สั่งเด้งซํ้าอีก ผกก.-รองฯปปท.จัดฉก.ล้างผับบาร์

สั่งเด้งซํ้าอีก ผกก.-รองฯปปท.จัดฉก.ล้างผับบาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สัณฐาน ออกคำสั่งเด้งผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง พร้อมรอง ผกก.ปป. เข้ากรุ ไปช่วยราชการที่ บช.น. อีก 30 วัน หลังพ้นโทษมาไม่ถึง 7 วัน และสั่งให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พร้อมกับพวก 10 คน ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ บช.น. 30 วัน กรณีถูกจับบ่อน 369 ถนนผดุงด้าว 228 คน กลับไปทำงานที่เดิมแล้ว ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ท. ประกาศเอาจริง จัดชุดเฉพาะกิจลุยล้างผับ-บาร์ผิดกฎหมาย โดยประสานกำลังจาก ป.ป.ส. และ บช.ปส. ออกตรวจทุกสัปดาห์จนหมดหน้าเทศกาลรื่นเริง พร้อมจี้สำนักงานเขตตรวจใบอนุญาตก่อสร้าง ตลอดจนดัดแปลงหรือต่อเติมอาคาร โดยได้รับอนุญาตหรือไม่ พร้อมจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเลยต่อหน้าที่เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย ซานติก้า ผับ

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบสถานบันเทิงผิดกฎหมาย เพื่อป้องปรามเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ป.ป.ท.จะใช้คดีซานติก้าผับเป็นโมเดลนำร่อง การตรวจสอบสถานบันเทิงทุกแห่งในกรุงเทพฯ โดย ป.ป.ท., สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จะร่วมกันตรวจสอบสถานบันเทิง ที่มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นเข้าไปเที่ยว โดยจากนี้จะมีชุดเฉพาะกิจเข้มงวดตรวจสอบทุกสัปดาห์จนกว่าจะหมดเทศกาลเฉลิมฉลองรื่นเริงช่วงใกล้สิ้นปี อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.ได้แจ้งเตือนไปยังท้องที่ต่าง ๆ ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีสถานบันเทิงเปิดให้บริการผิดกฎหมายว่าจะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจ รวมถึงร้านโมทาวน์บางกอก ซอยรัชดาภิเษก 8 เขตห้วยขวาง ซึ่งมีการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่สถานบันเทิงไม่ได้ให้ความสนใจจะปรับปรุงให้ถูกกฎหมาย

นายภิญโญ กล่าวอีกว่า ป.ป.ท. จะ แจ้งให้สำนักงานเขตเข้าตรวจสอบว่าร้าน โมทาวน์บางกอกได้ดำเนินการก่อสร้างโดยมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ตลอดจนมีการดัดแปลงอาคารสถานที่ หรือต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และจะดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเลยต่อหน้าที่ โดยเฉพาะหลังก โมทาวน์บางกอกเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต แต่ยังปล่อยให้เปิดกิจการได้ และมีเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปใช้บริการโดยไม่ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน

ทั้งนี้รายงานข่าวจาก ป.ป.ท. เปิดเผยว่า จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าร้าน โมทาวน์บางกอกตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลของ นายทหาร เสธ.คนดัง ก่อนการบุกเข้าตรวจค้นจึงได้มีการแจ้งเตือนแล้ว แต่แจ้งเพียงว่าจะมีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น และก่อนการตรวจค้นไม่กี่นาทีดีเจของร้านโมทาวน์บางกอกได้ปิดเพลงพร้อมแจ้งให้นักเที่ยวซึ่งอายุไม่ถึง 20 ปี รีบหนีออกจากร้าน โดยใช้ประตูด้านหลัง ทำให้มีเยาวชนหลบหนีไปได้กว่า 50 คน ส่วนเยาวชนนักเที่ยวอีกกว่า 200 คน หนีไม่ทันจึงถูกควบคุม ตัวไว้ตรวจสอบ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีไม่ ถึง 50 คน ที่อายุเกิน 20 ปี โดย ป.ป.ท. ต้องการให้ติดต่อผู้ปกครองให้มารับตัว บุตรหลาน เพื่อตักเตือนให้ควบคุมดูแลเยาวชนไม่ให้ออกจากบ้านในยามวิกาล แต่ตำรวจกลับตั้งโต๊ะปรับเยาวชนรายละ 100 บาท ข้อหาไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนแล้วปล่อยตัวกลับ

ที่ บช.น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีตำรวจ ปส., ป.ป.ส. และ ป.ป.ท. สนธิกำลังเข้าตรวจผับโมทาวน์ ย่านรัชดาซอย 8 แล้วพบนักเที่ยวเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีกว่า 200 คน และตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ 32 คน เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้ สั่งให้นายตำรวจที่รับผิดชอบในท้องที่ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.ห้วย ขวาง และ พ.ต.ท.คมสันต์ แตงจุ้ย รอง ผกก.ปป. ให้เข้ามาช่วยราชการที่ บช.น. เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งให้มีผลทันที พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 มารักษาการแทน ผกก.สน. ห้วยขวางแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม เพิ่งพ้นโทษจากการถูกบุกจับบ่อนทายผลฟุตบอล และให้เข้าไปช่วยราชการที่ บช.น. ออกมาไม่ถึง 7 วัน ก็มาถูกคำสั่งให้กลับไปช่วยราชการที่ บช.น. อีกครั้ง

วันเดียวกัน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. มีหนังสือถึงนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น., ผบก.อก.บช.น., ผบก.น.6 และ ผบก.น.7 เรื่องข้าราการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยระบุว่า ตามหนังสือ บช.น.ด่วนที่สุด ที่ 0015.112/2738 ลง 31 ต.ค. 52 สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พร้อมพวกรวม 10 นาย ปฏิบัติราชการที่ บช.น. มีกำหนด 30 วัน นับแต่ 31 ต.ค. 52 เป็นต้นไป จนกว่าการสืบสวนข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ความจริงแล้วนั้น เนื่องจาก บก.น.6 หน่วยงานต้นสังกัดได้เสนอขอให้ พล.ต.ต.วิทยา พร้อมพวกรวม 10 นาย กลับไปปฏิบัติหน้าที่ยังต้นสังกัด เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงให้ พล.ต.ต.วิทยา พร้อมพวกรวม 10 นาย กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ต้นสังกัดเดิม ทั้งนี้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 22.30 น. ชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุขสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นำโดย พล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. (ในขณะนั้น) นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคาร 6 ชั้น เลขที่ 34-35-36 ถนนผดุงด้าว แขวง-เขตสัมพันธวงศ์ กทม. พบว่าที่ชั้น 5 มีการลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในชื่อว่า บ่อนพานทอง หรือบ่อน 369 ได้ของกลางเป็นชิปแลก เงินประมาณ 120 ล้านบาท เงินสด 5 แสนบาท ไพ่ประมาณ 600 สำรับ อุปกรณ์การเล่นบาคาร่า 9 ชุด และโต๊ะกำถั่ว 1 โต๊ะ และอื่น ๆ จำนวนมาก โดยบ่อนดังกล่าวเปิดให้เล่นการพนันบาคาร่า กำถั่ว และไฮโล ได้นักพนันชาย 138 คน และหญิง 90 คน รวม 228 คน ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 ทำให้ถูกสั่งช่วยราชการที่ บช.น. ในครั้งนั้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook