สิ้นยุคเงินฝืดเข้ายุคเงินเฟ้อ

พาณิช์มั่นใจกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัวกระทุ้งรัฐงัดแผนกระตุ้นต่อเนื่อง

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย (เงินเฟ้อ) ประจำเดือน พ.ย. 52 ว่า เท่ากับ 105.8 สูงขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 52 และสูงขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 51 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยรวม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 52) ยังลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากช่วงต้นปีเงินเฟ้อมีอัตราติดลบมากจนเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ขณะนี้เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน สะท้อนสัญญาณการใช้จ่ายประชาชนเริ่มกลับมาดีขึ้น และเศรษฐกิจไทยได้พ้นจากภาวะเงินฝืด

ทั้งนี้สาเหตุที่ดัชนีเงินเฟ้อสูงขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 52 และสูงขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเดือน พ.ย. 51 มาจากราคาสินค้า และค่ายานพาหนะที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ รวมถึงราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าขายปลีกบางชนิดปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ข้าว ผักสด นมและผลิตภัณฑ์นม เครื่องประกอบอาหาร ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าของใช้ส่วนบุคคล สบู่ถูตัว แชมพูสระผม ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว กระดาษชำระ แบตเตอรี่รถยนต์ ค่ารักษาและบริการส่วนบุคคล ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ส่วนเมื่อเทียบเฉลี่ย 11 เดือนปีนี้กับช่วงเดียวกันปีก่อนลดลง 1.2% เนื่องจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 16.4% ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าน้ำประปา หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 2.1% หมวดบันเทิงการอ่าน การศึกษาและการศาสนา

นายยรรยงกล่าวว่า เงินเฟ้อที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกตินั้น จะทำให้การจ้างงานปรับตัวดีขึ้น ทำให้ประชาชนมั่นใจในรายได้ของตนเอง และกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตมีแรงจูงใจผลิตสินค้ามากขึ้น และทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม ส่วนรัฐบาลควรถือโอกาสนี้ใช้นโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และเร่งเบิก จ่ายงบตามนโยบายไทยเข้มแข็ง ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไป เพื่อเกื้อกูลให้ภาวะเศรษฐกิจ เติบโตต่อ และตั้งแต่ไตรมาสแรกปีหน้า เมื่อเงินเฟ้อเริ่มดีขึ้นควรขึ้นดอกเบี้ยต่อ

เป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีนี้คาดจะอยู่ที่ระดับติดลบ 0.8% ซึ่งอยู่ในกรอบที่คาดไว้ที่ 0% ถึงลบ 1% ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน พ.ย. 52 ที่หักรายการสินค้าอาหารสด และพลังงานออกอยู่ที่ 102.7 ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบเดือน ต.ค. 52 แต่สูงขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเดือน พ.ย. 51 และเฉลี่ย 11 เดือนปีนี้กับช่วงเดียวกันปีก่อนสูงขึ้น 0.1%

นายยรรยง กล่าวต่อถึงเป้าหมายเงินเฟ้อในปีหน้า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายขยายตัวเพิ่มขึ้น 3-3.5% เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยอยู่บนสมมุติฐานที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 70-80 ดอล ลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล.