รักที่เริ่มสุกงอม! แอน รอพร้อมเป็น เจ้าสาว

กำลังครองใจคนดูในบท "อลิน" นางเอกสไตล์กวนๆ ในละครเรื่อง "สูตรเสน่หา" สำหรับนางเอกชื่อดัง แอน ทองประสม ที่ตอนนี้เธอกำลังแฮปปี้ทั้งเรื่องงาน และเรื่องหัวใจ กับแฟนหนุ่มนอกวงการ "เอ" ทินพันธ์ ตันตินิรันดร์ แหม...หัวใจเป็นสีชมพูแบบนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหู ว่าเธอกำลังเตรียมสร้างเรือนหอรอรักนั้น จะจริงหรือไม่ มาล้วงลึกหัวใจ และหาคำตอบของเธอกันเลย...

เรื่องงานในวงการบันเทิง

คนดูพูดถึงผลงานละครเรื่อง "สูตรเสน่หา" อย่างไรบ้าง

ดีนะ มีคนพูดถึงเยอะ ชมว่าน่ารัก จริงๆ ดูเหมือนว่าเล่นง่าย แต่จริงๆ ก็ยากเหมือนกัน เพราะเราต้องใช้พลังเยอะ เหนื่อย แต่ก็สนุก ทีมงานก็ช่วยกันเต็มที่ เพื่อให้งานออกมาดี

ด้วยความเป็นละครคอมเมดี้ สำหรับแอนยากไหม

ยากนะ สมมติฉากร้องไห้ยังไงให้คนดูหัวเราะได้ อย่างเรื่องนี้เล่นกับเคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ก็เรื่องที่ 4 แล้ว ถามว่าทำงานง่ายขึ้นไหม ก็ง่ายขึ้น เพราะเราสามารถรับส่งกันได้ดี คือเมื่อก่อนเจอกับเคน เรื่อง แรงเงา ตอนนั้นเหมือนยังไม่สนิท จังหวะการรับส่ง อาจจะยังไม่ดี แต่ที่มาสตาร์ทกันคือตอนเล่นเรื่อง "อุ้มรัก" มากกว่า หลังๆ เราก็ไม่มีเขินกันแล้ว แต่รู้จักจังหวะในการเล่นด้วยกันมากกว่า

แอนมีเทคนิคอย่างไรในการแสดง

แอนไม่มีเทคนิคอะไรหรอก ก็ดูไปตามบท ผู้กำกับสั่งให้เราทำอะไร เราก็รับคำสั่งมาแบบนั้น แต่เราก็ต้องทำการบ้านบ้าง อย่างเรื่อง "สูตรเสน่หา" แอนก็ดูหนังฝรั่งเยอะ ดูว่าความกะเปิ๊บกะป๊าบ จะเล่นยังไง ชาคริต (ชาคริต แย้มนาม) ก็เอาหนังฝรั่งมาให้ดู คือเราต้องนึกภาพด้วย ว่าเล่นร้ายยังไง ไม่ให้คนเกลียด เพราะในเรื่องเราต้องเป็นนางเอกด้วย

ณ ตอนนี้เล่นละครยังคงมีความกดดันไหม

ตอนแรกกดดัน เพราะคนจะคาดหวังมาก ด้วยความเป็นเคนกับแอน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะแสดงว่าคนดูเชื่อมั่นเรา ให้เครดิตเรา ให้คะแนนเรามาแล้ว แสดงว่าเราต้องรักษางานให้ดี ไม่ทำแบบชุ่ยๆ

ผ่านละครรีเมกมาหลายเรื่อง ล่าสุดเล่นเรื่อง "เชลยศักดิ์" กลัวการเปรียบเทียบไหม

แอนเล่นละครที่เอามาทำใหม่หลายเรื่องแล้ว คือจะให้คนไทยกินแกงเขียวหวานทั้งชีวิต คงไม่ได้ มายุคนี้เขาอาจจะกินแกงเขียวหวานกับโรตี คือมันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย

เรื่องนี้นางเอกต้องขี่ม้าเก่งมาก ฉะนั้นการเล่นกับสัตว์ยากไหม

เรื่องนี้แอนฝึกขี่ม้าจนกระดูกเชิงกรานเดี้ยงแล้ว (หัวเราะ) เพราะในเรื่องนางเอกต้องขี่ม้าเก่งมาก แล้วช่วงที่ซ้อมก็เคยตกมาแล้ว ซึ่งมันก็หลอนสำหรับเรานะ แต่หลังๆ เรารู้จังหวะ รู้วิธี แอนจะหนีบขาได้แน่น ผลจากการฝึกขี่ม้า เพื่อถ่ายละคร ตอนนี้กลายเป็นว่าแอนเป็นเมมเบอร์ไปแล้ว คือเราไม่ถึงขั้นจะไปแข่งขันอะไรหรอก แต่เราชอบ ตอนนี้ที่บ้านแอนมีแต่ม้าเต็มไปหมด คือจะเป็นของสะสมอะไรแบบเนี่ย

เรื่องวางแผนชีวิตในอนาคต

ณ วันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง

เราเคยดัง เคยประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดมันแค่ตรงนั้น แต่เราเหมือนสินค้าที่ติดตลาดมานาน เราต้องรักษาคุณภาพให้ดี ฉะนั้นเรื่องดังหรือไม่ดัง มันเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ สำหรับแอน แอนพอใจของแอนแล้ว ลึกๆ เราก็อยากให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง แต่แอนไม่ได้กดดัน แต่พยายามทำทุกอย่างให้มันดี

แสดงว่าพอใจกับงานในวงการแล้ว

จริงๆ แอนเคยคิดว่าเก็บเงินได้ 3 ล้าน แอนก็จะไปแล้ว แต่วันหนึ่งแอนได้เกินเป้า มันก็ควรพอได้แล้ว เพราะตอนนี้เรามามากกว่าที่เราคิด

เคยวางแผนอนาคตในวงการนี้ไว้อย่างไร

แอนเป็นคนวางแผน แอนวางเป้าหมาย ว่าต้องเล่นละครให้ดีที่สุด แต่การจะจบชีวิตการเป็นดาราเมื่อไหร่นั้น แอนไม่ได้คิด แต่แอนจะเอาความคิดและความรู้สึกเป็นตัววัด แอนใช้ความรู้สึกเป็นตัววัด ถึงเวลานั้นมันคงบอกเอง ตอนนี้เราก็พยายามเล่นละครไปเรื่อยๆก่อน ตอนนี้ยังเล่นเป็นนางเอก แต่วันหนึ่งโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องรับบทอื่นๆ มันเป็นธรรมดาของวงการ

ผ่านงานมาหลายรูปแบบ โอกาสที่จะเห็นแอนเป็นผู้จัดละครมีบ้างไหม

จริงๆ ทุกวันนี้แอนไม่ได้เล่นละครอย่างเดียว เวลาเล่นละครแอนจะมอง หรือศึกษาคนรอบข้าง อย่างผู้จัดละคร เขาทำอะไรบ้าง ทำงานกันยังไง แต่ถามว่ามีโอกาสที่จะมาเป็นผู้จัดละครไหม แอนก็ยังไม่รู้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนั้นไหม (มีเสนอให้นายประวิทย์ มาลีนนท์ บ้างไหม) ยังไม่เคยยื่นเรื่องให้นายเลย ตอนนี้แอนมีหน้าที่ทำงานเบื้องหน้าให้เขาก่อน ส่วนงานเบื้องหลัง ถ้าเราพร้อมจริงๆ แล้วค่อยว่ากัน

เรื่องหัวใจสีชมพู

ดูเหมือนหลายๆ คนจะคาดหวังในตัวแอนกับทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก

หลายคนก็คิดว่าแอนจะต้องเพอร์เฟกท์ทุกๆ เรื่อง แม้กระทั่งเรื่องความรัก แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องของแอนอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง อย่างเรื่องครอบครัวของแอนก็ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แอนไม่เคยกลัวอะไร อย่างงานมันจะออกมายังไง แต่แอนรู้ว่าแอนทำเต็มร้อยแล้ว ถ้ามันไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร เพราะเราทำเต็มที่แล้ว

แฟนๆ ลุ้นว่าเมื่อไหร่แอนจะมีข่าวดีกับแฟนหนุ่ม ("เอ" ทินพันธ์) เพราะมีข่าวว่าสร้างเรือนหอแล้ว

คงอีกสักพักเลย แอนยังมีภาระอีกเยอะ มีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่ลงตัว ถ้าลงตัวเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน

หลายคนมองว่าแอนดูพร้อมทุกอย่าง ทั้งเรื่องการงาน ฐานะ และอายุ ทำไม่ถึงไม่ใจอ่อนสักที

มันเป็นองค์ประกอบข้างนอกที่เราดูพร้อมมากกว่า แต่เรื่องนิสัยแอนมากกว่าที่ต้องปรับ คือเราเป็นเพื่อนกันได้เลยไม่มีตัวเร่ง แอนไม่อยากมีลูกด้วยมั้ง คือ ณ วันนี้ไม่อยากมีนะ แอนเลยไม่รีบอะไร คุณเอก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แล้วแอนก็คิดว่านักแสดงคนอื่นๆ ที่เขาคบกันมาตั้งนาน อย่างวิลลี่ แมคอินทอช เขาคบกับเยลหลีมาตั้ง 12 ปีถึงจะแต่ง ของแอน 9 ปีเอง อย่างที่บอกว่าทุกอย่างแอนใช้ความรู้สึกเป็นตัววัด เมื่อไหร่ที่รู้สึกจริงๆ ก็คงอยากแต่ง

แอนบอกว่านิสัยของตัวเองมากกว่าที่ต้องปรับ แล้วนิสัยแบบไหนที่แอนต้องปรับ

ด้วยความที่แอนเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวมาตลอด อยู่กับยาย ดังนั้นมันก็เลยต้องปรับกับการอยู่กันแบบ 2 คน คือเราอยู่ในที่เงียบๆ ซอกเล็กๆ ของแอน ทำอะไรก็ทำคนเดียว อย่างกินข้าว หิวข้าวเราก็กินก่อน ไม่ต้องรอใคร แต่พอวันหนึ่งมีบางคนที่รอเรากินข้าวอยู่ ซึ่งตรงนี้แหละที่แอนยังปรับไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องคุ้นเคยกับการทำอะไรสองคนก่อน

ที่ยังไม่พร้อมแต่งงาน ส่วนหนึ่งมาจากที่ครอบครัวของแอนไม่สมบูรณ์แบบด้วยหรือเปล่า

ไม่เกี่ยวเลย ครอบครัวแอนไม่ได้อยู่พร้อมหน้า ก็อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่แอนก็แฮปปี้ คือที่บ้านก็อยากให้แต่ง แต่เป็นที่เราเองมากกว่า

ณ วันนี้กดดันไหมกับการโดนถามเรื่องแต่งงาน

มีบ้าง แอนเข้าใจว่าคนอยากรู้เหตุผลมากมาย ว่าทำไมยังไม่แต่ง บางทีคนถามเรา ว่าเขาไม่มาขอเหรอ เราก็บอกว่าไม่พร้อม คือมันตอบเป็นข้อๆ ไม่ได้ แอนกดดัน กลัวตอบไม่ถูกมากกว่า แอนยังพูดเล่นๆ กับอ้อม (พิยดา อัครเศรณี) เลย ว่าอ้อมแต่งแล้ว งานก็เข้าแอนสิ (หัวเราะ) หรือช่วงที่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ เองตระกูล) แต่งงาน ก็มีคนแซวๆ เรา เหมือนว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาก็เริ่มแต่งงานกันไปแล้ว
ชัดไหมจ๊ะ