แฉตั้งค่าหัว10ล้านมาร์คถอยยกเลิกขึ้นเชียงใหม่

แฉตั้งค่าหัว10ล้านมาร์คถอยยกเลิกขึ้นเชียงใหม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตร.รวบปืน-ปิงปอง6พันลูกแดงฮือล้อมโรงพักไล่ผกก.

นายกฯอภิสิทธิ์ ยกเลิกกำหนดการเยือนเชียงใหม่แล้ว หลังทุกฝ่ายหวังดีให้ข้อมูลไปแล้วไม่คุ้มค่ากับผลเสีย ลั่นตัวเองไปแล้วปลอดภัยแน่แต่อาจทำคนอื่นเดือดร้อน แจง ยินดีไปเชียงใหม่ทุกเมื่อ ขณะเดียวกันตำรวจตะครุบเสื้อแดงซ่องสุมระเบิดปิงปอง 6 พันลูก ปืน 8 กระบอกพร้อมกระสุน อ้างซื้อระเบิดปิงปองไว้ขายช่วงลอยกระทง ส่วนปืนรับจำนำคนอื่นไว้ ด้านเสื้อแดงเชียงใหม่ ไม่พอใจตำรวจขอหมายจับดีเจดัง 4 ครั้งแล้วไม่สำเร็จ ปิดล้อมโรงพักกดดันย้ายผกก.ออกนอกพื้นที่ ส.ส.ปชป. ปูดข่าว อภิสิทธิ์ ถูกตั้งค่าหัว 10 ล้านบาท ด้าน หอการค้า ทำหนังสือแจ้งให้นายกฯระงับการมาในงานประชุม ส่วน สุเทพ รอชงเข้าครม.ให้เลิกหรือย่นระยะเวลาประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในเมืองหลวง จตุพร ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ใช้งบจัดกำลังทหารตำรวจเปลือง รองฯสุเทพ สวนให้ยื่นเรื่องตรวจสอบได้ ทักษิณ โพสต์ข้อความขอบคุณเสื้อแดงเลิกชุมนุม

จากกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมปลายเดือน พ.ย.นี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน หลัง จากที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.นี้ รวม 17 วัน แต่รัฐบาลยังคงแสดงท่าทีจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯต่อไป อีกทั้งยังมีความ ไม่แน่นอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมา จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ เนื่องจากกลุ่มเสื้อแดงออกมาข่มขู่จะชุมนุมขับไล่และบางส่วนจะทำร้ายนายก รัฐมนตรีด้วย ทำให้คณะรัฐมนตรีเสนอแนะให้นายอภิสิทธิ์ยกเลิกการเดินทาง แต่กลุ่ม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้หัวหน้าพรรคเดินทางไปเพื่อแสดงความเป็นผู้นำ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

* รอนายกฯตัดสินใจ-ใช้พรบ.

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเรื่องการเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ของนายอภิสิทธิ์ ว่า ต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายผู้จัดงานที่ จ.เชียงใหม่ ก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ เมื่อถามว่าอะไรจะเป็น ปัจจัยในการตัดสินว่าจะเดินทางไปหรือไม่ ไป นายสุเทพ กล่าวว่า ตนดูในเรื่องความปลอดภัย และเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือภาพเสียหายในบ้านเมือง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯแม้กลุ่มเสื้อแดงไม่ชุมนุมแล้วแต่ต้องป้องกันไว้ก่อน รัฐบาลไม่อยากให้เกิด เหตุการณ์เสียหาย ให้ตำรวจทหารปฏิบัติหน้าที่ได้ภายใน 4-6 ชั่วโมง ส่วนจะยกเลิกหรือย่นระยะเวลา ต้องพิจารณาตามสถาน การณ์และจะเสนอที่ประชุมครม.พิจารณา ต่อไป

* ไม่ไปไม่เสียหน้าดีกว่าวุ่นวาย

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯหรือไม่ ต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมครม. ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินในที่ประชุมกอ.รมน.เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เพื่อความไม่ประมาท อย่างไรก็ตามการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไม่มีปัญหาอะไร ทางทหารไม่ได้ทำอะไรส่วนใหญ่อยู่ในที่ตั้ง ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีจะไปเชียงใหม่ ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาแล้ว ซึ่งไม่มีใครอยากให้ไปเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุวุ่นวายและไม่ใช่เป็นการเสียหน้าแต่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงมากกว่า

* แม้วขอบคุณเบรกชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ หลังกลุ่มคน เสื้อแดงประกาศเลื่อนชุมนุม ว่า ขอขอบคุณแกนนำเสื้อแดงที่เลื่อนการชุมนุมออกไปใน โอกาสที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยรักความเป็นธรรมมาร่วมเพราะเรามันม็อบใจ ไม่จ้าง รัฐบาลนี้ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เล่นการเมืองทุกเรื่อง เพื่อกลบกลิ่นทุจริตและปัญหาของประชาชน อย่างน้อยก็เอาตนเป็นประเด็นได้ทุกเรื่อง นอกจากนี้ยังได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือถึงสมาชิกทักษิณไลฟ์ด้วยว่า ขอบคุณแกนนำเสื้อแดงที่เลื่อนชุมนุมให้เราได้มีสมาธิในการถวายพระพรในหลวง

* จตุพรตั้งกระทู้ถามสดมาร์ค

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธาน มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในกรุงเทพฯว่า การชุมนุมของคน เสื้อแดงกำหนดเวลาไว้ตั้งแต่เที่ยงวันที่ 28 พ.ย. ถึง 6 โมงเช้าวันที่ 2 ธ.ค. แต่รัฐบาลกลับประกาศใช้พ.ร.บ.ครอบงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลกล่าว หาว่าคนอื่นไม่จงรักภักดี และใช้ความจงรักภักดีมาทิ่มแทงคนอื่น ทั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้จัดตารางหลีกงานพระราชพิธีและพิธีเดินสวนสนามอย่างครบถ้วน เมื่อรัฐบาลไม่ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตนก็เป็นฝ่ายประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไป

นายจตุพร กล่าวต่อว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ รวม 6 ครั้ง มีข้อสงสัยเรื่องงบประมาณจะชี้แจงรายละเอียด อย่างไร รัฐบาลมีการกุเรื่องว่าจะมีคนต่างด้าวสวมเสื้อแดงมาชุมนุมด้วยพร้อมฝึกกำลังและอาวุธต่างด้าวเป็นพันคน ถ้าเป็นเรื่องจริงขอถามว่าแล้วนายสุเทพ ทำไมไม่ไปจับ

* สุเทพแจงแทนเหตุม็อบป่วน

หลังจากนั้นนายสุเทพ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ที่อาจมีผลกระทบความมั่นคงภายในเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยเหตุผล เมื่อมีการฝ่าฝืนต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสุจริตชน แต่วิธีการใช้กฎหมายอาจต่างกัน มีการไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลไม่ให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปทำงานได้ ตนจึงได้ไปจัดประชุมที่พัทยา และหัวหินบ้าง แต่กลับยิ่งฮึกเหิม ล้มแม้กระทั่งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ขอยืนยันว่ารัฐบาลปฏิบัติชอบด้วยหลักกฎหมาย

นายสุเทพ กล่ ในเรื่องงบประมาณ สภามีคณะกรรมาธิการสามัญติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอยู่แล้ว ให้ทำหนังสือมาไม่มีปัญหาสามารถตรวจสอบได้และตนก็พร้อมไปชี้แจง เพราะเป็นการใช้ ในค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ และน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นค่าใช้จ่ายตามปกติ ส่วนเรื่องรถกันกระสุน ถ้าไม่ใช่พวกท่านก่อเรื่องขึ้นมาก็ไม่ต้องมี แต่ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ชนิดตั้งใจฆ่ากัน ทำให้ผู้นำต่างประเทศเห็นกลุ่มคนพวกนี้ก็ตกใจ จึงต้องมีรถกันกระสุนไว้รองรับ 16 ผู้นำประเทศ ตอนนี้ตนเอามาใช้ 1 คัน ส่วนเรื่องคนต่างด้าว ตนไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาแต่ได้ ตักเตือนว่าอย่าบังอาจเอาคนต่างด้าวมาร่วมชุมนุม

* เสื้อแดงซุกบึ้มปิงปอง-ปืน

ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนหน้านี้เวลา 08.30 น. พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รรท. ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อม ร.ต.ท.อาคม ศรีฟอง รองสว. นำกำลังพร้อมหมายค้นเลขที่ 1102/2552 ลงวันที่ 25 พ.ย. 52 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 บ้านวังน้ำหยาด ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ของนายณรงค์ บุญจงเจริญ อายุ 45 ปี อดีตนักกีฬาชกมวย ตัวแทนเขต 5 หลังการตรวจค้นได้พบของกลางเป็นระเบิดประทัดทรงลูกปิงปอง 6,000 ลูก และอาวุธปืน ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ 4 กระบอก อาวุธปืนยาว 2 กระบอก ลูกกระสุนขนาด .38 จำนวน 5 นัด ลูกกระสุน ปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา และอ้างว่าได้ซื้อวัตถุระเบิดประทัดทรงลูกปิงปองมาจำหน่ายในช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา แต่จำหน่ายไม่หมด ส่วนอาวุธปืนก็รับจำนำจากชาวบ้านมา โดยนายณรงค์ ยอมรับว่าตนเป็นคนกลุ่มเสื้อแดง อยู่กลุ่มรักจอมทอง เป็นลูกน้องของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งการเก็บอาวุธปืนและระเบิดประทัดทรงลูกปิงปองจำนวนมากนี้ไว้เพื่อจำหน่ายเท่านั้น

* ตร.-ทหารถกรับมือม็อบแดง

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่บช.ภ.5 พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมหัวหน้าหน่วยทหารด้านคุมกำลังในพื้นที่เข้าร่วมหารือ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้ ผบช.ภ.5 และชุดทำงานด้านการข่าว เพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมการรองรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยพล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า การจับกุมระเบิดปิงปองพร้อมอาวุธปืนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นการสนธิกำลังทางด้านการข่าวของกองทัพภาคที่ 3 และตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อระดมกวาดล้างอาวุธสงคราม ระเบิด และภัยที่จะคุกคามแผนรักษาความปลอดภัย

พล.ต.ท.สมคิด กล่าวต่อว่า การจับกุมระเบิดที่ อ.จอมทอง เป็นผลมาจากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวพบว่านายณรงค์ เป็น แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเป็นการ์ดหรือกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่นิยมใช้ความรุนแรง เราพยายามติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้มานานเพราะนิยมใช้ความรุนแรง มั่นใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกันแน่นอนกับกลุ่มที่ขว้างระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ 18 นาย เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนความคืบหน้าการขออนุมัติหมายจับนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ประกาศขู่ฆ่านายกรัฐมนตรีนั้น ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจของศาล

* เชื่อไม่รุนแรง-จนท.คุมได้

พล.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า เราพยายามระงับเหตุตั้งแต่ต้นและจากการประเมินสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ คิดว่าไม่น่าจะมี อะไรรุนแรง ส่วนเรื่องที่มีการตรวจยึดระเบิดปิงปองและอาวุธปืนได้ที่ อ.จอมทอง เช้านี้นั้น ตามธรรมดาแล้วระเบิดปิงปองไม่ได้มีอานุภาพร้ายแรงแค่ทำให้เกิดความวุ่นวาย และ สร้างความปั่นป่วน ไม่ได้มุ่งให้ถึงตาย อาจจะไม่เกี่ยวกับกลุ่มเสื้อแดงเพราะตามคำขู่คือจะใช้จักรยานยนต์คาร์บอมบ์

* กดดันตร.ขอหมายจับดีเจ

ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เวลา 12.00 น. นายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มเสื้อแดง นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล น.ส.กัญญาภัค มณีจักร แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมสมาชิกกลุ่มกว่า 100 คน ได้สวมเสื้อแดงพร้อมป้ายและสัญลักษณ์เข้าปิดล้อมบริเวณด้านหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีกำลังตำรวจกว่า 50 นาย เข้าควบคุม โดยกลุ่มกล่าวโจม ตีตำรวจกรณียื่นขอต่อศาลจังหวัด เชียงใหม่ถึง 4 ครั้ง เพื่อออกหมายจับนายเพชรวรรต ในการกระจายเสียง เพื่อปลุกปั่นให้มีการฆ่านายอภิสิทธิ์ โดยเรียกร้องให้ย้ายพ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก. สภ.เมืองเชียงใหม่ ออกจากพื้นที่ไป โดยกลุ่มเสื้อแดงปักหลักประท้วงอย่างต่อเนื่อง

* สงขลาไม่ป่วน-ปทีปไว้ใจ

ที่ จ.สงขลา นางนิษิฎภัทร์ ณ นคร หรือ ครูแดง ประธานชมรมคนรักประชาธิปไตยสงขลา 52 กล่าวว่า เครือข่ายคนเสื้อแดงในจังหวัดที่มีอยู่ 10 กลุ่ม จะไม่มีการ นำคนเสื้อแดงไปรวมตัวชุมนุมขับไล่หรือกด ดันนายอภิสิทธิ์ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนและพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพราะต้องการให้นายกรัฐมนตรีรีบลงมาแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเชียงใหม่ตรวจค้นบ้านแกนนำกลุ่มเสื้อแดงพบระเบิดปิงปองจำนวนมาก ว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะตั้งด่านตรวจค้นเพื่อเตรียมการดูแลความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สมคิด เชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีการจัดกำลังดูแลเต็มที่อยู่แล้ว

* หอการค้าระงับมาร์คมาแล้ว

ที่หอการค้าไทย เวลา 16.30 น. นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทยมีมติร่วมกันจะทำหนังสือเสนอให้นายอภิสิทธิ์ ระงับการเดินทางมาร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่ จ.เชียงี่ 27-29 พ.ย.นี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวนายกรัฐมนตรี ความสงบสุขของชาวเชียงใหม่ รวมถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัยซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม โดยหอการค้าไทย จะมีหนังสือเรียนนายกรัฐมนตรีเป็นการด่วนในวันที่ 27 พ.ย. และจะได้นัดหมาย เพื่อนำสรุปผลการสัมมนาฯ เสนอนายกรัฐมนตรีในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

นายดุสิต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ จะยังเป็นกำหนดการเดิมคือประชุมระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2,000-3,000 คน ไม่จำเป็นต้องให้นายกฯ ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หากปล่อยให้สถานการณ์ไม่มีความชัดเจนต่อไป เป็นห่วง ว่าหัวข้อการประชุมที่กำหนดขึ้นจะถูกละเลย ทั้งที่เป็นหัวข้อมีความสำคัญต่อการพัฒนา เศรษฐกิจ จุดยืนของหอการค้าไทย คือ ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในชาติ แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาห กรรมท่องเที่ยว

* มาร์คงดเยือนเชียงใหม่

ที่รัฐสภา เวลา 18.00 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ว่า ตนยืนยันว่าถ้าหอการค้า ยืนยันจะให้ตนไปร่วมงานตนก็จะเดินทางไปและถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และหน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งล่าสุดเท่าที่ตนทราบทางหอ การค้ามีความเห็นว่าหากตนเดินทางไป จ.เชียง ใหม่ อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นผลกระทบ กับบรรยากาศของจังหวัดและด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นเรื่องนี้แล้วแต่ความประสงค์ของหอ การค้า

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าผมไปตัวผมปลอดภัย แต่คิดว่ามีความเสี่ยงในเรื่องความเดือดร้อน ทั้งกับผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่หรือผู้เข้าร่วมประชุม และทราบว่าหากผมเดินทางไปจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสถานที่และการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุมมันก็มีความเสี่ยงและเราก็พอทราบว่ามีความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการให้เกิดปัญหา เมื่อเป็นอย่างนี้ผมก็ทำตามที่หอการค้าต้องการ และจะหาโอกาสอื่นไปเยี่ยม พี่น้องชาวเชียงใหม่ ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมเยียน ไม่ได้มีความคิดที่จะไปท้าทายหรือยั่วยุ ผมพร้อมที่จะทำหน้าที่ คงจะเป็นโอกาสอื่นที่รัฐบาลจัดกิจกรรม ผมก็จะไปเยี่ยมเยียน นายกรัฐมนตรี กล่าว

* ยินดีลงพื้นที่เชียงใหม่แน่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า คงไม่มีการ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพราะประธานหอการค้าแจ้งว่า เมื่อประชุมเสร็จแล้วจะนำข้อเสนอของที่ประชุมมาเสนอให้ตนได้รับทราบ ความจริงตนสามารถเดินทางลงพื้นที่ได้แต่ต้องชั่งใจว่าหากเดินทางไปแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่เพราะจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตามคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นข้อจำกัดในการลงพื้นที่ แต่ต้องมีความชัดเจนว่าจะไม่ให้ใครมาข่มขู่ทำ ให้ทำหน้าที่ไม่ได้ และถ้ารัฐบาลจัดกิจกรรมตนก็จะไปร่วมตนเคยไปที่ จ.เชียงใหม่ แล้ว

* ปูดข่าวค่าหัวนายกฯ10ล้าน

นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่น่ากลัวน่าจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพราะถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ แม้คนเสื้อแดงจะขู่แต่คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบไม่เห็นด้วย และจะทำหน้าที่ปกป้องนายกฯ ส่วนที่ตำรวจค้นเจอระเบิดปิงปอง กว่า 6 พันลูก รวมทั้งอาวุธปืนที่บ้านแกนนำคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ ถือว่าสอดคล้องกับข่าวที่ตนได้รับมาก่อนหน้านี้ว่ามีการเตรียมแผนประทุษร้ายนายกรัฐมนตรีจริง นอกจากนี้ตำรวจและทหารบางส่วนที่แอบให้ความร่วมมือกับแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ มีข่าวออกมาแล้วว่ามีการตั้งค่าหัวของนายกฯ กว่า 10 ล้านบาทด้วย

* โต้พท.ไม่รู้-ทอท.ฟ้องพธม.

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยถึงกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเงินการคลังการธนาคาร ระบุว่า จะแจ้งความทอท.ในฐานะที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิว่า ทอท. ได้ดำเนินการยื่นฟ้องแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รวม 12 คน ต่อศาลแพ่ง และเรียกค่าเสียหาย 150 ล้านบาท รวมทั้งคดีอาญาแจ้งไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ และ สน.ดอนเมือง แล้ว ซึ่งศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์เดือน ส.ค. และ ก.ย. 53 และนัดสืบพยานจำเลยเดือน ต.ค. 53 ตนไม่เข้าใจเหตุใดจึงมีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดกัน อาจเพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook