จ่อหมายเรียก6นายตำรวจเอี่ยวทุจริตซื้อจยย.

พงศ์พัฒน์ ยันกองปราบฯ มีหลักฐานเด็ดมัดนายพลเอี่ยวทุจริตซื้อ จยย.สายตรวจ ลั่นสัปดาห์นี้ออกหมายเรียก 6 นายตำรวจยศ พล.ต.อ.-พ.ต.อ. ลั่นไม่มีปาหี่ เชื่อปิดคดีชาวบ้านประทับใจ

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รรท.รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมจะดำเนินการต่อไป แม้จะมีการพาดพิงถึงข้าราชการระดับสูงก็ตาม เพราะคดีนี้มีข้อมูลเชิงลึกที่ถือเป็นข้อมูลเด็ด อันจะนำไปสู่การปราบปรามขบวนการทุจริตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานรัฐหลายแห่ง เชื่อว่าเมื่อคดีนี้ถึงที่สุดจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ จะทำให้ประชาชนประทับใจในผลงานอย่างแน่นอน

พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวอีกว่า หลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดขณะนี้สามารถเรียกตัวผู้กระทำความผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีได้แล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมารับทราบข้อกล่าวหาได้ ซึ่งมีทั้งข้าราชการและบริษัทเอกชน เบื้องต้นประกอบด้วย นายตำรวจระดับสูงหลายนายที่ยังรับราชการ ในจำนวนนี้มีนายตำรวจที่มียศสูงถึง "พล.ต.ท." และอาจจะมีนายตำรวจที่ยศสูงกว่านี้ถูกดำเนินคดี ขึ้นอยู่กับหลักฐาน และคำให้การของพยาน หากพาดพิงจะต้องเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในสัปดาห์นี้ บก.ป.ได้ทยอยเรียกตัวผู้ที่ถูกเข้าตรวจค้นบ้านพักและบริษัทต่างๆ มาดูการเปิดกล่องเอกสารที่ยึดมาตรวจสอบจากการเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เริ่มจากบริษัทอีซูซุ สยามซิตี้ จำกัด ซึ่งได้ประสานเชิญผู้บริหารให้มาพบในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ รวมทั้งทำหนังสือประสานไปยังกองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมบัญชีกลาง ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถจักรยานยนต์สายตรวจทั้งหมด

มีรายงานด้วยว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. สั่งให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ทำหนังสือประสานไปยังกองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการประมูลและจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ที่ต้องสงสัยในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบในสำนวนการสอบสวนด้วย โดยกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวกับการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องการรายละเอียดของโครงการดังกล่าวทั้งหมด ตั้งแต่ร่างเงื่อนไขรายละเอียดสัญญา หรือทีโออาร์ ว่ามีใครเป็นคณะกรรมการร่าง ประธานผู้พิจารณาเป็นใครไปจนถึงขั้นตอนการตรวจรับว่าใครมีส่วนร่วมบ้าง โดยเน้นไปที่บอร์ดใหญ่ที่จะโยงไปยังสำนักงบประมาณ เนื่องจากมีรายงานว่าโครงการดังกล่าวนั้น ในครั้งแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอโครงการไปยังสำนักงบประมาณ ขณะนั้นยังมีมูลค่าโครงการอยู่แค่หลักร้อยล้านบาท แต่ปรากฏว่ากลับไม่ได้รับการอนุมัติ กระทั่งมีการนำกลับมาพิจารณาใหม่ ก่อนยื่นโครงการไปอีกครั้ง ซึ่งมูลค่าโครงการเพิ่มเป็นหลักพันล้านบาท แต่กลับได้รับการอนุมัติ ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีอะไรที่ผิดปกติ และอาจมีนายตำรวจเกี่ยวข้อง 6 นาย ได้แก่ พล.ต.อ. 1 นาย พล.ต.ท. 1 นาย พล.ต.ต.1 นาย และ พ.ต.อ. 3 นาย