แฟนบอลชาว จ.อยุธยาฯ สโมสรไฟฟ้าฯ เอ๊ฟซี เดือด เตรีมเผาส่งของที่ระลึก และเสื้อสโมสร หลังถูกลอยแพ

แฟนบอลชาว จ.อยุธยาฯ สโมสรไฟฟ้าฯ เอ๊ฟซี เดือด เตรีมเผาส่งของที่ระลึก และเสื้อสโมสร หลังถูกลอยแพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แฟนคลับทีมไฟฟ้า อยุธยา เอฟซี เตรียมจัดงานรำลึกการจากไปของสโมสรไฟฟ้าฯ อยุธยา เอ๊ฟซี หลังผู้บริหารทีมมีการย้ายสนามเหย้า จากพระนครศรีอยุธยาไปบุรีรัมย์ พร้อมเตรียมจัดพิธีเผาของที่ระลึกสโมสรในวันพรุ่งนี้(29/11/52) ที่สนามกีฬาจังหวัดฯ วันนี้(28/11/52) เวลา 15.15 น. นายธรรมนูญ แสงพันธ์ อายุ 36 ปี แกนนำทีมเชียร์อดีตสโมสรไฟฟ้าฯ อยุธยา เอ๊ฟซี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(28/11/52) เวลา 10.00 น. แกนนำอดีตทีมเชียร์สโมสรไฟฟ้าฯ อยุธยา เอ๊ฟซี หรือ สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเรียกประชุมและพูดคุยในหมู่ทีมเชียร์จากภาคกลางทั้งหมด พร้อมทั้งจะเผาเสื้อทีมสโมสรไฟฟ้า อยุธยาฯ เอ๊ฟซี รวมถึงของที่ระลึกต่างๆ เนื่องจากไม่พอใจการย้ายสนามเหย้าของผู้บริหารสโมสรฯ จากสนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นสนามการแข่งขัน โดยในปีนี้มีการย้ายสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปแข่งขันที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามเหย้าแทน เนื่องจากการกระทำของผู้บริหารสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไม่เคยคำนึงถึงจิตใจของทีมเชียร์ชาวพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สระบุรี สิงห์บุรี ทั้งที่ทีมเชียร์ได้ติดตามเชียร์ทุกนัด และทุกครั้งต้องออกค่าใช้จ่ายกันเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการลอยแพทีมเชียร์ภาคกลางทั้งหมด จึงตั้งคำถามกับผู้บริหารว่า ต้องการสนองการเมืองหรือสนองแฟนบอล นายธรรมนูญฯกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนสมาชิกหาแฟนคลับให้กับทีมสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกปี 2008 มีกองเชียร์สมัครเข้ามาเป็นแฟนคลับจำนวนมาก แต่การย้ายทีมไปแตะยังจังหวัดบุรีรัมย์ โดยไม่คำนึงถึงทีมเชียร์ที่มีความผูกพันกันมาแบบนี้ ทำให้ทีมเชียร์ทั้งหมดมีมติร่วมกันที่จะไว้อาลัย และเลิกเชียร์ทีมสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แกนนำทีมเชียร์อดีตสโมสรไฟฟ้าฯ อยุธยา เอ๊ฟซี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันที่จะสร้างทีมเชียร์ขึ้นมาใหม่ โดยจะไม่สนใจสโมสรจากต่างถิ่น โดยให้ความสำคัญกับทีมอยุธยา เอ๊ฟซี ซึ่งเป็นทีมรองแชมป์ดีวีชั่น 2 โดยการจัดตั้งของสโมสรฟุตบอลองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแทน เพราะถือว่าส่วนหนึ่งเป็นฝีเท้าคนพระนครศรีอยุธยา และคงจะไม่ทอดทิ้งแฟนบอล หรือคอบอลที่เสียสละเวลา และทรัพย์ส่วนตัวไปเชียร์อย่างแน่นอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook