธีด้วยได้ชู ตีนตบ มาตบใส่นายบัญญัติ โดยเฉพาะในช่วงที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินออกมานั้น กลุ่มคนเสื้อแดงได้ตะโกนโห่ไล่ว่า ออกไป เราเลือกท่านสมัครมา และในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งได้เดินเข้ามาในบริเวณวัด ทาง กลุ่มคนเสื้อแดงได้ปรบมือต้อนรับด้วยเสียงอันดัง จนคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยานายสมัคร ต้องส่งเลขานุการส่วนตัวมาขอร้องคนเสื้อแดงว่า อย่าส่งเสียงดังภาย ในวัด อย่าโห่ อย่าตะโกน เพราะเป็นเรื่อง ที่ต้องอโหสิกรรม ไม่ว่าใครก็ตามสามารถ มางานนี้ได้ ทั้งคู่รัก คู่แค้น คู่อาฆาตก็มาได้ทั้งหมด

* เจ้าภาพวอนม็อบรู้กาลเทศะ

อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนยังไม่ยอมสงบ จนกระทั่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงก็ได้พยายามเดินหลบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ รปภ. แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังจ้องที่จะตะโกนไล่ จนเลขาฯ ของคุณหญิงสุรัตน์ ได้ออกมายื่นคำขาดว่า ใครจะโห่ให้ไปนอกวัด และให้เก็บตีนตบทั้งหมด พร้อมให้เหตุผลว่างานนี้เป็นงานศพ ไม่ใช่งานชุมนุม และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีก เพราะยังต้องมีพิธีอีกหลายวัน ทำให้เสียงโห่นาย สุเทพสงบลง แต่คนเสื้อแดงบางส่วนยังบ่นว่าเป็นเพราะไม่ยอมให้ชุมนุม พอจะชุมนุมก็ออก พ.ร.บ.ห้ามจึงต้องมาที่วัด นอกจากนี้บางคนยังเดินตามฟังการเสนอข่าวของสื่อมวลชนพร้อมเตือนว่า ให้เสนอข่าวให้ดี และ ให้ระวังตัวด้วย เพราะวันนี้เสื้อแดงมาเยอะ

* ชูรัฐสภาใหม่ผลงาน ลุงหมัก

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มขึ้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้แจ้งให้สมาชิกทุกคนยืนไว้อาลัยให้กับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่ถึงแก่อสัญกรรมเป็นเวลา 1 นาที โดย ส.ส.ส่วนใหญ่ได้สวมสูทและเนกไทดำเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ในครั้งนี้ด้วย

นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการประกวดแบบอาคารรัฐสภาใหม่ว่า วันที่ 2 ธ.ค. จะมีการประกาศผลผู้ชนะเลิศการออกแบบอาคารรัฐสภาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ต้องถือว่าโครงการที่สามารถเดินหน้าได้เป็นรูปธรรมได้ทุกวันนี้ ต้องยกให้เป็นผลงานของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ เพราะสมัยที่ท่านเป็นผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งให้ตนซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักผังเมือง กทม. สำรวจพื้นที่บริเวณย่านเกียก กาย และหลังจากนายสมัครเป็นนายกฯ ก็ได้ตัดสินใจเลือกสถานที่เกียกกายเป็นสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ตนขอสัญญาว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ขอให้ท่านอย่าได้กังวล

* นิคมแจง 2 มุมภาพขึ้นจอ

รองประธานวุฒิสภา กล่าวอีกว่า หลังจากมีการประกาศผลผู้ชนะการออกแบบแล้ว จากนั้นจะจัดจ้างบริษัทเพื่อมาดูแลและควบคุมการก่อสร้าง คาดว่าการก่อสร้างทั้งหมดจะใช้เวลาทั้งสิ้น 900 วัน เชื่อว่ากลางปี 2556 จะได้เห็นรัฐสภาใหม่อย่างแน่นอน เบื้องต้นหากสามารถมีการส่งมอบพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะเดินหน้ากราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงวางศิลาฤกษ์ต่อไป นอกจากนี้รัฐสภายังได้เตรียมงบประมาณอีก 50 ล้านบาทสำหรับจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา ในบริเวณเดียวกันด้วย

