เลิก พรบ.มั่นคง

เลิก พรบ.มั่นคง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
''รัฐบาล''ยังระแวงมือที่ 3 ป่วนปีใหม่

ครม.ยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่ให้จับตามือที่ 3 ป่วนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซ้ำรอยปี 49 ด้าน ตู่ จวก มาร์ค-เทือก ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง บังอาจใช้ทหารเสือราชินีมาอารักขา ด้าน เทพเทือก ยันรัฐบาลหนักแน่นไม่ติดใจคำพูด ฮุนเซน ลั่นไม่ปิดด่านหวั่นชาวบ้านเดือดร้อน แถมเงิน กู้และความช่วยเหลือก็ยังไม่ระงับ ปณิธาน เผยนายกฯ ต่อสายเคลียร์ ฮุนเซน แล้ว เผยแค่ได้ข้อมูลผิด พร้อมยืดเวลาความช่วยเหลือด้านการศึกษา ฝ่าย เสธ.แดง แย้มทหารพรานยืนข้างเสื้อแดง เตือนรัฐใช้กำลังจลาจลแน่ ด้าน ป้าแจ๋ว นักข่าวอาวุโสบุกฉะนายกฯจวกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ยอมจ่าย มาร์ค ปรี๊ดสั่งตรวจสอบเงินไปตกอยู่ที่ใคร ยันรัฐบาลโอนเงินให้แล้ว แย้มปรับ ครม.ปีหน้า

* ยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้รายงานต่อที่ประชุม ครม.ว่าได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วและเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปที่จะประกาศพื้นที่ในเขต กทม.เป็นเขตความมั่นคง จึงให้ยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมใช้เวลาในการพิจารณายกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงเพียง 10 นาที โดยนายสุเทพได้วิเคราะห์สถานการณ์ให้ ครม.ฟังว่า ตั้งแต่วันนี้ 1-14 ธ.ค. ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร เพราะมีงานพระราชพิธี ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 15-31 ธ.ค.กลุ่มคนเสื้อแดงคงพยายามที่จะระดมคนมาชุมนุม แต่ดูแล้วคงไม่สามารถระดมพลใหญ่ได้ และช่วงที่ 3 หลังปีใหม่จนถึงก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 21 ม.ค. จะมีการชุมนุมใหญ่แน่ เพื่อปลุกกระแสเกลียดชังก่อนที่จะใช้เวทีรัฐสภาเปิดอภิปรายเพื่อล้มล้างรัฐบาล อย่างไรก็ตามต้องระวังการสร้างสถานการณ์ก่อวินาศกรรมเหมือนปี 49

* โวยใช้ทหารเสืออารักขา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง แถลงถึงรัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯว่า เมื่อรัฐบาลมีมติยกเลิก พ.ร.บ. ความมั่นคงในพื้นที่ กทม. ก็มีคำถามว่าได้ใช้งบฯไปเท่าไร ฝ่ายความมั่นคงควรชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่าง เนื่องจากทุกครั้งที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะมีการใช้งบฯอย่างผิดปกติ ไม่มีการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ

นายจตุพรยังกล่าวถึงการใช้ชุดรักษาความปลอดภัยของนายกฯ และรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงว่า ปกติจะใช้เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตนได้รับการร้องเรียนจากทหารว่านายอภิสิทธิ์และนาย สุเทพนำทหารเสือราชินีมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยประจำตัว ถือเป็นเรื่องที่มิบังควรอย่างยิ่ง เรื่องนี้นายทหารในกองทัพไม่สบายใจที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ส่วนนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี บอกว่าคนเสื้อแดงกำลังแตกแยกกันนั้น ไม่เป็นความจริง คนเสื้อแดงขณะนี้มีประมาณ 300 กลุ่ม ทุกคนมีแนวคิดเดียวกันคือล้มรัฐบาลและล้มอำมาตย์ ซึ่งหลังจากผ่านการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้ว เราจะประชุมนัดหมายกำหนดวันชุมนุมใหญ่

* โยนความผิดให้ ฮุนเซน

สำหรับปัญหาความขัดแย้งกับทางกัมพูชา โดยเฉพาะประเด็นสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวพาดพิงนายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ทำงานด้วยยากที่สุดในบรรดานายกรัฐมนตรีไทยนั้น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นแนวทางคำนึงผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทย ขณะที่มีการพาดพิงประเทศไทย ตนก็ได้เลือกใช้วิธีการที่ไม่ให้กระทบกับประชาชนชาวกัมพูชา แต่น่าเสียดาย ว่ามีการไปให้ข้อมูลผิด ๆ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ตนยืนยันตามแนวทางรักษาผลประโยชน์และเป็นมิตรกับประชาชนชาวกัมพูชา ถ้ามีการปฏิเสธในเรื่องของโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ก็อยากให้ชาวกัมพูชารับทราบว่าเป็นการตัดสินใจของผู้นำกัมพูชา ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรให้นายกฯ กัมพูชาหยุดเล่นการเมืองข้ามประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราก็อย่าไปเล่นกับเขา ในส่วนของสายตาชาวโลกตนคิดว่าวันนี้เขาเข้าใจประเทศไทย เท่าที่ได้พบกับผู้นำหลาย ๆ ประเทศเขาก็เข้าใจ ว่าปัญหาทั้งหมดรัฐบาลไทยไม่ได้เป็นฝ่ายที่ริเริ่ม เมื่อถามว่า ท่าทีของสมเด็จฮุนเซน ไม่เอื้อต่อการฟื้นความสัมพันธ์ นายกฯกล่าวว่า เป็นเรื่องที่สมเด็จฮุนเซนต้องพิจารณา

* เทพเทือกประกันไม่ปิดด่าน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซนท้าให้ไทยปิดพรมแดนว่า การพูดจาบางทีก็พูดไปโดยแรงกดดันภายใน แต่เราต้องหนักแน่นและใจเย็น เรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเรื่องที่ต้องสุขุมรอบคอบเป็นพิเศษ แต่สมเด็จฮุนเซนพูดว่าหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก รัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ยังอยู่ในอำนาจกัมพูชาก็ไม่มีความสุข นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปติดใจในคำพูดของเขา ไม่มีอะไรที่กังวลหรือหนักใจ

เมื่อถามว่า พวกลิ่วล้อที่ไม่มีหน้าที่แต่ชอบออกมาตอบโต้กัมพูชาจะทำอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า คนเหล่านั้นควรจะระวังตัว ถ้าใส่อารมณ์พูดจากันรุนแรงมันก็จะแรงไปเรื่อย ๆ เรื่องนี้จะไม่สร้างความกังวลใจให้กับกลุ่มเพื่อนประเทศอาเซียน นายกฯใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุดในทุกจังหวะก้าวทางการเมืองระหว่างประเทศ ต่อข้อถามว่า การปิดด่านยังจะยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ นายสุเทพกล่าวว่า ตนยืนยันได้ว่ายังไม่เกิดขึ้น รัฐบาลคำนึงถึงความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประชาชนในบริเวณชายแดน

* ยังไม่ลดระดับสัมพันธ์เพิ่ม

คนที่อยู่ชายแดนรักษาความสัมพันธ์ ฉันญาติกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอดในทุกสถานการณ์ รัฐบาลเข้าใจดีและยืนยันจะไม่ดำเนินการอะไรที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชน บริเวณ ชายแดนเป็นอันขาด เรื่องที่จะให้ปิดชายแดนเราไม่ทำแน่นอน รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่สมเด็จฮุนเซนออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง ฝ่ายไทยจะมีการลดระดับความสัมพันธ์หรือไม่ นาย สุเทพกล่าวว่า ไม่ เราทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงไป ส่วนความพยายามแก้ไขปัญหาก็ทำกันทุกระดับ การที่สมเด็จฮุนเซนออกมาพูดคงไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะมีอารมณ์พุ่งแรงขึ้นมา แต่เพราะเกิดเหตุกันขึ้นมาก่อนตั้งแต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางไปกัมพูชาและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเกี่ยวโยงกันมา

* ปัดยังไม่ตัดเงินช่วยเหลือ

นายสุเทพกล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ครม.จะไม่มีการหยิบยกโครงการเงินกู้หรือการให้ความช่วยเหลือต่อกัมพูชามาทบทวน ไม่มีอะไรที่จะไปเพิ่มดีกรีความไม่เข้าใจให้ขยายตัวไปมากกว่านี้ รัฐบาลหรือนายกฯไม่ได้ขู่ว่าจะตัดความช่วยเหลือเงินกู้ 1.4 พันล้านบาทต่อกัมพูชา นายกฯได้ยืนยันมาตลอดว่าเรื่องการตอบโต้ทางการทูตเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ในส่วนที่มีพันธะผูกพันกันเราจะไม่ไปแตะต้องโครงการเงินกู้จะดำเนินการต่อไป ซึ่งเงินกู้จำนวนนี้รัฐบาลกัมพูชาต้องการเอาไปใช้ก่อสร้างถนน ประชาชนจะได้ประโยชน์ จากการสัญจรไปมา อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนกัมพูชาเราไม่ยกเลิกหรือทบทวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงหรือไม่ที่รัฐบาลไทยเจรจากับกัมพูชาขอให้ปล่อยตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย แลกกับไทยจัดส่งเอกอัครราชทูตกลับไปประจำกัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีข้อแลกเปลี่ยนในลักษณะนี้ แต่การเจรจาที่จะหาทางช่วยเหลือนายศิวรักษ์ก็ดำเนินการไปรวมทั้งการเจรจาเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ก็ต้องทำต่อไป ส่วนถ้าพรรคฝ่ายค้านจะเข้าไปช่วยดำเนิน การเรื่องนี้จนสำเร็จก็ต้องขอขอบคุณ รัฐบาลไม่ได้ถือว่าเป็นการเสียหน้า ฝ่ายค้านมาช่วยบ้างก็ดีเพราะสร้างปัญหามาเยอะแล้ว

* เผย มาร์คยกหูคุย ฮุนเซน

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความไม่เข้าใจกรณีที่มีข่าว ครม.ให้ยุติการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินกู้และโครงการต่าง ๆ กับทางกัมพูชาว่า ล่าสุดสมเด็จฮุนเซนได้ประสานให้รัฐบาลทำจดหมายตอบกลับถึงความชัดเจนเรื่องนี้ ว่ามีการสั่งการให้ยุติโครงการต่าง ๆ จริงหรือไม่ โดยขอให้นายกฯโทรศัพท์กลับไปพูดคุยโดยตรง ซึ่ง นายกฯได้โทรศัพท์กลับไปพูดคุยตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และชี้แจงว่า ครม.ไม่ได้มีมติให้ยุติการให้วงเงินกู้ จึงขึ้นอยู่กับเขาว่าจะตัดสินใจจะเดินหน้าต่อหรือไม่ ถ้าเดินหน้าต่อฝ่ายเราก็พร้อม แต่ถ้ามีเรื่องประโยชน์ทับซ้อนเราไม่ยินดี

นายปณิธานกล่าวต่อว่า จดหมาย ตอบกลับคาดว่าคงจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 2 ธ.ค. แม้เราจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้กลับไป แต่เรื่องความสัมพันธ์ทางการเมือง นายกฯยังมีจุดยืนเหมือนเดิม หากกัมพูชาจะเจรจา เรื่องการแทรกแซงกิจการภายในกระ บวนการยุติธรรม การแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายฮุนเซน ทั้ง 3 เรื่องนี้ยังเป็นจุดยืนของเรา

* ยืดความช่วยเหลือการศึกษา

ด้าน นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติการจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อแก้ไขและต่ออายุความตกลงโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษา (วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล) ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2556 โครงการนี้เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษาโดยมีกรมราชองครักษ์และกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและการกีฬาของกัมพูชา เป็นหน่วยงานดำเนินงานโครงการฯ

ระยะเวลาดำเนินงานโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2544 รวมมูลค่าโครงการฯ จนถึงปัจจุบันประมาณ 267,034,875 บาท และเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2548 หน่วยงานดำเนินงานโครงการฯ ทั้ง 2 หน่วยงานข้างต้นได้ลงนามในพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และพิธีสารฯ ฉบับปี 2545 ให้ขยายความตกลงโครงการฯ ดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2553 ซึ่งต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชวินิจฉัยขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2553-30 ก.ย. 2556

* เสธ.แดงชี้ไม่มีทางสู้เขมร

วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รอง ผอ.รมน.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า พล.อ.พัลลภเรียกตนมาพูดคุยเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาและ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองทั่วไป ซึ่งเห็นร่วมกันว่าหากเกิดสงครามไทยกัมพูชาวันนี้ กองทัพไทยไม่สามารถต่อสู้กับกัมพูชาได้ เพราะฝ่ายกัมพูชามีประเทศที่พร้อมให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทั้งลาว เวียดนาม จีน รัสเซีย คิวบา รวมทั้งพม่า จะทำให้การต่อสู้กลายเป็นแบบ 6 รุม 1 ไทยไม่มีทางสู้ได้แน่นอน

นายทหารนักบู๊ยังกล่าวถึงสมเด็จฮุนเซนด้วยว่า เติบโตมาจากนักรบเป็นนายกฯกัมพูชามา 24 ปี ขณะที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯโพเดียมมา 10 เดือนแล้วจะไปสู้เขาได้อย่างไร ที่ผ่านมาไทยรบกัมพูชาบ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่ครั้งนี้สมเด็จฮุนเซนออกมาพูดชัด ว่าท่านไม่มีปัญหากับชาวไทย แต่ยกเว้นนายอภิสิทธิ์และนายกษิตที่ไปพูดจาดูถูกกัมพูชาบ่อยครั้ง

* โอ่ทหารพรานยืนข้างเสื้อแดง

ในส่วนของความเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง หากนำกำลังคนออกมาครั้งต่อไป ก็อยากเตือนทหารไม่ให้ออกมาเหมือนครั้งเหตุการณ์เดือน เม.ย. เพราะครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากทราบมาว่าขณะนี้กองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่เคยเป็นของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วพรรคประชาธิปัตย์มายุบไป ได้เริ่มรวมตัวกันเพื่อปกป้องคนเสื้อแดงแล้ว

ไม่เห็นหรือวันนี้การ์ดคนเสื้อแดง หลังเวทีแต่งชุดทหารพรานทั้งนั้น พวกนี้เอาชุดเก่ามาใส่แล้วทำโลโก้กันเอง ถ้า 3 เกลอนำกำลังออกมาล้อมทำเนียบ ยึดบ้านสี่เสา ยึดสภา ตามยุทธศาสตร์เดิม แล้วทหาร ออกมาตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้เจอกับทหารพรานแน่ ลองนึกดูจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทหารหลักเจอกับทหารพราน จลาจลใหญ่เกิดขึ้นแน่ พล.ต.ขัตติยะกล่าวและว่า พ.ต.ท.ทักษิณเปรียบเหมือนนโปเลียน จะเป็นผู้นำการต่อสู้เชื่อว่าจะกลับมาด้วยความยิ่งใหญ่

* พท.แนะปรับ ครม.ยกชุด

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงถึงกระแสการเรียกร้องให้มีการปรับ ครม.ว่า นายอภิสิทธิ์ควรพิจารณาปรับ ครม.ตามที่ฝ่ายค้านเสนอคือ 1.ปรับทีมเศรษฐกิจที่ทำงานไม่ประสบความสำเร็จ 2.ปรับด้านความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากผลงานการแก้ไขปัญหาภาคใต้ อาชญากรรม ยาเสพติด รัฐบาลเหมือนไม่กล้าเข้าไปแตะต้อง ที่สำคัญคือคดีกลุ่มพันธมิตรฯบุกยึดทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองก็ไม่กล้าดำเนินการ

* มาร์คแย้มปรับใหญ่ปีหน้า

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเรียกร้องให้มีการปรับ ครม.ว่า ตอนนี้ปิดสมัยประชุมและบรรยา กาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การปรับ ครม.เอาไว้ว่ากันในจังหวะเวลาที่เหมาะสมไม่ใช่ช่วงนี้ และไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่าจะปรับหลังจากครบ 1 ปีใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบว่า ครับ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะมีการ ปรับ ครม.ครั้งใหญ่ในปีหน้าใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพเชิญชวนให้รัฐบาลพักรบชั่วคราวในช่วงนี้ เกี่ยวอะไรกับเขา ตนไม่มีหน้าที่รบกับใครแต่มีหน้าที่ทำงานให้บ้านเมือง

* ลุงจิ้น ป้อง เจ๊วา งานดี

อีกด้านหนึ่งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเ่อไทย ประกาศพักรบในเดือน ธ.ค.เพราะเป็นเดือนแห่งความสุข ว่า ต้องขอบคุณ แสดงว่าเห็นแก่ภาพรวมของประเทศ เดือน ธ.ค.เป็นเดือนที่มีเรื่องสิริมงคลเป็นเดือนที่ประชาชนฉลองปีใหม่ น่าจะให้คนไทยได้หายใจโล่ง ๆ บ้าง และถ้าจะหยุดการเคลื่อนไหวต่อจากเดือน ธ.ค.ไปอีกได้ก็ดี

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหว นายชวรัตน์กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยพรรคไหนได้เป็นรัฐบาลน่าจะให้เขาทำงานได้จนจบวาระ พอหมดเทอมก็มาสู้กันบนเวทีการเลือกตั้งตามครรลอง ไม่ควรจะมีการสร้างความวุ่นวาย เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคการเมืองใหม่มีข้อเสนอในการปรับ ครม.ซึ่งมีการเสนอให้ปรับท่านและ รมว.พาณิชย์ ออกด้วย นายชวรัตน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองใหม่ตนไม่ให้ความสำคัญ และนางพรทิวา นาคาศัย ก็ทำงานได้ดีไม่มีข้อบกพร่อง รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทยทำงานเข้าตาทั้ง 2 ตาเลย

* แม่วิศวกรวอนสังคมเข้าใจ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ภายหลังจากนาง สิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวในกัมพูชา ได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังพรรคนั้น ในวันที่ 2 ธ.ค. นางสิมารักษ์พร้อมครอบครัวจะได้เดินทางไปยังกัมพูชาเพื่อพบบุตรชายอีกครั้ง ด้วยเที่ยวบินทีจี 580 เวลา 07.40 น. แต่จะไม่มีบุคคลจากพรรคร่วมเดินทางไปด้วย เราเพียงแต่ทำหน้าที่ประสานอำนวยความสะดวกให้เท่านั้น

ด้านนางสิมารักษ์ กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ไม่มีใครไปด้วย สังคมอาจมองว่าตนวุ่นวายแต่อยากบอกว่าตนทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ เรื่องที่เกิดขึ้นใหญ่เกินกว่ากำลังตนที่เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะดำเนินการได้เพียงลำพัง แต่ในฐานะแม่ต้องปกป้องลูกใครมีช่องทางช่วยเหลือเราก็ต้องดิ้นรนเพื่อหาทางช่วยเหลือลูก เขาโชคร้ายตกอยู่ระหว่างความขัดแย้งที่เขาไม่ได้ก่อ จึงอยากร้องขอว่าอย่านำเรื่องของครอบครัวเราไปเป็นปัญหาความขัดแย้ง อย่ามองว่าตนเป็นพวกใครแต่ก็พร้อมที่จะรับความช่วยเหลือจากทุกทางเพื่อความปลอดภัยของลูก

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงการต่างประเทศประสานประกันตัวนายศิวรักษ์คืบหน้าอย่างไรบ้าง นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากกระทรวงว่าจะดำเนินการเรื่องประกันตัวในวันที่ 4 ธ.ค. โดยได้เตรียมวงเงินที่จะใช้ประกันตัว 50,000-200,000 บาท ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะให้ความช่วยเหลือเงินดังกล่าว

* ป้าแจ๋วโวยเบี้ยยังชีพ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าประชุม ครม. น.ส.อนุกูล วงษ์บัวทอง วัย 73 ปี หรือ ป้าแจ๋ว นักข่าวอาวุโสจาก นสพ.สายกลาง ได้เข้าร้องเรียนหลังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุติดต่อนานมา 4 เดือนแล้ว โดย น.ส.อนุกูล กล่าวว่า ตนมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นนทบุรี และรัฐบาลออกนโยบายจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้ตั้งแต่เดือน พ.ค.จนถึงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้รับ เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่กลับได้รับคำตอบว่ารัฐบาลยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณมา และถ้าอยากทราบเหตุผลก็ให้ไปถามผู้ใหญ่ที่ระดับสูงกว่า ตนจึงต้องมาถามนายกรัฐมนตรี

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ตอนนี้กำลังไล่ตรวจสอบอยู่เพราะมีบางพื้นที่ผู้สูงอายุแจ้งว่าได้รับเบี้ยผู้สูงอายุแล้วขาดหายไป รัฐบาลโอนเงินงบประมาณไปให้ท้องถิ่นหมดแล้ว ตนกำลังตรวจสอบดูว่ามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใดบ้างที่ยังไม่ได้จ่ายเงินออกไป การร้องเรียนดังกล่าวตนขอเวลาไปเช็กข้อมูลว่าตกลงเงินดังกล่าวอยู่ที่ใคร ยืนยันว่าเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะให้ตลอดชีพ

* นายกฯสั่งให้จ่ายย้อนหลัง

ยอมรับว่าบางพื้นที่ท้องถิ่นบางแห่ง นำเงินส่วนนี้ไปหมุน โดยอาจนำเงินไปทำโครงการบางอย่างและกั๊กเงินไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ตอนนี้จึงต้องออกระเบียบให้จ่ายทุกเดือน วันนี้ผมจะสอบถามและหารือในที่ประชุม ครม.โดยจะให้กรมส่งเสริมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไปดู เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจาก รัฐบาลโอนเงินลงไปแล้วแต่เงินไม่ยอมจ่ายให้ผู้สูงอายุ และต้องจัดการกรณีที่มีนักการเมืองท้องถิ่นบางคนไปบอกกับชาวบ้านว่ารัฐบาลจะไม่จ่ายแล้วเพราะไม่เป็นความจริงนายกฯกล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกครั้งหลังการประชุม ครม.ถึงการร้องเรียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุว่า ปัญหาหลักจะอยู่ที่ กทม.ยืน ยันว่าประมาณวันที่ 11 ธ.ค.จะสามารถจ่ายและย้อนหลังไปถึงเดือน ต.ค.และ พ.ย.ที่ผ่านมาได้ และได้กำชับไปยังจังหวัดต่าง ๆ ไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอาเงินส่วนนี้ไปทำโครงการอื่นก่อน เมื่อถามว่า รัฐบาลกำหนดมาตรการลงโทษอย่างไร ถ้ามีองค์กรท้องถิ่นใดโยกงบประมาณนี้ไปใช้ในส่วนอื่นก่อน นายกฯ กล่าวว่า บทลงโทษเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทยที่จะดูแล

* มาร์ครับหน่วยงานรัฐโกงอื้อ

นายอภิสิทธ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาทุจริตการจัดซื้อในหลายหน่วยงานว่า สำนักนายกฯ กำลังรวบรวมตัวเลขการร้องเรียนทั้งหมด ทั้งการจัดซื้อจัดจ้างและการยักยอกทรัพย์สินของทางราชการ เพื่อเสนอให้ที่ ครม.พิจารณาได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามจากการประมวลข้อมูล เบื้องต้น มีการยักยอกเพิ่มสูงขึ้นขณะที่การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นลำดับรองลงมา

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงผลกระทบ จากวิกฤติดูไบว่า ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางรอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook