ลงทะเบียนวันแรกไม่คึกคักผวาเจ้าหนี้คุกคาม!

ลงทะเบียนวันแรกไม่คึกคักผวาเจ้าหนี้คุกคาม!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ล้างหนี้นอกระบบยอด 3 หมื่นกว่ารายส่ง ตร.ช่วยคุมเข้ม

ล้างหนี้นอกระบบวันแรกกร่อย ลูกหนี้หวั่นอิทธิพลเจ้าหนี้คุกคาม แก้เกมขอกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัย สรุปยอดลงทะเบียนวันแรก ที่แบงก์ออมสินมีลูกหนี้ กว่า 2 หมื่น มูลหนี้ 2,500 ล้าน ส่วน ธ.ก.ส. ยอดลูกหนี้ 9,808 ราย มูลหนี้กว่า 1 พันล้าน กรุงเทพฯ-โคราช-สุรินทร์ เข้า วินลงทะเบียน รมว.คลัง หวังประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ออมสินโยนมหาดไทยตรวจสอบข้อมูลก่อนทำสัญญาเงินกู้ คาดภาคเกษตรมูลหนี้สูงสุด

ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 1 ธ.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมด้วยนายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ขึ้นทะเบียนโครงการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ซึ่งวันที่ 1 ธ.ค. ถือเป็นวันแรกที่ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดให้ประชาชนที่มีหนี้สินนอกระบบไม่ เกิน 200,000 บาท มาขึ้นทะเบียน พบว่าบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบเหงามีประชาชนให้ความสนใจน้อย เพราะเกรงกลัวอิทธิพล การข่มขู่ของเจ้าหนี้ที่ห้ามไม่ให้นำข้อมูลมาเปิดเผยต่อรัฐ ดังนั้นในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในจุดที่รับลงทะเบียนทั่วประเทศ นอกจากนี้มีลูกหนี้บางรายยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องชี้แจงข้อมูลผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลอะไรบ้าง

นายกรณ์ กล่าวว่า มีประชาชนมาลงทะเบียนผ่านธนาคารออมสิน 10,000 ราย ขณะที่ ธ.ก.ส.มี 7,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้เฉลี่ยรายละ 90,000 บาท หรือเป็นมูลหนี้รวมกว่า 1,530 ล้านบาท ซึ่งอยากเชิญชวนประชาชนที่มีปัญหาการกู้ยืมเงินนอกระบบ ดอกเบี้ยแพง และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกู้เงินสามารถมาขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. เชื่อว่าประชาชนมีความพึงพอใจที่เห็นแสงสว่างและสามารถลืมตาอ้าปากได้ โดยจังหวัดที่ลงทะเบียนมากสุดคือนครราชสีมาและพิจิตร บางจังหวัดเจ้าหนี้จูงมือลูกหนี้มาลงทะเบียน แต่บางจังหวัดเจ้าหนี้มีการข่มขู่ลูกหนี้ไม่ให้ลูกหนี้ เข้ามาร่วมโครงการ ซึ่งยืนยันว่าการจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาไม่ได้จองล้างจองผลาญเจ้าหนี้ และการขึ้นทะเบียนคนจนในอดีตของรัฐบาลชุดที่ผ่นมาทำอย่างไรกับเจ้าหนี้ตนไม่รู้ เพราะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาลชุดนี้ แต่การขอความร่วมมือเจ้าหนี้และลูกหนี้ครั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบโดยเร็ว ซึ่งเจ้าหนี้จะได้เม็ดเงินคืนตามมูลหนี้ที่เกิดขึ้น และปลอดภัยแน่นอน

ด้านนายเลอศักดิ์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงกรณีที่มีการวิตกกังวลว่าจะเกิดปัญหาเจ้าหนี้และลูกหนี้เทียม ซึ่งเป็นการหลอกลวงรัฐว่า กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูล ในพื้นที่ต่างจังหวัดคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากสามารถสอบถามกับผู้ใหญ่บ้านและกำนันได้ แต่พื้นที่ในเขต กรุงเทพฯ อาจจะมีปัญหาในการตรวจสอบ สำหรับปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสาเหตุใดมากที่สุด โดยเฉลี่ยมีทั้งการกู้เงินเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน บัตรเครดิต ซึ่งกรมบัญชีกลางจะต้องมีการคัดแยกประเภทลูกหนี้ก่อน หลังจากนั้นจะส่งข้อมูลให้ธนาคารที่เกี่ยวข้อง คาดว่าอาชีพที่เป็นหนี้นอกระบบมากสุดคือเกษตรกร อย่างไรก็ตาม ในวันแรกตั้งเป้าหมายไว้ว่ามีลูกหนี้มาลงทะเบียนกับธนาคารออมสินทั่วประเทศ ประมาณ 25,000 ราย และทั้งโครงการที่คาดว่ามีคนลงทะเบียนถึง 1 ล้านคนหรือไม่ยังตอบไม่ได้ต้องรอดูก่อน

นางสุพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพคนกวาดถนน กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันมีรายได้จากการทำงานเดือนละ 9,700 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพราะมีภาระต้องส่งหลานเรียนหนังสือ และมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นอีกมากทำให้ต้องกู้เงินนอกระบบ 3,000 บาท จ่ายดอกเบี้ย 10% ต่อวัน และเห็นว่าโครงการนี้จะช่วยลดภาระหนี้ให้กับตัวเองได้บ้างและมีเงินเหลือพอที่จะใช้จ่ายดำรงชีวิต

ด้านนางสายสุนีย์ (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพแม่บ้าน กล่าวว่า มีหนี้สิน 40,000 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน โดยสาเหตุที่ต้องกู้เงินนอกระบบเพราะมีรายได้จากสามีเดือนละ 5,000 บาทไม่พอใช้จ่าย และหวังว่าโครงการนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระการจ่ายดอกเบี้ยให้น้อยลง

ขณะที่นายเอ (นามสมมุติ) ระบุว่า ติดหนี้นอกระบบ 170,000 บาท และจ่ายดอกเบี้ย 20% และหนี้บัตรเครดิตรวมกันกว่า 390,000 บาท โดยแต่ละเดือนต้องชำระหนี้นอกระบบ 5,600 บาท ทั้งที่มีรายได้ 15,000 บาท เพราะต้องส่งลูกเรียนหนังสือ 2 คนซึ่งตอนแรกรู้สึกเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อฟังข้อมูลจากธนาคารออมสิน ทำให้คลาย ความวิตกลงได้ เหมือนมีที่พึ่ง

รายงานข่าวจากธนาคารออมสินแจ้งว่า มีประชาชนลงทะเบียนเข้าโครงการวันแรก 23,085 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 2,583.66 ล้านบาท โดยจังหวัดที่ลงทะเบียนมากสุดคือกรุงเทพมหานคร 2,813 ราย มูลหนี้ 272.67 ล้านบาท รองลงมาคือนครราชสีมา 1,171 ราย มูลหนี้ 118.31 ล้านบาท และสุรินทร์ 1,072 ราย มูลหนี้ 128.47 ล้านบาท ส่วนจังหวัดที่มีการลงทะเบียนน้อยสุดคือแม่ฮ่องสอน 12 ราย มูลหนี้ 1.42 ล้านบาท รองลงมาคือแพร่ 24 ราย มูลหนี้ 2.4 ล้านบาท และจังหวัดอุทัยธานี 31 ราย มูลหนี้ 4.6 ล้านบาท ขณะที่รายงานข่าวจาก ธ.ก.ส. แจ้งว่า เมื่อเวลา 16.30 น. มีลูกหนี้มาลงทะเบียนทั้งหมด 9,808 ราย รวมมูลหนี้ 1,105 ล้านบาท โดยมี 3 จังหวัดที่ลงทะเบียนสูงสุดคือชัยภูมิ 954 ราย มูลหนี้ 94 ล้านบาท รองลงมาคือสุรินทร์ 931 ราย มูลหนี้ 81 ล้านบาท และกำแพงเพชร 497 ราย มูลหนี้ 55 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน จากการเปิดลงทะเบียน เข้าโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในวันแรกนั้น พบว่าเกือบทุกจังหวัดมีประชาชนมาลงทะเบียนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น นางศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมมีการปรารภเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ประชาชนในพื้นที่ยังมีความสับสน ไม่เข้าใจในหลักเกณฑ์การลงทะเบียน ต่าง ๆ ซึ่งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ได้มอบให้ ส.ส.และสมาชิกพรรค ทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ นอกจากนี้ ส.ส.พรรคต้องการให้กระทรวงมหาดไทยช่วยเหลือกระทรวงการคลัง ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook