ขัดนายหน้าที่ดิน! ชนวนฆ่า สุนัทที

ขัดนายหน้าที่ดิน! ชนวนฆ่า สุนัทที

ขัดนายหน้าที่ดิน! ชนวนฆ่า สุนัทที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อปมสังหาร "เจ๊บิ๊ก-สุนัทที เนื่องจำนงค์" เจ้าแม่อสังหาฯ เศรษฐินีหลายพันล้าน จากกรณีค่านายหน้าซื้อ-ขายที่ดิน ที่มีจำนวนเงินมหาศาล ที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายหลายแห่ง "ภาณุพงศ์" เรียกประชุมชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับกองปราบฯ แบ่งงานกันสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย มั่นใจจับมือสังหารได้แน่ แต่ขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะ พร้อมแจกภาพสเกตช์คนร้าย ด้าน พล.ต.ต.ปิยะชาติ พร้อมลูก ๆ สุดเศร้า ทำใจไม่ได้ รุดรับศพ "สุนัทที" ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทร์ โดยแพทย์ระบุ กระสุนตัดขั้วหัวใจ พบหัวกระสุนฝังในร่าง 2 นัด

จากกรณีคนร้ายดักกระหน่ำยิงสังหารโหด นางสุนัทที หรือบิ๊ก เนื่องจำนงค์ อายุ 51 ปี ไฮโซเจ้าแม่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประธานกรรมการ ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป สร้างคฤหาสน์หรู ราคาหลายสิบล้านบาทขายไฮโซ เป็นภริยาของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ ลูกชายคหบดีชาว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ถูกจ่อยิง 3 นัด ขณะเจ๊บิ๊กขับรถเก๋งบีเอ็มดับ บลิว ซีรีส์ 7 ออกจากซอยโครงการไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า ย่านถนนสุขาภิบาล 2 แขวง-เขตประเวศ กระสุนเจาะเข้าหน้าอกขวาทะลุด้านซ้าย เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจาก เรื่อง ธุรกิจที่ทำนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ทางครอบครัวและญาติผู้ใกล้ชิดกับ นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ผู้ตาย ได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาอัญเชิญวิญญาณ ที่บริเวณศาลพระพรหมหน้าหมู่บ้านไพร์ม เนเจอร์วิลล่า โดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวบันทึก ภาพทำข่าว นอกจากนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ กก. สส.บก.น.4 ลงไปตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ ห่างจากปากซอยที่เกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งชุดสืบสวนพบว่ามีการผูกเปลนอนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุที่คนร้ายลงมือมากนัก โดยบริเวณดังกล่าวยังพบ นสพ. ฉบับหนึ่งตกอยู่ที่พื้นด้วย รวมทั้งก้นกรองบุหรี่สายฝนตกอยู่จำนวนมาก และเมื่อสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงในละแวกดังกล่าวได้ทราบข้อมูลว่าเคยเห็นชาย 2 คนมาซุ่มผูกเปลนอนอยู่บริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่หลังเกิดเหตุชายทั้ง 2 คนดังกล่าวก็หายหน้าไป ทั้งนี้ทางฝ่ายสืบสวนได้เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 ได้เดินทางมาที่ สน.อุดมสุข เพื่อรวบรวมสำนวนข้อมูลต่าง ๆ เข้าประชุมที่ บช.น. ก่อนจะกล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุและจะนำพยานที่เห็นเหตุการณ์คนดังกล่าวไปสเกตช์ภาพคนร้ายที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้นจะมาดูความชัดเจนของภาพสเกตช์ของคนร้ายว่าจะสามารถออก หมายจับตามภาพสเกตช์ได้หรือไม่ ส่วนคนร้ายคาดว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะกระสุนทั้ง 3 นัด ถูกยิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำหมด และน่าจะเตรียมตัววางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว โดยเมื่อช่วงเช้า พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีต รอง ผบช.น. สามีของผู้ตายก็ให้ปากคำกับทางพนักงาน สอบสวนไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้การอะไรมากนัก ส่วนประเด็นปมสังหารยังไม่ได้มุ่งปมไหนเป็นหลัก แต่คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจที่ผู้ตายดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ตายยังมีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจกว่า 30 คดีอีกด้วย

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ พร้อมด้วยลูกชายและลูกสาวเดินทางมารับศพ นางสุนัทที โดย พล.ต.ต.ปิยะชาติ ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ เก็บตัวอยู่ภายในห้องประกอบพิธีศพ ไม่ต้องการพูดคุยกับผู้สื่อข่าว โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 4 วัดเทพศิรินทร์ฯ

ขณะที่ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก สตช. กล่าวว่า แพทย์ได้เปิดเผย ผลการชันสูตรศพของนางสุนัทที พบหัวกระสุนที่เป็นหลักฐานสำคัญในศพ 2 หัว สภาพสมบูรณ์ฝังอยู่ที่ไหปลาร้าด้านซ้าย และที่ตรงหน้าอก มีสภาพสมบูรณ์จึงมอบ ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยคนร้ายจ่อยิงในระยะกระชั้นชิดทางด้านขวาของผู้ตายทั้งหมด โดยกระสุน พุ่งทะลุกระจกเข้ามาถูกผู้ตายทั้ง 3 นัด

โฆษก สตช.ยังกล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.อ. ปทีป ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ซึ่งดูแลการทำงานของ บช.น. ให้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิดและให้พนักงานสอบสวนรายงานให้ทราบเป็นระยะ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้กำชับให้จับคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นการก่อเหตุที่สะเทือนขวัญ และพฤติ กรรมของคนร้ายมีลักษณะเป็นมือปืนรับจ้าง และผู้ตายเป็นสตรี จากที่ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ สามีของผู้ตายยังยืน ยันสาเหตุเดิม คือเรื่องธุรกิจ ซึ่ง พล.ต.ต. ปิยะชาติ ก็ให้การกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่จะมีสาเหตุใดเพิ่มเติมอีกก็คงให้พนักงานสอบสวนทำงานก่อน การเปิดเผยอะไรตอนนี้อาจส่งผลเสียต่อรูปคดีได้

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. เป็นประธาน ประชุมติดตามความคืบหน้ากับการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายยิง นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และคณะทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนทั้งในส่วนของ บช.น. และ บช.ก. เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงพร้อม รายงานผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน การสืบสวนติดตามตัวคนร้าย และชี้แจงประเด็นขัดแย้งที่นำไปสู่การสังหารโหดดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยต่างนำเอกสาร พยานหลักฐานที่ได้เข้ารายงานกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมภาพสเกตช์ ภาพ กราฟิกจุดที่คนร้ายซุ่มยิง การวิเคราะห์ระยะห่างวิถีกระสุนและหลักฐานสำคัญอื่น ๆ ที่รวบรวมได้จากการลงพื้นที่ของทีมสืบสวนแต่ละหน่วยที่ได้รับมอบหมายในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาชี้แจงในที่ประชุม รวมถึงคำให้การของสามี บุคคลในครอบครัว ทนายความส่วนตัวของผู้ตาย และพนักงานในเครือบริษัท ที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนำไปสู่การสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป ท่ามกลางบรรยากาศการประชุมที่ดำเนินไปด้วยความเคร่งเครียด โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากเฝ้ารอเพื่อรายงานข่าว

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ปทีป เป็นห่วงได้สั่งการให้ตนประสาน บช.ก. และ บช.น. ในการติดตามคนร้าย เท่าที่ประชุมวันนี้เป็น การสรุปพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดย ได้ประชุมและแบ่งงานกันทำเชื่อว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ ขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะหนึ่ง ในส่วนของที่เกิดเหตุได้ภาพสเกตช์และหลักฐานอาวุธปืน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นขนาด .38 โดยในส่วนของสาเหตุก็เริ่มชัดเจนขึ้น และตัดส่วนที่ไม่ เกี่ยวข้องออกไป เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้

เมื่อถามว่าสาเหตุสำคัญในการสังหารคือเรื่องอะไร พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวก็จับกุมได้ โดยมุ่งประเด็นไปที่ธุรกิจ ที่ทำ เชื่อมั่นว่าจะจับกุมคนร้ายได้ และจะทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง ทางด้าน พล.ต.ท. สัณฐาน กล่าวว่า เราคงไม่ใช้ซินแสหรือหมอดูว่าจะจับได้เมื่อใด พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ก็เร่งรัดเต็มที่ กำลังตรวจสอบพยานหลักฐาน ส่วนซุ้มมือปืนต่าง ๆ กำลังตรวจสอบอยู่

จากนั้น พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เผย แพร่ภาพสเกตช์คนร้ายทั้งสองคน ซึ่งมีลักษณะสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าส่วนอื่น เหลือเพียงตาและสันจมูกเท่านั้น

ทางด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. กล่าวว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบ ปราม เข้าร่วมสืบสวนคลี่คลายคดี ร่วมกับ บช.น. จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ป. จัดชุดสืบสวน เร่งสำรวจประวัติอาชญากรรมคดีฆ่า พยายามฆ่า คดีครอบครองอาวุธปืนของกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีทั้งหมด รวมทั้งประสานข้อมูลจากเรือนจำ และทัณฑสถานต่าง ๆ หลังจากมีข้อมูลว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการ ก่อเหตุแล้วหลบหนี นอกจากนั้นยังให้ชุดสืบสวนตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัท ห้างร้านในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมขอข้อมูลจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ในเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อตรวจหาการใช้โทรศัพท์ในช่วงเกิดเหตุด้วย โดยเชื่อว่าน่าจะติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แน่

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า นางสุนัทที เป็นน้องสาวของ นายพิพัฒน์ โรจนวนิชชากร หรือเสี่ยฮวด อายุ 50 ปี ผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก และถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2532 โดยปกติ นางสุนัททีไม่ค่อยจะเดินทางกลับมาในพื้นที่ จ.ชลบุรี เว้นแต่ในช่วงวันสำคัญ เช่นวันเกิดของ นายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ จึงจะเดินทางกลับมาพร้อมครอบครัว เพราะหลังจากแต่งงานแล้วก็เข้าไปทำงานที่กรุง เทพฯ ล่าสุดได้มาร่วมพิธีเปิดสมาคมพุทธ มามกะสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย ที่ ต.หนองซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา และจากการที่ผู้ตายทำธุรกิจซื้อขายที่ดินเพื่อทำโครงการในหลาย ๆ แห่งพบว่า มีปัญหาในเรื่องค่านายหน้าจำนวนมหาศาลที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น แต่แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นจุดใด อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัญหาเรื่องส่วนตัวอีกเช่นกันที่ยังไม่มีใครยอมเปิดเผยกับพนักงานสอบสวน ซึ่งอาจเป็นปัญหาจนทำให้ถูกสังหารดังกล่าว

ต่อมาเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เป็นกรณีพิเศษ นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ โดยมีท่านผู้หญิง อรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ สมเด็จพระ บรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทาน ประทาน พวงมาลาวางหน้าหีบศพ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ส่วนใหญ่มีแต่ญาติ และบุคคลใกล้ชิด เพื่อน ๆในวงการธุรกิจมาร่วมงาน

สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมจะมี จนถึงวันที่ 7 ธ.ค. เว้นวันที่ 5 ธ.ค. ณ ศาลาสีห์โสภณ วัดเทพศิรินทร์ ในเวลา 19.00 น. จากนั้นจะเก็บไว้ 100 วัน ที่วัดเนื่องจำนงค์ อันเป็นวัดประจำตระกูลเนื่องจำนงค์ ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ขณะที่ นายศรัณย์ หรือพรรณธฤต หรือพายุ เนื่องจำนงค์ บุตรชายคนโต กล่าวว่า ยังไม่ขอพูดอะไรในขณะนี้ แต่จะเปิดแถลงข่าวในอีกวันหรือสองวันนี้.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook