หมอลักษณ์ ชี้หลัง26เม.ย.ดวง แม้ว เปิด

หมอลักษณ์ ชี้หลัง26เม.ย.ดวง แม้ว เปิด

หมอลักษณ์ ชี้หลัง26เม.ย.ดวง แม้ว เปิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ ใส่ "เกราะอ่อน" ลงพื้นที่ กทม. ประเดิม พ.ร.บ.มั่นคงวันแรก "แม้ว" วิดีโอลิงก์นำปฏิบัติธรรมถวายในหลวง ฝันอยากกลับเป็นนายกฯ ใช้หนี้แผ่นดิน กร้าวยิ่งถูกรังแกยิ่งสู้ กู่ไม่กลับ ! แจกรูปตัวเองนั่งใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ "หมอลักษณ์" ฟันธง! หลัง 26 เม.ย.ดวงแม้วเปิด ภายใน มี.ค.53 การเมืองเปลี่ยนครั้งใหญ่

แม้คนเสื้อแดงจะยกเลิกการชุมนุมใหญ่ใน กทม. ในวันที่ 28 พฤศจิกายน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะยกเลิกการเดินทางไปประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ แล้ว แต่มาตรการความปลอดภัยยังอยู่ในขั้นสูง โดยนายกฯ ถึงกับต้องใส่เสื้อเกราะอ่อนขณะปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นวันแรก เนื่องจากมีข่าวลอบสังหารนายกฯ มาก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขต กทม. เป็นวันแรก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานเปิดกิจกรรม "ชุมชนดี มีรอยยิ้ม" ครั้งที่ 5 ที่สำนักระบายน้ำ และสำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับ บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามโครงการ "รอยยิ้มของคนไทย คือรอยยิ้มของพ่อ" บริเวณด้านหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม

"เป็นสิ่งที่ดี ที่วันนี้มาเห็นรอยยิ้มของคนไทย มาร่วมกันทำความดี และมีความรักสามัคคี ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เชื่อว่า รอยยิ้มและความสามัคคีที่เกิดขึ้น จะสร้างความสุขแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยากให้คนไทยมีความสามัคคีกัน" นายกรัฐมนตรีกล่าว

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้ร่วมกับประชาชน เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร นักเรียน และทหาร ทำความสะอาดบริเวณคลองคูเมืองเดิม (คลองหลอด) และบริเวณทางเท้าโดยรอบสนามหลวง พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบนตึกสูง โดยเฉพาะพื้นที่รอบสนามหลวง ขณะที่นายกรัฐมนตรีสวมเสื้อเกราะอ่อน มีเสื้อยืดคอกลมสวมทับไว้

ประเมินเลิก พ.ร.บ.มั่นคง 1 ธ.ค.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขต กทม.เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ว่า ยังไม่มีอะไร เพราะยังไม่ได้เคลื่อนย้ายกำลังพล สถานการณ์ก็ยังเรียบร้อยดี ส่วนการจะยกเลิกนั้นฝ่ายความมั่นคงจะมารายงานสถานการณ์ในวันที่ 1 ธันวาคม เพราะเดิมจะมีการชุมนุมใหญ่ จึงคิดไปถึงเรื่องที่จะมีคนเข้ามาจำนวนมาก แต่หลังจากนี้ก็อยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงจะรายงานเข้ามาว่ายังมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่แล้วพิจารณาในที่ประชุม ครม. แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไร

พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ระบุว่า ขณะนี้ทหารยังเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง เพราะไม่มีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง แต่พร้อมเคลื่อนพลทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน แต่จากการข่าวขณะนี้สถานการณ์ยังปกติ

พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บังคับอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจยังมีการตั้งด่านทั่วพื้นที่กรุงเทพญ ในช่วงกลางคืน ส่วนกำลังพลส่วนอื่นยังอยู่ในที่ตั้ง และพร้อมเคลื่อนไหวทันที