ส่วนกรณีมีภาพนายสมัคร ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ระหว่างการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น นายนิคม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ 2 มุม คือ อาจเกิดความขัดข้องทางเทคนิคของเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ หรืออาจเกิดจากความผูกพันที่นายสมัครมีต่อรัฐสภา เพราะท่านเป็น ส.ส. สมัยแรกตั้งแต่ปี 2518 จึงอาจเป็นไปได้ว่าท่านอยากมาลาสภา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านมีความผูกพันมานาน

* ยันไม่ได้สั่ง-จนท. ไม่มีในสต๊อก

รองประธานวุฒิสภา ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำภาพนายสมัครขึ้นจอเพื่อไว้อาลัย ตนจะไปทำเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมาย ที่สำคัญและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลคะแนนการลงมติก็ไม่ได้เปิดอินเทอร์เน็ตไว้ อีกทั้งไม่มีรูปนี้ในสต๊อกภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการที่มีการระบุว่าเป็นการนำภาพมาจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งก็ไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องต้องใช้งานประมวลผล ลงคะแนนอยู่ตลอด

เมื่อถามว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนายสมัครได้เข้าฝันเพื่อบอกอะไรหรือไม่ นายนิคม กล่าวว่า ไม่มี นอนหลับสบาย ยอมรับว่าสนิทกับท่าน เพราะท่านเป็นคนใจดี ถึงแม้บางครั้งสื่ออาจมองว่าท่านดุ แต่ตนยืนยันว่าท่านใจดี ตนเคารพท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาที่ดี ทำงานร่วมกันด้วยความสบายใจและเมื่อมีโอกาส ท่านจะทำข้าวผัดให้ตนและข้าราชการ กทม. ทานเสมอทั้งที่บ้านและที่ทำงาน นอกจากท่านมีฝีมือในด้านการทำอาหารมาก ท่านยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะด้านเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เรื่องสมณศักดิ์ และพัดยศ

* ข้าวแกงร้านประจำได้กลิ่นธูป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวว่านายสมัครมาเยือนห้องประชุมวุฒิสภาในวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมาแล้วนั้น ยังมีเหตุการณ์ที่ชวนพิศวงเกิดขึ้นที่รัฐสภาอีกครั้ง โดยนางศรีวรรณ รวยสวัสดิ์ เจ้าของ ครัวคุณวรรณ ร้านขายข้าวแกงประจำรัฐสภา ที่นายสมัคร ชอบรับประทานเป็นประจำในช่วงที่มาประชุม ที่รัฐสภา เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย. ในระหว่างที่ตนกำลังนั่งฟังเพลงอยู่ที่ร้าน จู่ ๆ เพลงก็หยุดลง จากนั้นก็มีกลิ่นธูปลอยมา ตนจึงพูดออกไปว่า ท่านมาหรือ แล้วกลิ่นธูปก็ลอยไป ตนจึงตั้งจิตอธิษฐานว่าจะทำแกงหน่อไม้ใส่หอยแมลงภู่ ผัดผัก ซึ่งเป็นอาหารที่นายสมัครชอบ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นายสมัคร และจะไปร่วมงานศพด้วย การจากไปของนายสมัคร ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะถือเป็นลูกค้าที่คุ้นเคย

* เด็กปชป.ลั่นไม่ถอนฟ้องคดี

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และนายดุสิต ศิริวรรณ ที่ร่วมกันหมิ่นประมาทนายสามารถในรายการ สมัคร- ดุสิต คิดตามวัน ว่า หลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก คนละ 24 เดือน และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการฎีกาว่า หลังจากนี้ตามกระบวนการศาลคงจำหน่ายสำนวนคดีในส่วนของนายสมัคร เหลือเพียงคดีในส่วนของนายดุสิต จำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว ส่วนตัวตนคงไม่ถอนฟ้อง เพราะต้องการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลให้ถึงที่สุด แต่ไม่รู้ว่าศาลฎีกาได้รับคดีไว้พิจารณาแล้วหรือไม่ และจะมีคำพิพากษาเมื่อใด อย่างไรก็ตามตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวนายสมัครที่พบกับความสูญเสีย

* ดีเอสไอทำคดีไทม์สออนไลน์

ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่น ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดยที่ประชุมมีมติรับกรณีการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไทม์ส ออนไลน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีคำพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และอาจเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่น คงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ไว้เป็นคดีพิเศษเพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ. กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รมว. การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการประสานงานกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ในงานวันชาติของยูเออีเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตยูเออีประจำประเทศ ไทยได้แจ้งกับตนว่าได้ส่งข้อมูลของทาง การไทยไปยังกระทรวงการต่างประเทศของ ยูเออีแล้ว และยืนยันว่าให้ความสำคัญใน เรื่องนี้มาก

* กต.ฟุ้งรู้ชื่อใหม่ทักกี้ ชิเนกร้า

ผู้ช่วย รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทราบว่าหนังสือเดินทางที่ประเทศนิการากัวและประเทศมอนเตเนโกร ออกให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ระบุชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภาษาอังกฤษว่า TAKKI SHINEGRA ซึ่งรับว่าเป็นข้อจำกัดที่สร้างปัญหาในการประสานงานขอความร่วมมือกับประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพำนักอยู่ เพราะเอกสารรวมถึงหมายศาลที่ไทยส่งไปขอความร่วมมือในการติดตามตัวได้ระบุชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในประเทศไทย อีกทั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย ทำให้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวหรือการเดินทางได้ยาก

นายพนิช เปิดเผยด้วยว่า ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลไทยทำได้ คือ การส่งข้อมูลยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ในประเทศ นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย คำให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ แจ้งเรื่องนี้ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อประสานงานกับตำรวจสากลให้ทราบข้อมูลว่าบุคคลที่ใช้ชื่อ-สกุลตามตัว สะกดที่ได้ข้อมูลมาเป็นบุคคลคนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

* วิศวกรไทยไม่ได้ถูกขังเดี่ยว

ส่วนความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ CATS ที่ถูกทางการกัมพูชาจับตัวในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลกัมพูชาจะนัดฟังคำสั่งการยื่นขอประกันตัวนายศิวรักษ์ในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 07.00 น. ส่วนวงเงินหรือหลักทรัพย์ประกันตัวนั้นต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลกัมพูชา

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยอีกว่า ในส่วนห้องคุมขังที่ใช้ควบคุมตัวนายศิวรักษ์เป็นห้องควบคุมตัวลักษณะเดียวกับผู้ต้องขังในคดีทั่วไป ซึ่งปกติเรือนจำเพรยซอจะคุมขังนักโทษห้องละ 25 คน แต่ห้องคุมขังนายศิวรักษ์มีผู้ต้องขังเพียง 5 คน คาดว่าจะทำให้การเป็นอยู่ในเรือนจำดีขึ้น อีกทั้งนายศิวรักษ์ทำงานอยู่ในกัมพูชานานถึง 8 ปี จึงสามารถพูดภาษากัมพูชาได้จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร

* เขมรไฟเขียวแม่บินเยี่ยมลูกได้

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวง ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนและนางสุวณา ได้เข้าพบ รมว.ยุติธรรมของกัมพูชา โดย รมว. ยุติธรรมของกัมพูชาได้รับปากจะดูแลและให้ความเป็นธรรมกับนายศิวรักษ์ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องคดี ตนได้ประชุมร่วมกับสภาทนายความและกระทรวงการต่างประเทศโดย กระทรวงยุติธรรมจะสนับสนุนในด้านข้อมูล นอกจากนี้กองทุนยุติธรรมพร้อมสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในด้านคดี

น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสาร นิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกัมพูชาในการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ รวมทั้งนายพงษ์สุรีย์ น้องชายของนายศิวรักษ์ เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ที่เรือนจำเพรยซอ ในวันที่ 27 พ.ย. เวลา 14.00 น. ได้แล้ว ทั้งนี้รองอธิบดีกรมการกงสุลจะเป็นผู้พานางสิมารักษ์ และนายพงษ์สุรีย์เข้าไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ในวันดังกล่าว

* บิ๊กป้อมชี้เรือไทยไม่โดนจับ

ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวกองทัพเรือกัมพูชาจับกุมเรือประมงไทยขณะจับปลาบริเวณเกาะกงว่า ยืนยันว่าไม่มี ทั้งหมดเป็นเรื่องการต่ออายุสัมปทานมากกว่า ไม่ใช่เรื่องการปิดน่านน้ำ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลจะยกเลิกเอ็มโอยูไทย-กัมพูชาแต่อย่างใด

จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไทยไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ในวันที่ 26-27 พ.ย. นี้ เพื่อทำให้สถานการณ์ตาม แนวชายแดนไม่มีความรุนแรง รวมถึงจะหารือถึงความร่วมมือระหว่างกัมพูชากับไทย ซึ่งจะพูดคุยกับกัมพูชาในเรื่องความปลอดภัย ตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชน เกิดความเดือดร้อน กองทัพพยายามลดความตึงเครียด ซึ่งกองทัพกัมพูชาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ

* เทือกยาหอมสัญญาแก้ รธน.

วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตัวจริงแอบนัดหารือถึงความไม่พอใจในการทำงานร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ว่า ยังไม่มีใครพูดกับตนว่าไม่พอใจเรื่องอะไร ตามปกติพรรคร่วมรัฐบาลหากมีปัญหาก็จะพูดกับตน ขณะนี้ยังไม่ได้พูดอะไร เมื่อถามว่านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย รับจะเป็นผู้ประสานงานแจ้งมติพรรคร่วมทวงสัญญาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความคิดความเห็นอย่างไร ตนพร้อมรับฟังอยู่แล้ว เพราะตนเป็นผู้ประสานงานมาตั้งแต่ต้น

ต่อข้อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ดึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้จนไม่ได้มีการเสนอต่อรัฐสภา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ได้ดึงและไม่ใช่เรื่องการดึงของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และวิป 3 ฝ่ายที่ได้มีการหารือกัน สถานการณ์ในขณะนี้ไปถึงไหนแล้วตนยังไม่ได้ตามเลย

* เชื่อใจพรรคร่วมไม่หักหลัง

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลต้องการจะให้แก้ไขจริง ๆ ก็น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก นายสุเทพ กล่าวว่า เสียงข้างมากก็จริง แต่ว่าถ้าฝ่ายค้านกับวุฒิสภาไม่เอาด้วยก็กลายเป็นเสียงข้างน้อยในรัฐสภา ยืนยันว่ายังไม่ได้พับเรื่องการ แก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องไปปรึกษากันว่า จะทำอย่างไร เมื่อถามว่า ในฐานะแกนนำรัฐบาลจะนัดพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยเปิด ใจกันอีกรอบหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เวลามีเรื่องที่จะเป็นประเด็นที่ต้องคุยกันจะติดต่อมาให้ตนช่วยนัดหมายให้ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาว่าคับข้องใจเรื่องนั้น เรื่องนี้

ต่อข้อถามว่า กังวลใจหรือว่านำไปสู่ปัญหากระทบกระเทือนต่อเสถียรภาพรัฐบาล เพราะมีการส่งสัญญาณเป็นนัยว่าเมื่อถึงช่วงเปิดสมัยประชุมสภาจะมีการยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าคาดการณ์ในทางร้าย ทุกคนก็รักชาติบ้านเมือง อยากจะเห็นประเทศไทยเดินหน้าไปได้ด้วยความราบรื่น พรรคร่วมรัฐบาลก็มีเจตนาดี เพราะฉะนั้นตนไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เป็นปัญหา

* นัดหารือวิป 3 ฝ่าย 26 พ.ย.นี้

ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต้องการให้เดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดโดยฝ่ายยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นำประเด็น ต่าง ๆ ไปปรับปรุง และจะนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 26 พ.ย. นี้ ถือว่าเป็นกระบวนการสุดท้ายของคณะกรรม การยกร่าง เหลือเพียงวิป 3 ฝ่ายลงชื่อร่วมกันก็สามารถเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 มาตรา 6 ฉบับตามที่คณะกรรมการสมานฉ ันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอได้แน่นอน

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า ตนไม่ยอมให้ใครมากล่าวหารัฐบาลกำลังยื้อหรือทำให้เกิดความล่าช้าในเรื่องนี้ แต่เป็นเพราะต้องการจะแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้มากที่สุด ล่าสุดได้พยายามเจรจากับฝ่ายค้า เพื่อขอให้มาร่วมหารือกับวิป 3 ฝ่ายก่อนจะรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอญัตติ เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านยืนยันไม่ร่วมด้วย แสดงว่าคงจะไม่สามารถเสนอญัตติได้ใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมในวันที่ 26 พ.ย. นี้

* พัลลภบุกสภาแจงพยานเท็จ

อีกด้านหนึ่ง ที่ห้องประชุม 204 อาคารวุฒิสภา คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้เชิญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และ พล.ต.ต. มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าชี้แจง กรณีนำนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีต ผอ.พรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย 2 พยานปากเอกในคดียุบพรรคไทยรักไทยออกมาแถลง สารภาพเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าได้รับการว่าจ้างเพื่อให้การเท็จ

หลังจากมีการเปิดวีซีดีบันทึกคำสารภาพของนายสุขสันต์ และนายชวการ แล้ว นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กรุงเทพฯ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการสารภาพของพยานมาจากการถามนำ เช่นเรื่องจำนวนเงินค่าตอบแทน 7 หลัก อีกทั้งยังผิดธรรมชาติ เพราะได้เปิดเผยทั้งชื่อและนามสกุล และดูเหมือนว่ามีการแต่งเรื่องเข้าไป ดังนั้นต้องระมัดระวังในการ นำเสนอ แต่หากเป็นเรื่องจริงตนก็อยู่พรรคประชาธิปัตย์ต่อไปไม่ได้

* ข้องใจปชป.จวกแตกแยก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนประธานจะสั่งปิดประชุม พล.อ.พัลลภ ได้สอบถามนายโกวิทย์ กรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าการออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ของตนเป็นไปเพื่อสร้างความแตกแยกให้บ้านเมืองนั้นหมายความว่าอย่างไร ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดขึ้นมาทันที อย่างไรก็ตามนายโกวิทย์ ชี้แจงโดยหลีกเลี่ยงที่จะสบตา พล.อ.พัลลภ ว่า บ้านเมืองตอนนี้ต้องการความสมานฉันท์ หาก พล.อ.พัลลภ พูดข้อเท็จจริงตนจะไม่เสียใจ พล.อ.พัลลภ เป็นคนมีบารมี เป็นลูก ศิษย์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สามารถประสานกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธ มิตรฯ และทุกฝ่ายได้ ซึ่งคงจะดีกว่าการออกมาเปิดเผยในสิ่งที่จะนำไปสู่ความแตกแยก ความจริงแล้วตนยังรักและเคารพ พล.อ.พัลลภ ซึ่งคุ้นเคยกันมานาน ความจริงแล้วจะโทรศัพท์ไปหา พล.อ.พัลลภ โดยตรงก็ได้แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

* โกวิทโบ้ยสื่อแพะตามเคย

เมื่อนายโกวิทย์ชี้แจงเสร็จ พล.อ. พัลลภ ได้ซักต่อว่าเหตุใดนายโกวิทย์ถึงไม่โทรศัพท์มาสอบถามแทนการออกไปให้สัมภาษณ์ ซึ่งนายโกวิทย์ ชี้แจงว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์แรงเท่านี้ แต่สื่ออาจเอาไปลงมากเกิน ถ้าเป็นปัญหาตนก็ต้องกราบขออภัย พล.อ.พัลลภ จากนั้นยังได้เกิดการโต้เถียง ระหว่างนายโกวิทย์และ พล.ต.ต.มณเฑียร ถึงความไม่เป็นธรรมชาติในคำสารภาพ ทำให้นายประชารีบตัดบทและพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อลดความตึงเครียด โดยระบุว่ากรรมา ธิการฯ ไม่มีอำนาจที่จะสรุปว่าอะไรจริงไม่จริง แต่หน้าที่คือรวบรวมข้อมูลทุกด้านให้ครบถ้วนเพื่อสรุปผลส่งให้หัวหน้ารัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และองค์กรอิสระทั้งหลายเพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้จะส่งหนังสือถึงรักษาการ ผบ.ตร. เพื่อขอให้คุ้มครองความปลอดภัยแก่พยานปากเอก 2 รายรวมถึงครอบครัวด้วย

* เย้ย 2 พยานติดคุกซ้ำซ้อนแน่

นายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ ส.ส. ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ การกฎหมายฯ แถลงว่า การประชุมครั้งนี้พยานทั้งสองปากไม่ได้มาให้ข้อมูล มีเพียง พล.อ.พัลลภ ที่พา พล.ต.ต. มณเฑียร ประทีปะวณิช ที่นำพยานทั้งสองคนมาแถลงข่าวมาให้ข้อมูลแทน โดยในการชี้แจงครั้งนี้ภาพรวมไม่ได้ข้อมูลอะไรมากมาย อย่างไรก็ตาม วันที่ 9 ธ.ค. คณะกรรมาธิ การฯ จะเชิญพยานทั้งสองคนมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม พร้อมเชิญตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ กระทรวงยุติธรรม และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งตัวแทนสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาให้ข้อมูลด้วย เพราะอยากสรุปให้ได้ว่าใครกันแน่ที่โกหก บอกได้เลยว่าพยานทั้งสองคนที่บอกว่ายอมติดคุกที่ให้การเท็จ ก็จะได้ติดคุกซ้ำซ้อนแน่นอน

* ภารกิจมาร์คเยือนรัฐกาตาร์

สำหรับภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย. นั้น เมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง) นายกฯ ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การศึกษา Education City จากนั้นเวลา 11.00 น. เข้าเฝ้าฯ H.H. Sheikh Hamad Bin Khalifa Al. Thani เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สำนัก ข่าวอัล จาซีรา ต่อด้วยพบปะนักธุรกิจชั้นนำของกาตาร์ และพบปะชุมชนชาวไทย

ในช่วงเย็น นายกฯ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามกรอบความร่วมมือระหว่างธุรกิจเคมีภัณฑ์ เครือซีเมนต์ไทยกับ Qatar Petroleum (QPI) เพื่อร่วมทุนในโครงการ ปิโตรเคมีทางตอนใต้ของเวียดนาม นอกจากนั้นนายกฯ ยังจะได้หารือกับ H.E. Abdullah Bin Hamad Al-Attiyah รองนายกฯ และ รมว.พลังงานและอุตสาหกรรม รัฐกาตาร์ และ H.E. Sheikh Faisal Bin Qassim Al-Tha*i ประธานและผู้บริหารของสมาคมนักธุรกิจรัฐกาตาร์ รวมทั้งร่วมประทานอาหารค่ำกับนักธุรกิจชั้นนำของรัฐกาตาร์

* แย้มรัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบ 2 ปี

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัล จาซีรา ถึงภาพ รวมการบริหารงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีซึ่งเป็นปีที่คนไทยและทั่วโลกต่างกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ขณะนี้ฟื้นตัวกลับมาได้ระดับหนึ่ง ส่วนปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศต้องตัดสินด้วยการเลือกตั้งเมื่อทุกฝ่ายมีความพร้อม แต่ขณะ นี้ยังไม่มีความพร้อม เพราะยังมีปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลคงอยู่ไม่ครบ 2 ปี แต่ทั้งนี้ต้องดูความเป็นจริงในพื้นที่

ส่วนการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้น โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้สึกกังวลกับการเคลื่อนไหวของอดีต นายกฯ และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับมารับโทษทางกฎหมายก่อน แต่ถ้าถามว่ามีโอกาสที่จะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ ถือว่าเป็นไปได้

* ย้ำยุบสภาหลังฟันฝ่า 3 ปัญหา

ค่ำวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์มายังตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล กรณีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัล จาซีรา ว่ารัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบ 2 ปีว่า อยู่ไม่ครบเทอมครับ ผมบอกว่าเทอมผมเหลืออีก 2 ปี และพูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ได้ตั้งเป้า คาดคิด หรือแสดงเจตนาว่าจะต้องอยู่ครบ ส่วนการเลือกตั้งก่อนที่สภาจะหมดอายุนั้น เป็นสิ่งที่ผมพูดมาตลอดว่าเป็นสิ่งที่ผมจะพิจารณาเมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์และมีความเหมาะสม ผมก็จะพิจารณา และยังยืนยันเงื่อนไขเดิมว่าอยากเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง กติกาในการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และอยากเห็นทุกฝ่ายยกเลิกการขัดขวางการทำงานทางการเมืองของฝ่ายอื่น หาก 3 เงื่อนไขเหล่านี้พร้อมเมื่อใดก็เป็นเรื่องที่น่าจะพิจารณาได้.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook