ปณิธานชี้โจรตะวันออกกลาง-อัฟริกาจ้องป่วนใต้

ปณิธานชี้โจรตะวันออกกลาง-อัฟริกาจ้องป่วนใต้

ปณิธานชี้โจรตะวันออกกลาง-อัฟริกาจ้องป่วนใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษกรัฐฯ ระบุ หัวโจกก่อการร้าย จากตะวันออกกลาง-อัฟริกา จ้องป่วน 3 จว.ใต้ นายกฯไทย-มาเลเซีย เตรียมถกแผนรับมือ

(1ธ.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ นายนาจิฟ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในช่วงวันที่ 8 -9 ธ.ค. 2553 ว่า เป็นการประชุมปรึกษาหารือประจำปี พร้อมจะลงพื้นที่จังหวัดในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเป็นจังหวัดใด ทั้งนี้มาเลเซียอยากให้ไทยมีความร่วมมือเรื่องการข่าวให้มากขึ้น เหมือนที่เคยทำมาในอดีตสมัยที่ยังมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.)

เพราะมาเลเซียสนใจเรื่องการแทรกซึมของขบวนการหัวรุนแรงจากภูมิภาคอื่นๆ เช่น จากตะวันออกกลาง อัฟริกา ที่ต้องการเจาะเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ตรงนี้ ซึ่งเป็นความกังวลของอาเซียนอยู่แล้วว่าต้องไม่ให้มีขบวนการหัวรุนแรงทางศาสนาเข้ามาในพื้นนี้ แม้ว่าขณะนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังไม่สามารถเจาะเข้ามาได้สำเร็จ แต่หากศึกษาจากเว็บไซต์ของกลุ่มเหล่านี้จะเห็นว่าได้เริ่มสนใจพื้นที่ตรงนี้ด้วยการชักจูงโน้มน้าวผ่านเว็บไซด์ แต่ยังไม่มีการปฏิบัติการ ดังนั้นจึงต้องสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันไว้

"ที่ผ่านมากลุ่มเหล่านี้เคลื่อนไหวมานานแล้ว โดยมีการโฆษณาบิดเบือนความจริงว่ารัฐบาลไทยใช้นโยบายไม่เหมาะสม ใช้กำลังใช้ความรุนแรง ดังนั้นต้องดูว่ามีคนเข้าไปหลงเชื่อขนาดไหน ขบวนการหัวรุนแรงเหล่าเป็นขบวนการก่อการร้ายสากลที่ต้องการสมาชิกเพิ่มโดยการหาเครือข่ายท้องถิ่นในประเทศต่างๆ ซึ่งต้องว่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นความสำเร็จของไทยที่สามารถรักษาเรื่องความไม่สงบชายแดนใต้ให้เป็นเรื่องของของคนในพื้นที่และไม่ถูกยกระดับให้เป็นเรื่องของสากล" นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวว่า การประชุมดังกล่าว จะมีการหารือเรื่องปัญหาภาคใต้ที่จะมีการพูดถึงเรื่องการศึกษาและการพัฒนาและเรื่องการลงทุนในเชิงโครงสร้างและกำลังพิจารณาว่าจะมีการหยิบยกเรื่องบุคคล 2 สัญชาติ และจะมีการลงพื้นที่โรงเรียนสอนศาสนาเอกชนด้วยโดยจะเน้นให้มีการสอนศาสนาพร้อมหลักสูตรสามัญอย่างที่มาเลเซียประสบความสำเร็จ เพื่อให้คนในพื้นที่มีขีดความสามารถมากขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวมีบันทึกความเข้าใจอยู่แล้ว การมาเยือนของมาเลเซียครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของไทยที่ทำให้มาเลเซียทราบถึงความก้าวหน้าของการปรับเปลี่ยนนโยยายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อให้มีการพิจารณาจะมีความร่วมมือกันอย่างไร

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook