อสังหาฯทรุดตํ่าสุดรอบ5ปี

อสังหาฯทรุดตํ่าสุดรอบ5ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ต่างชาติชี้การเมืองไร้เสถียรภาพ

นายสุชาติ เจียรานุสสติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มอาร์สุขุมวิท จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จากประเทศสิงคโปร์ และเจ้าของโครง การ มิลเลียนเนียม เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท มูล ค่า 10,000 ล้านบาท เปิดเผยว่าตลาดอสัง หาริมทรัพย์ในไทยตกต่ำต่อเนื่องมา 5-6 ปี โดยไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากต่างประเทศแต่อย่างใด ทำให้ยอดเงินลงทุนจากต่างประเทศในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลดน้อยอย่างต่อเนื่องในทุกปี สาเหตุมาจากนักลงทุนต่างชาติกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในไทยและขาดความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ ดังนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยจึงมีราคาถูกที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และเวียดนามด้วย ต่อเนื่องหลายปีแล้ว

สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียที่น่าสนใจเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือญี่ปุ่น ในเมโตเกียว ที่ราคาลดลงตามวิกฤติเศรษฐกิจแต่ยังให้ผลตอบแทนที่ดึงดูดการลงทุนดีอยู่ ประมาณ 6-8% แตกต่างจากไทยที่ให้ผลตอบแทน 6% เท่านั้น นอกจากนี้ตลาดในสิงคโปร์และฮ่องกงก็ดึงดูดความ น่าสนใจลงทุนสูงมาก เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ส่วนวิกฤติ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในดูไบนั้น มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย แต่กระทบต่อความเชื่อมั่นในการเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมากกว่า และในขณะนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในดูไบลดลงมาแล้ว กว่า 50% ซึ่งบริษัทไม่มีแผนเข้าไปลงทุนใน ดูไบ เพราะไม่น่าสนใจมากนัก

ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสเติบโตมากในอนาคตและน่าลงทุนมาก แต่เกิดปัญหาการเมืองในประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศหลายรายกลัวไม่กล้าเข้ามาลงทุนในไทย จึงเห็นได้ว่าอุปสรรคสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ถูกกว่าเพื่อนบ้านก็มาจากการขาดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติและวามน่าเชื่อถือต่อสถานการณ์ในประเทศ

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ปีนี้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดอสัง หาริมทรัพย์ลดลงกว่า 30% จากปีก่อน ทั้งลดลงทุนในโรงแรม วิลล่าและคอนโดมิเนียม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกและไทยมีปัญหาการเมืองในประเทศ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศมาก ทำให้ส่วนหนึ่งชะลอลงทุน ออกไป

ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในประเทศปีนี้ ประเมินว่ามียอดบ้านสร้างเสร็จและจดทะเบียนรวม 84,000-85,000 ยูนิต เติบโตขึ้นจากปีก่อน เพราะประชาชนเห็นอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการซื้อบ้านใหม่เพิ่มขึ้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook