คณะของเลขาฯ พรรคคอมมิวนิสต์ ประจำเขตปกครองตนเองชาติไตสิบสองปันนา ส่งเสริมการค้า การลงทุน เชื่อมโยงระ
คณะของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำเขตปกครองตนเองชาติไตสิบสองปันนา เดินทางมาส่งเสริมการค้า การลงทุน เชื่อมโยงระหว่างสิบสองปันนา- เชียงใหม่ พร้อมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน นายเจียง พูเชียง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำเขตปกครองตนเองชาติไตสิบสองปันนาและคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมประชุมร่วมกับตัวแทนหน่วยราชการและภาคธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายจุ๊ เหว่ย หมิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำนครเชียงใหม่ ร่วมคณะ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ระหว่างสิบสองปันนา- เชียงใหม่ ซึ่งเลขาธิการพรรคประจำเขตปกครองตนเองชาติไตสิบสองปันนา กล่าวว่า อยากให้มีการผลักดันการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างเชียงใหม่-สิบสองปันนา โดยเฉพาะการบิน โดยสิบสองปันนาได้เสนอจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมทั้งหมดในปีแรก ปีที่สองลดเหลือร้อยละ 50 และปีที่สามเก็บร้อยละ 80 โดยยินดีที่จะเหมาที่นั่งไม่ให้ขาดทุน ทั้งนี้ยินดีที่จะส่งเสริมประชาชนจีนมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ รวมทั้งจะส่งเสริมให้ข้าราชการจีนเดินทางมาศึกษาดูงานที่เชียงใหม่เพื่อเชื่อมโยงการค้าการลงทุน การเดินทางที่เชื่อมโยงทั้งทางบกโดยเส้นทาง R3a ทางน้ำโดยผ่านแม่น้ำโขงและทางสายการบินที่เคยเปิดการบินแล้วปิดไป ขอให้มีการทบทวนใหม่อีกครั้ง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยินดีที่จะปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน โดยจะนำเรื่องไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เห็นว่าแนวคิดดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โอกาสนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนาและสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน ร่วมกันสนับสนุนให้ทั้งสองเมืองเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว จะมีการตั้งสำนักงานบริการนักท่องเที่ยวไว้ทั้งสองเมือง ผลักดันการท่องเที่ยว คมนาคมทางน้ำ ทางบกและทางอากาศ ร่วมมือกับภาครัฐในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยจัดสัมมนาทุกๆ ครึ่งปี ในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างยุคทองของการท่องเที่ยวของสองเมือง ขณะเดียวกันมีการเสนอการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว 5 เชียง ประกอบด้วยเชียงใหม่ เชียงราย เชียงรุ้ง เชียงตุง และเชียงของ เป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งไทย จีน พม่า ลาว หากสามารถส่งเสริมเส้นทางนี้ได้ จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและทั่วโลกได้เป็นอย่างดี