สธ.พบวัยรุ่นหญิงป่วยเอดส์มากกว่าชาย 1 เท่าตัว เหตุเพราะใช้ถุงยางน้อย

สธ.พบวัยรุ่นหญิงป่วยเอดส์มากกว่าชาย 1 เท่าตัว เหตุเพราะใช้ถุงยางน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กระทรวงสาธารณสุข เผย วัยรุ่นหญิงป่วยเอดส์สูงกว่าชาย 1 เท่าตัว เหตุเพราะใช้ถุงยางน้อย ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมปี 51 นักเรียนชั้น ม.2 ทั้งชายและหญิง มีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น แต่เด็กหญิง ใช้ถุงยางลดลงจากร้อยละ 50 เหลือ 48 วันนี้ (30 พ.ย.52) ที่ศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแอริค จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ดร.ไมเคิล ฮาห์น ผู้ประสานงานโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงานรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องในวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับ 1 ธันวาคม 2552 ภายใต้คำขวัญ "ทั่วถึง เท่าเทียม คือสิทธิมนุษยชน (Universal Access and Human Right) เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้ตระหนักถึงภัยคุกคามโรคเอดส์ ส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์ นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหลักที่ทำให้คนไทยติดเชื้อเอชไอวี มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช้ถุงยางอนามัยพบมากถึงร้อยละ 84 ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2552 ไทยมีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 358,260 ราย เสียชีวิตแล้ว 95,983 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 92 อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และวัยแรงงาน อายุระหว่าง 15-59 ปี กลุ่มอายุ 25-29 ปีพบร้อยละ 24 เฉพาะในกลุ่มวันรุ่นอายุ 15-19 ปี พบเพศหญิงป่วยเป็นเอดส์สูงกว่าเพศชาย 1 เท่าตัว อัตราป่วยโรคเอดส์เมื่อเทียบต่อประชากรทุกแสนคนในปี 2552 ภาคกลางพบมากที่สุดที่จันทบุรี ประมาณ 31 คน ภาคเหนือพบสูงสุดที่พะเยา ประมาณ 29 คน ภาคใต้พบมากสุดที่ระนอง ประมาณ 30 คน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุดที่เลย ประมาณ 21 คน ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข เร่งประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ มีเป้าหมายแจกถุงยางอนามัยจำนวน 30 ล้านชิ้น เพื่อสนับสนุนให้สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศเป็นผู้แจกจ่าย เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มหญิงบริการ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย แม่บ้าน วัยรุ่น ผู้ใช้แรงงานและพนักงานบริการ โดยตั้งเป้าลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้ไม่เกินปีละ 5,876 รายภายในปี 2554 ทางด้านนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอช ไอ วี ของประชาชน โดยสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในปี 2551 พบว่าน่าห่วงโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนอายุ 14-18 ปี ผลการเฝ้าระวังพบเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ทั้งชายและหญิง มีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ในชายเพิ่มจากร้อยละ 3.2 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2551 ส่วนหญิงเพิ่มจากร้อยละ 1.9 เป็นร้อยละ 2.3 การใช้ถุงยางอนามัยครั้งแรกของนักเรียนชายเพิ่มจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 52 ส่วนนักเรียนหญิงแนวโน้มใช้ลดลงจากร้อยละ 50 เหลือร้อยละ 48 ในเด็ก ม.5 แน้วโน้มการเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง ชายเพิ่มจากร้อยละ 21 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 24 ส่วนผู้หญิงเพิ่มจากร้อยละ 13 เป็นร้อยละ 15 ในระดับอาชีวศึกษาปีที่ 2 พบการใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนที่รู้จักผิวเผินและใช้กับหญิงบริการทางเพศร้อยละ 57 ใช้กับชายด้วยกันร้อยละ 52 จึงมีโอกาสติดเชื้อเอช ไอ วี ได้สูงและหากติดเชื้อตั้งแต่วัยเยาวชน จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียแรงงานที่มีคุณภาพ และครอบครัวต้องเสียโอกาสในการทำงานหารายได้ให้ครอบครัว เนื่องจากต้องเสียเวลาดูแลผู้ป่วย สำหรับกิจกรรมในการรณรงค์ครั้งนี้ จะมีไปจนถึงเวลา 21.00 น. ประกอบด้วย การแสดงจากนักศึกษาการละคร การแสดงทอล์คโชว์หัวข้อป้องกันปลอดภัย รู้เสี่ยงเอดส์ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน ตู่ ภพธร แบล็ควนิลา และแชมป์ นิทรรศการโรคเอดส์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แอลกอฮอล์ ยาเสพติด บริการฟรีปรึกษาปัญหาสุขภาพ ตรวจกลุ่มเลือด และโรคซิฟิลิสจากผู้เชี่ยวชาญ เล่นเกมส์ตอบปัญหา ชิงรางวัล แจกสายวัดขนาดถุงยางอนามัย และแจกถุงยางอนามัยบรรจุแพ็คเก็จไม่จำกัดจำนวน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook