ผลบอล ซลาตันซัดชัยพาบาร์ซ่าทุบมาดริด 1-0
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงวอลเลย์นำ บาร์เซโลนา เฉือน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด 1-0 ส่ง "บาร์ซ่า" ขึ้นเป็นจ่าฝูงลาลีกาอีกครั้ง ส่วน มานูเอล เปลเยกรินี โยนบาปให้ลูกทีม อ้างไม่ได้ทำอะไรผิด เด็กยิงประตูไม่ได้เอง
ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
บาร์เซโลน่า 1 - เรอัล มาดริด 0
ศึกฟุตบอลสแปนิช ลาลีกา กลางดึกวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คู่เอกประจำสัปดาห์ บาร์เซโลนา แชมป์เก่า ลงดวล เรอัล มาดริด รองแชมป์เก่า ในถิ่นคัมป์ นู ของตัวเอง เกมนี้เจ้าถิ่น ขนชุดใหญ่ลงบู๊ นำโดย เมสซี่ และ อิบราฮิโมวิช ด้านทีมเยือนได้รับช่าวดี เมื่อ โรนัลโด้ ฟิตลงสนามได้ทัน
เปิดฉากครึ่งแรก เจ้าถิ่น ดูเหนือกว่าเล็กน้อย และเป็น เมสซี่ เลี้ยงบอลแหวกกองหลังทีมเยือนจนถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลต่อให้ อองรี หลุดเข้าไปซัดมุมแคบถูก คาซิยาส ล้มตัวรับไว้ได้
นาทีที่ 10 บาร์ซ่า มาได้ลบุ้นอีกครั้ง เมื่อ อิเนียสตา ลองสับไกจากนอกเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล
นาทีที่ 19 มาดริด ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ กาก้า ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเลี้ยงจี้กองหลังเข้ามาในเขตโทษ จากนั้นไหลบอลต่อให้ โรนัลโด้ จัดการซัดโล่งๆ แต่ บัลเดซ นายทวารเจ้าถิ่น ออกมาเร็วใช้ขาบล็อกออกหลังไป
นาทีที่ 24 มาดริด ยังได้บุกอีก กาก้า จ่ายบอลให้ มาร์เซโล่ ที่คืมเกมบุกขึ้นมา หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ถูก ปูโยล ตามมาบล็อกออกไปแบบหวุดหวิด
บาร์ซ่า มาได้ลุ้นอีก ในนาทีที่ 36 เมื่อ อองรี หลุดขึ้นมาถึงเส้นหลังพยายามเปิดเข้ากลาง แต่ถูก คาซิยาส ปัดทิ้งออกไป
ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น มาได้ลุ้นอีก เมื่อ ชาบี แทงบอลทะลุแผงหลังให้ อิเนียสต้า หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านจนบอลเกือบถึง เมสซี่ แต่ คาซิยาส ยังออกมาตัดบอลได้
จบครึ่งแรก ทั้งคู่ยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง เจ้าบ้าน ปรับแท็คติกให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกทีมชาติสวีเดน ลงมาเล่นเป็นหัวหอกตัวเป้าแทน เธียร์รี่ อองรี
นาทีที่ 52 มาดริด เกือบขึ้นนำ จากจังหวะโต้กลับเร็ว อีกวาอิน ประสานงานกับ โรนัลโด้ จนหลุดเข้าไปในเขตโทษ โยกหลอก ปูโยล จนเสียหลักและได้สับไกยิง แต่จังหวะสุดท้ายยังถูกกัปตันทีมเจ้าบ้านตามกลับมาบล็อกออกไปอีก
นาทีที่ 56 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮดังลั่น เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดาเนี่ยล อัลเวส วางข้ามจากขวามาให้กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลุดมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 63 เจ้าบ้านเหลือนักเตะแค่ 10 คน เมื่อ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ใช้มือขวางไว้ ผู้ตัดสินชูใบเหลืองที่สองให้กับ บุสเก็ตส์ กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป
นาทีที่ 71 เรอัล ที่ตัวผู้เล่นเยอะกว่าเดินหน้าบดทันที คาริม เบนเซม่า หัวหอกสำรองเจ้าบ้านหลุดไปยิงไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 81 มาดริด น่าจะตีเสมอได้ เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ เปิดมุมให้กับ ราอูล โหม่งเช็ดมาทาง เบนเซม่า ยิงโดนไม่เต็มหลุดกรอบไป
นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน มาดริด มาเหลือ 10 คนเท่ากันเมื่อ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า มาโดนเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง
หมดเวลาการแข่งขัน บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 1-0 ส่งผลให้ บาร์เซโลนา เป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ทีมใดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลแข่งขัน 2009-2010 โดยเฉพาะ 6 เกมเหย้า ชนะรวด และแข่ง 12 นัด มี 30 แต้ม แซงหน้า มาดริด ที่ต้องแพ้เป็นเกมที่ 2 ของซีซั่น ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงแทนที่ เพราะจากเดิมตามหลัง 2 แต้ม กลายมาเป็นขึ้นนำหนึ่งแต้ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม), เคราร์ด ปิเก้, เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า - ลีโอเนล เมสซี่, เธียร์รี่ อองรี, อันเดรส อิเนียสต้า
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ราอูล อัลบิโอล, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ชาบี อลอนโซ่ - กาก้า, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - กอนซาโล่ อิกวาอีน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ส่วนคู่อื่น อัลเมเรีย แพ้ แอธเลติก บิลเบา 1-4, เกตาเฟ ชนะ เซเรซ 5-1, ราซิง ซานตานเดร์ แพ้ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา 0-1, รีล บายาโดลิด เสมอ เตเนริเฟ 3-3, รีล ซาราโกซา แพ้ โอซาซูนา 0-1, แอตเลติโก มาดริด ชนะ เอสปันญอล 4-0
(ภาพจาก Getty Images)