ปชป.ยังห่วงสถานการณ์รุนแรง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินสถานการณ์การบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นวันแรกในเขต กทม. ว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงอยู่ โดยเฉพาะการที่ตำรวจค้นพบอาวุธที่บ้านกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งยืนยันการประเมินของพรรคก่อนหน้านี้ว่า อาจมีการเตรียมการสร้างความวุ่นวายหากนายกฯ ไปร่วมประชุมกับหอการค้า และจากการตรวจสอบระเบิดปิงปองถือว่าอันตราย มีอานุภาพทำให้บาดเจ็บนิ้วหรือมือขาดได้ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกการ์ด นปช. ในลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือหวาดกลัวเป็นวงกว้าง

แม้วนำปฏิบัติธรรมถวายในหลวง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาเมื่อเวลา 17.30 น. ที่หอประชุมสงฆ์ วัดสามพระยา ซอยสามเสน 3 โดยมี นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าภาพจัดงาน "น้อมดวงใจรักภักดีปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ในงานมีเครือญาติและผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณเข้าร่วมงาน เช่น น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน เป็นต้น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานได้แต่งกายชุดขาว ประมาณ 500 คน โดยเป็นการทำกิจกรรมนั่งสมาธิ และบรรยายธรรม

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้จัดผ้าป่าระดมทุนสร้างตึกสงฆ์ และแจกภาพถ่าย 5,000 ใบแก่ผู้มาร่วมงานซึ่งเป็นรูป พ.ต.ท.ทักษิณนั่งสมาธิใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประเทศศรีลังกา โดยอ้างว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มาจากต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ระบุข้อความ "ผมขออนุโมทนาบุญกับท่านที่มาปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณสวมชุดสูทสีดำ และผูกเนกไทสีแดง ยืนข้างพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร โดยวิดีโอลิงก์มาจากที่พักส่วนตัวในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) มาในงานดังกล่าว มีความตอนหนึ่งว่า ตอนนี้ตนมีความสบายใจ ถึงแม้จะคิดถึงบ้านก็สบายดี เป็นห่วงพี่น้องคนไทยที่น่าจะทุกข์ เพราะสภาพปัญหาต่างๆ เยอะแยะ เศรษฐกิจที่หนักหน่วง ความวุ่นวายบ้านเมืองหาจุดจบไม่เจอ ส่วนอากาศที่ดูไบตอนนี้กำลังพอดี อีกไม่กี่วันคงจะหนาวแล้ว

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณพนมมือกล่าวนำอาราธนาศีลถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเมื่อกล่าวจบ ได้ให้ตัวแทนเครือญาติ และผู้ใกล้ชิดมอบกองผ้าป่า จำนวน 5 กอง โดยมีนางเยาวเรศเป็นประธานมอบแด่พระสงฆ์ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ดีใจที่ต้องขออนุโมทนาบุญ มีตัวแทนช่วยทำบุญให้ พี่น้องส่งใจให้ เพื่อชาติหน้าเราจะได้เป็นพี่เป็นน้องร่วมกันต่อไป

ต่อมา นายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือ "หมอลักษณ์ฟันธง" ซึ่งรับบทเป็นพิธีกรในรายการได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาท่านทำอะไรให้คนไทยมาก รวมทั้งความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พ.ต.ท.ทักษิณ จึงกล่าวว่า ขอบคุณอย่างสูง เพราะตนทุ่มเททำด้วยหัวใจ เรื่องใส่ร้ายป้ายสี เรื่องธรรมดาเป็นเรื่องเข้าใจ และพร้อมให้อภัยคนที่ใส่ร้ายป้ายสี แต่ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่ใจ ถ้าใจเราเป็นอย่างไรพฤติกรรมเราก็ปรากฎชัดเจน ทั้งนี้ การนั่งสมาธิทำให้จิตใจผ่องใสขึ้น

อยากกลับเป็นนายกฯใช้หนี้แผ่นดิน

นายลักษณ์ ถามนำอีกว่า ท่านมีดวงจิตจงรักภักดี และอยากทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ที่ผ่านมาท้อใจอยากเลิกการเมืองหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า บางครั้งก็มีอารมณ์ขึ้นลง แต่หลังจากได้นั่งสมาธิอาการขึ้นลงก็น้อยมาก บางครั้งเคยท้อบ้าง และเจ็บบ้าง

"แต่พอนั่งสมาธิสบายๆ เราต้องอย่ายอมแพ้กับสิ่งที่ไม่ดี อย่ายอมแพ้กับสิ่งที่คนมาติฉินนินทาโดยที่ไม่จริง เพราะเรามีความตั้งใจดี กระทำดี ผมคิดว่าในที่สุดกรรมบุญจะตอบสนองเรา เราต้องใจเย็นๆ อดทนไป" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเป็นหนี้บุญคุณต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดง และคนที่ปรารถนาดีต่อตน เพราะมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้ผมกลับมารับใช้พี่น้อง เมื่อเป็นหนี้บุญคุณต้องหาทางตอบแทนบุญคุณ

"ผมคิดแต่ต้นแล้วว่าเป็นหนี้บุญคุณพระเจ้าอยู่หัว ผมได้พึ่งพระบรมโพธิสมภารในฐานะพสกนิกรคนไทย ทำมาหากินในไทยจนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ถึงเวลาที่ต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน และถวายความจงรักภักดีด้วยเพื่อช่วยเหลือพี่น้องคนไทยด้วย เพราะเราเคยผ่านพ้นความทุกข์ยากมาแล้ว จึงอยากช่วยเหลือพี่น้องคนไทย หากผมได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง วันแรกก็คงต้องจุดธูปให้คนไทยพ้นจากความทุกข์ยาก เหมือนฝนตกมาแล้วไม่ท้อ หากมีขันรองน้ำฝนก็ได้น้ำกิน เมื่อได้กลับมาก็จะทำหน้าที่ตรงนี้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

กร้าวยิ่งถูกรังแกก็ยิ่งสู้

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ยิ่งถูกรังแกยิ่งสู้ หากเราไม่สู้ให้ความจริง และความยุติธรรมปรากฎ ตนถูกรังแกได้ คนไทยก็ถูกรังแกได้ ความจริงหนีความจริงไม่พ้น แม้วันนี้คนก่อความชั่วร้ายบ้านเมืองก็คงอยู่ได้สักพักหนึ่ง ดังนั้น ความจริงต้องต่อสู้ต่อไป ขอพี่น้องอย่ายอมแพ้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่ง นายลักษณ์ เสนอว่า การเมืองไม่ควรจะไปกล่าวร้ายกัน และเลิกใส่เสื้อสีต่างๆ ได้แล้ว เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กล่าวเสริมว่า เห็นด้วย

ต่อมา พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค14 เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ได้สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า "อาตมาได้ดูท่านนายกฯเวลาออกรายการทุกวัน ดูทีวีเสื้อแดงทุกวันรายการเสียงประชาชน เมื่อเช้าญาติโยมมาที่วัดใส่เสื้อแดงมา ตำรวจก็มามากมาย ไม่รู้ตำรวจมาสงสัยอะไรกัน อาตมาได้ยินคนพูดกันมาว่าวัดนี้เข้าข้างเสื้อแดง ทำไมไม่เข้าข้างเสื้อเหลืองบ้าง ความจริงแล้วอาตมามีทั้งสองสี เพราะจีวรสีเหลือง แต่หัวใจสีแดง"

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตั้งใจจะนำศาสนาพุทธให้เป็นศาสนาประจำชาติ และขณะนี้ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเผยแพร่พระศาสนาด้วย ทั้งนี้ประเทศไทยมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และไม่ได้กีดกันศาสนาอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามศาสนาพุทธก็คือศาสนาหลักประจำชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำผู้ร่วมงานทั้งหมดจุดเทียนชัย โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ได้จุดเทียนชัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้นได้นำร้องเพลงสดุดีมหาราชาเพื่อถวายเป็นเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน พร้อมกับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเมื่อร้องจบได้กล่าว "ไชโย" 3 ครั้ง และกล่าวว่า "ทรงพระเจริญ"

"หมอลักษณ์"ฟันธงหลัง 26 เม.ย.ดวงแม้วเปิด

นายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือ "หมอลักษณ์ฟันธง" ยังกล่าวทำนายดวง พ.ต.ท.ทักษิณ ภายในงานว่า ดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ก้าวหน้า แต่เป็นดวงชะตาที่แปลก เป็นเกณฑ์ที่ตายแล้วเกิดใหม่หลายครั้ง ช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องระวัง เพราะจะทำให้จิตแตกหากไม่ปฏิบัติธรรมให้ดี อาจกลายเป็นคนเบลอได้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณจะแข็งแกร่งขึ้น แต่จากนี้อีก 2 ปี อาจมีเคราะห์ถูกปองร้าย และช่วงวันที่ 14 ธันวาคม 2552-25 เมษายน 2553 จะมีดาวพฤหัสบดีโคจรเป็นอริกับดวงชะตา จึงต้องระวัง

"ดวงชะตาของพ.ต.ท.ทักษิณจะเปิด และพลิกฟื้นหลังวันที่ 26 เมษายนนี้ แน่นอน ฟันธง หากไม่ถูกขอให้ผมฉิบหายวายวอด และ ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2553 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของบ้านเมือง" นายลักษณ์ กล่าว
4 แดงแฝงตัวประชุมหอการค้าเชียงใหม่

ส่วนบรรยากาศการประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากนายอภิสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางมาเป็นประธานก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาประท้วงหน้าสถานที่ประชุม คือ โรงแรมเลอเมอริเดียน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย มีตำรวจในเครื่องแบบปกติเฝ้าดูแลทั้งด้านหน้า และรอบโรงแรมประมาณ 30 นาย โดยไม่มีการนำแผงเหล็กหรือเครื่องกีดขวางมาใช้ในบริเวณโรงแรม

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่าที่ล็อบบี้โรงแรมเลอเมอริเดียน มีกลุ่มเสื้อแดง 4 คน แฝงตัวเข้ามาเป็นแขกของโรงแรมเพื่อสังเกตการณ์รายงานแกนนำว่า มีรัฐมนตรีคนใดในกลุ่มเป้าหมายที่จะแอบเดินทางเข้ามาบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดการเดิมในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ นางพรทิวา นาคาศัย จะเดินทางมาปาฐกถาพิเศษด้วย แต่รัฐมนตรีทั้งสองได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางมา และมอบหมายให้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ มากล่าวปาฐกถาแทน

แดงเดินขบวน-"เสธ.แดง-สุนัย" ปราศรัย

ขณะที่คนเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้รวมตัวกันหน้าโรงแรมแกรนด์ วโรรส พาเลซ โดยประกาศผ่านสถานีวิทยุชุมชนเชิญชวนร่วมบริจาคเงินเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ล่วงลับ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงติดตามข่าวสาร และประกาศว่าหากนายกรัฐมนตรี หรือนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เดินทางมา จ.เชียงใหม่ ก็พร้อมระดมพลขับไล่ในทุกสถานที่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ากลุ่มคนเสื้อแดงอีกกลุ่ม คือ เครือข่ายเสื้อแดงกลุ่มแดงเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายพีรพล มรกต รองเลขาธิการศูนย์ประสานงานกลางแดงเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย รวมตัวกันที่หน้าโรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเดินขบวนแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลจากสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ไปสิ้นสุดที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

ทั้งนี้การเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่ประชุมแต่อย่างใด โดยมีป้ายผ้าข้อความโจมตีนายกฯ พร้อมให้ผู้ร่วมขบวนหลายร้อยคนสวมหน้ากากเป็นรูปหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย

ขณะที่กิจกรรมช่วงค่ำของกลุ่มเสื้อแดงยังมี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย มาขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล

"เสธ.แดง" ขู่ประชาชนจะทำสงครามกับทหาร

ก่อนหน้านั้น พล.ต.ขัตติยะให้สัมภาษณ์ในรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 กรณีที่ตำรวจพบระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก ที่ จ.เชียงใหม่ ในบ้านของการ์ดเสื้อแดงว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นเพียงลูกระเบิดเม็ดเล็กๆ ใช้สำหรับงานทำบุญบั้งไฟ และงานลอยกระทง ซึ่งนายณรงค์ไม่ได้เป็นม็อบแดง แต่เป็นคนรับจำนำปืนตำรวจ เมื่อตำรวจไม่มีเงินไปไถ่คืนจึงไปจับเพื่อเอาปืนคืน

"เป็นเรื่องที่พยายามผูกเรื่องใส่ม็อบแดงว่า กลุ่มนี้ทำร้ายรัฐบาล เพื่อเอาใจรัฐบาล นอกจากนี้ ยังออกหมายจับ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ถึง 5 ครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถูกยกคำร้องหมด" พล.ต.ขัตติยะกล่าว

พล.ต.ขัตติยะยังกล่าวอีกว่า "ผมเป็นห่วงทหาร เพราะต่อไปประชาชนจะรบกับทหาร เราเป็นห่วงประเทศชาติ ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนนี้ประชาชนไม่ยอมจริงๆ และต่อไปจะเป็นการล้มล้างฆ่ากันต่อสู้กันไม่จบ"

ส่วนกรณีนายกฯ ยกเลิกการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่า ที่นายกฯ ถอยถูกแล้ว ไม่มีประเทศไหนในโลกที่นายกฯ ออกไปต่างจังหวัดไม่ได้ ระบบศาลต้องยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาโดยปราศจากเงื่อนไข ยกเลิกโทษจำคุก 2 ปี และล้างไพ่จับมือกันเลือกตั้งใหม่ไม่อย่างนั้นไม่จบ ต่อไปทหารกับกองทัพประชาชนรบกัน ความบ้าคลั่งของประชาชนขณะนี้สูงมาก และยึดถือ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้นำ

"จตุพร" เชื่อระเบิดปิงปองกลบม็อบ กทม.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงการจับกุมการ์ดคนเสื้อแดง พร้อมอาวุธปืนและระเบิดที่ จ.เชียงใหม่ ว่า การจับกุมมีเบื้องหลัง คือ รัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์กลบกระแสการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ กทม. ที่นัดชุมนุมไว้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน แต่เมื่อคนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไปทำให้รัฐบาลต้องสร้างความชอบธรรมให้แก่ตัวเอง ด้วยการจับกุมนายณรงค์แล้วบอกว่ามีระเบิดปิงปอง ซึ่งความจริงนายณรงค์เปิดร้านขายพลุ มีใบอนุญาตชัดเจน คนเขาเรียกว่าหางหนูที่ชาวบ้านเอาไว้จุดไล่นกในนา

แดงเชียงรายลอยแพ "เพชรวรรต"

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ซึ่งเดิมจะนำมวลชนเข้าร่วมสมทบกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ของ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ โดยเข้าร่วมในพิธีทอดผ้าป่าคนเสื้อแดงที่สถานีวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดงที่บริเวณสำนักงานของ น.ส.อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย และมีกำหนดเข้าร่วมคอนเสิร์ตคนเสื้อแดงที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แทน

ผู้การฯ เชียงใหม่ชี้สถานการณ์ปกติแล้ว

พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การประชุมหอการค้าทั่วประเทศในวันที่สองว่า ตำรวจขอประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรหรือไม่ แต่พร้อมรับทุกสถานการณ์ ซึ่งจากการข่าวแล้วทราบว่ากลุ่ม นปช.กรุงเทพฯ เดินทางกลับหมดแล้ว ซึ่งจากการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ขณะนี้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ส่วนการจับกุมระเบิดปิงปอง 6,000 ลูกที่ล้านของการ์ดเสื้อแดงนั้น พล.ต.ต.สมหมาย ระบุว่า ตรวจสอบแล้วมีประสิทธิภาพร้ายแรงจริง เพราะล่าสุด สามเณรที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ก็เพิ่งมือขาดไป เพราะถูกวัตถุระเบิดดังกล่าวในช่วงลอยกระทง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทางหลวงแผ่นดินที่จะเข้าสู่ จ.เชียงใหม่ ตำรวจยังมีการตั้งด่านเป็นระยะ ทั้งพื้นที่ชั้นใน และพื้นที่ชั้นนอก โดยในพื้นที่ชั้นนอกมีการตั้งด่านที่จุดตรวจบ้านจำตาเหิน อ.แม่ทา จุดตรวจเหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน และจุดตรวจป่าแดด อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบกลุ่มคนเสื้อแดงจาก จ.ลำปาง ลำพูน และจังหวัดอื่นๆ ที่อาจจะมาร่วมสมทบกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51

พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า บรรยากาศการสัมมนาเป็นไปด้วยดี ส่วนการตั้งจุดตรวจหลายจุด โดยเฉพาะถนนเชียงใหม่-ลำปาง ใน จ.ลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งจุดตรวจทั้งหมดจะมีไปจนกว่าการสัมมนาจะเสร็จสิ้น จากนั้นตำรวจจะระดมกวาดล้างอาชญากรรมต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นตรวจอาวุธและวัตถุอันตรายผิดกฎหมายเป็นหลัก

ผู้ว่าฯเชื่อนายกฯ ไม่มา-ไม่กระทบธุรกิจ

นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี งดเดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ ว่า เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการได้เสียประโยชน์ต่อภาคธุรกิจเอกชนทั้งของ จ.เชียงใหม่ และทั้งประเทศ รวมถึงไม่กระทบต่อจิตวิทยาทางสังคมด้วย ตรงกันข้ามเป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะที่เข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีที่ได้รับฟังคำท้วงติงของทุกฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ และทำให้เชียงใหม่ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจดีขึ้นมากแล้ว ทั้งยอดจองเที่ยวบิน ยอดจองโรงแรม ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะดีขึ้นไปอีก

"นิพิฏฐ์" จี้ พฐ.ตรวจระเบิดปิงปองแดง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตรวจยึดระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก ที่ยึดได้จากบ้านการ์ดเสื้อแดงว่า การจะพิสูจน์ว่าเป็นพลุหรือระเบิดปิงปองอยู่ที่ข้อเท็จจริงที่ตำรวจจะต้องพิสูจน์ หากเป็นระเบิดจริงก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ หรือ "เสธ.แดง" ออกมาการันตีว่าไม่ใช่ระเบิดปิงปอง นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า แล้วแต่ว่าใครจะอ้างให้เป็นประโยชน์กับใคร แต่ตนคิดว่าอย่าให้คนนอกมาอธิบายเลย ตามกฎหมายปืนที่ยังยิงได้กับยิงไม่ได้ก็ถือเป็นอาวุธชนิดเดียวกัน และเวลามีการตรวจจับ ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเป็นฝ่ายพิสูจน์ เท่าที่ทราบของกลางก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ติง ตร.ถอดยศ "ทักษิณ" ล่าช้า

กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวนหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เพื่อคัดค้านการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ข้อกฎหมาย เชื่อว่าคงไม่มีใครไปกลั่นแกล้ง และคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถึงที่สุดแล้ว อยู่ในเงื่อนไขที่จะถอดถอนได้

"ผมไม่กังวลเรื่องกลั่นแกล้ง แต่กังวลว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าควรจะถอดยศคุณทักษิณนานแล้วต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

เขมรส่งหนังสือยกเลิกกู้เงิน 1.4 พันล.

นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือยกเลิกข้อตกลงขอกู้เงินจากรัฐบาลไทยมูลค่า 1,400 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างทางหลวงที่มีเส้นทางจากพรมแดนไทย-กัมพูชาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายธานีปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่า กรณีดังกล่าวจะเป็นผลจากการลดระดับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา หรือเป็นสัญญาณทางการทูตใดๆ หรือไม่ และปกติการยกเลิกข้อตกลงการขอเงินกู้เงินระหว่างรัฐต่อรัฐก็สามารถทำได้

นายกฯชี้เกิดจากความไม่เข้าใจกัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จริงๆ คือขณะนี้มีการประสานกันอยู่ แต่ฝ่ายกัมพูชาไปเข้าใจว่าเราจะยกเลิกการให้กู้เงินจึงทำหนังสือมาที่จะขอหยุด แต่จริงๆ แล้ว ครม.ยังไม่ได้มีมติเรื่องเงินกู้เลย ซึ่งถ้าเข้าใจตรงกันทุกอย่างคงจะคลี่คลาย

เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาที่กำลังลุกลามไปเรื่อยๆ อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีการพูดคุยกันตลอด

"มันมีความสับสนอยู่ คือ ด้านหนึ่งเขาต้องการให้เรายืนยันเรื่องเงินกู้ แต่อีกด้านหนึ่งคงกังวลว่าถ้าเราบอกว่าเราไม่ให้ เขาก็เลยอยากจะเป็นฝ่ายที่บอกเลิก แต่หากมีการประสานงานกันเข้าใจกันก็คงไม่มีปัญหาอะไร ผมคิดว่าปัญหาจะคลี่คลายไปได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับกรณี พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า การจับกุม นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส หรือ แคทส์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กรณีนายศิวรักษ์ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ เพราะตอนนี้กำลังจะขึ้นศาล และมารดานายศิวรักษ์ก็ได้ไปเยี่ยมแล้ว

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรเพื่อช่วยให้แม่นายศิวรักษ์ได้ไปฟังการพิจารณาคดีในศาลกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ปกติการพิจารณาคดีก็น่าจะเปิดเผย ที่ผ่านมาทนายความชาวไทยก็ประสานงานกับทนายความกัมพูชาตลอด

ปชป.เชื่อเขมรเลิกกู้เงินไม่ใช่ปัญหา

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาประกาศยกเลิกการรับเงินกู้สร้างถนนจำนวน 1.4 พันล้านว่า วันนี้สถานการณ์ของทั้งสองประเทศคลี่คลาย หลังจากกัมพูชาเปิดให้มารดาของนายศิวรักษ์เข้าเยี่ยม และจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนของทั้งสองประเทศก็มีบรรยากาศดี พรรคถือว่าเป็นกรณีที่มีความร้ายแรงน้อยกว่าการจับกุมคนไทยคือนายศิวรักษ์ การปฏิเสธรับเงินกู้แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การเงินของประเทศดีขึ้นจึงไม่จำเป็นต้องกู้เงินจากไทย และเป็นมาตรการทางการทูตที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้ว
ประณาม พท.เปิดตัว จปร.9 ด่าป๋า

นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยแถลงเปิดตัวสมาชิกพรรคที่เป็นนายทหาร จปร. 9 จำนวน 6 นาย ซึ่งพูดจาจาบจ้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างรุนแรงว่า พรรคถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการประกาศจุดยืนชัดเจน อย่างไรก็ดี ถ้อยคำที่มีการแถลงข่าวนั้นได้มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายอย่างยิ่ง โดยพาดพิงบุพการีของประธานองคมนตรี ถึงขนาดสื่อไม่สามารถเผยแพร่ข้อความได้ ถือเป็นการสร้างภาวะถดถอยทางการเมือง ใช้เวทีพรรคปลุกระดมสร้างความเกลียดชังรุนแรง

"บรรณวิทย์" ร้อง "ลูกป๋า" ออกมาปกป้อง

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี จปร.9 กล่าวโจมตี พล.อ.เปรมอย่างรุนแรงว่า วันนี้ พล.อ.เปรม เป็นหลักของแผ่นดิน และเป็นสัญญาณแห่งความดี แห่งความซื่อสัตย์ ดังนั้นการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะต่อสู้ก็แน่นอนเป้าหมายอยู่ที่ พล.อ.เปรม หาก พ.ต.ท.ทักษิณยังแค่ตัดแต่แขน หรือขา และปล่อยให้หัวยังอยู่ มันก็จะไม่สิ้นสุด ดังนั้น ช่วงนี้ พล.อ.เปรมจะโดนหนักมาก แต่เชื่อว่า พล.อ.เปรมยังไหวและรับมือได้ เพราะท่านมีประสบการณ์สูง เป็นนายกรัฐมนตรีมาถึง 8 ปี และความซื่อสัตย์ก็สุดยอด

"ผมอยากฝากไปถึงลูกป๋าทั้งหลายที่อยู่กับป๋ามานาน ไม่ใช่นิ่งอย่างเดียว ลูกป๋าทั้งหลายพึ่งใบบุญป๋ามานาน ให้ทำงานบ้าง ตอนนี้ป๋าโดนหนักมากต้องช่วยกันปกป้องในคุณงามความดีของป๋า ไม่ใช่ปล่อยให้ผมเล่นคนเดียวจนจะโดนกระทืบอยู่แล้ว" พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว

คนสนิทบอกป๋าอดทน-ไม่โต้ตอบ

ขณะที่แหล่งข่าวคนสนิทของ พล.อ.เปรม กล่าวถึงกรณี จปร.9 กล่าวโจมตี พล.อ.เปรมอย่างรุนแรงว่า พล.อ.เปรมรับทราบปัญหาต่างๆ ดี รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยตลอด และมีการกล่าวโจมตีด้วยถ้อยคำที่เสียหายตลอดเวลา แต่ตนชื่นชม พล.อ.เปรม เพราะท่านพยายามนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ แม้ว่าคำด่าบางคำจะโจมตีไปถึงบุพการีก็ตาม พล.อ.เปรมก็บอกว่าให้อดทน อดกลั้น อย่าได้โต้ตอบ เพราะหากมัวแต่โต้ตอบกันไปมา บ้านเมืองก็จะไม่จบ อาจจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้บ้านเมืองวุ่นวายไปอีก

แดง กทม.ไล่ "วัชระ" เหยียดหยามสมัคร

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มไผ่แดง 52 และกลุ่มเสื้อแดงหนองแขม ประมาณ 30 คน เดินทางมาขับไล่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวปราศรัยโจมตีกรณีที่นายวัชระตีพิมพ์หนังสือชื่อ "สมัคร จาบจ้วง ป๋าเปรม ถึงนอมินีทักษิณ" ซึ่งมีข้อความเหยียดหยาม นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว และเรียกร้องให้เก็บหนังสือเล่มนี้กลับ พร้อมลงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับขอขมานายสมัครและครอบครัว และไปขอขมาต่อหน้าศพ หากไม่ดำเนินการภายใน 1 สัปดาห์ จะมาเรียกร้องอีกครั้ง

แดงชัยภูมิไล่ "บุญจง" ขณะแจกผ้าห่ม

วันเดียวกัน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ยังโรงเรียนนายางกลัก ต.นางยางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ พร้อมมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 1,500 ผืน แก่ประชาชนที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ดังกล่าว แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงราว 50 คน ยืนถือป้ายโจมตีนายบุญจง และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางการดูแลของตำรวจ แต่ไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook