คลังเตรียมเสนอครม.ผ่อนผันเกษรกรเข้าประกันรายได้

คลังเตรียมเสนอครม.ผ่อนผันเกษรกรเข้าประกันรายได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะหารอกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ถึงการผ่อนผันให้เกษตรกรที่เข้าโครงการประกันรายได้ สามารถใช้สิทธิได้ทันทีหลังทำสัญญา จากเดิมที่ครม.มีมติให้ใช้สิทธิในวันถัดไป เนื่องจากมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำสัญญาเกรงว่าจะใช่สิทธิไม่ทันงวดวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยจะนำเข้าครม.วันที่ 1 ธ.ค.นี้ เพื่อขอผ่อนผันต่อไป จากที่ก่อนหน้านี้ผ่อนผันมาแล้วครั้งนี้จากเดิมที่ระบุว่าสามารถใช้สิทธิได้ทุก 15 วันหลังทำสัญญา อีกทั้งนื่องจากขณะนี้ราคาตลาดอ้างอิงที่ประกาศระหว่างวันที่ 16 และ 30 ทุกเดือนมีส่วนต่างสูงมาก โดยล่าสุดสูงถึงตันละ 2,000 บาท ทำให้เกษตรกรมักรอทำสัญญาช่วงวันที่ 30 เพื่อใช้สิทธิประกันราคารับส่วนต่างวันที่ 1

ขณะนี้เห็นว่าราคาสินค้าเกษตร ทั้งข้าวและมันสำปะหลังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำาคาอ้างอิงกับราคาประกันใกล้เคียงกัน และเกษตรกรได้ประโยชน์จากการขายสินค้าและรัฐจ่ายส่วนต่างเงินชดเชยลดลง ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีวงเงินสินเชื่อสร้างยุ้งฉางทำให้เกษตรกรที่เก็บข้าวไว้รอขายเมื่อราคาสูงขึ้น จะได้ประโยชน์สองต่อจากการขายข้าวและค่าเก็บข้าวอีกตันละ 1,000 บาท นโยบายดังกล่าวสะท้อนถึงความพึงพอใจของเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลจะคงไว้เป็นนโยบายถาวร ขณะที่วงเงินชดเชยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ทั้งมันและข้าวรัฐบาลจึงอาจใช้เงินชดเชยส่วนต่างน้อยกว่าที่จัดสรรไว้กว่า 40,000 ล้านบาท

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า เบื้องต้นได้เร่งรัดให้ทุกสาขาทำสัญญากับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เข้าโครงการประกันรายได้ให้เสร็จก่อนวันที่ 30 พ.ย.นี้ จากปัจจุบันที่ทำสัญญาแล้ว2.1 านรายจากที่ทำประชาคมแล้ว 3.1 ล้านราย โดยคาดว่าน่าจะทำสัญญาได้เพิ่มเป็น 2.7 ล้านรายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ และอาจมีคำสั่งไปก่อนให้จ่ายเงินชดเชยกับเกษตรกรที่ทำสัญญาแล้วทันที ไม่ต้องรอเป็นวันถัดไป เพราะนายกรณ์ รับปากที่จะนำเรื่องเสนอเข้าครม.แล้ว

ทั้งนี้ พบว่ามีเกษตรกรภาคอีสานกว่า 200,000 ราย หรือ 10% ของเกษตรกรที่ทำสัญญาแล้ว ต้องการใช้สิทธิให้ทันงวดวันที่ 30 พ.ย.นี้เพราะเกรงว่าส่วนต่างจะปรับลดลงไปอีก เนื่องจากส่วนต่างของข้าวหอมมะลิและข้าวหอมจังหวัดยังอยู่ในระดับสูงเทียบกับข้าวชนิดอื่นอยู่ที่พันกว่าบาทต่อตัน หลังจากที่ราคาในตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook