โครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองระยะที่ 3 ของนักวิจัยไทย ติดอันดับ 8 จากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์

โครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองระยะที่ 3 ของนักวิจัยไทย ติดอันดับ 8 จากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
โครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองระยะที่ 3 ของนักวิจัยไทย ติดอันดับ 8 จากการจัดอันดับการประดิษฐ์คิดค้นยิ่งใหญ่แห่งปี 2552 ของนิตยสารไทม์ นายแพทย์ศุภชัย ฤกษ์งาม ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองระยะที่ 3 กล่าวถึงการที่นิตยสารไทม์ ได้จัดอันดับการประดิษฐ์คิดค้นยิ่งใหญ่แห่งปี ประจำปี 2552 ซึ่งผลการจัดอันดับโครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลอง ระยะที่ 3 ติดอันดับที่ 8 แต่จากการโหวตผ่าน time.com ได้ไต่อันดับขึ้นไปถึงอันดับที่ 5 สร้างความชื่นใจให้แก่คณะวิจัยและคนไทยทั่วประเทศ ทั้งนี้ผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิผลร้อยละ 31.2 นับว่าเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลก หลังจากการศึกษามานานกว่า 26 ปี ทำให้เกิดความคาดหวังว่า การผลิตวัคซีนเอดส์น่าจะประสบความสำเร็จได้ในอนาคต ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองระยะที่ 3 กล่าวอีกว่า แม้ประสิทธิภาพของวัคซีนจะมีเพียงร้อยละ 31.2 ถือว่ายังไม่สามารถนำมาใช้ได้ในขณะนี้ แต่หลังจากนี้ทางคณะผู้วิจัย จะต่อยอดโดยการนำเลือดของอาสาสมัครที่ติดเชื้อเอชไอวีจำนวน 125 คน จากอาสาสมัคร 16,000 คน มาศึกษาหาจุดแตกต่างของพันธุกรรม ว่ามีความแตกต่างกันตรงส่วนไหน รวมทั้งทดสอบภูมิคุ้มกันในน้ำเหลือง ในเม็ดเลือด และการทดสอบในสัตว์ทดลองอีกครั้ง คาดว่า ผลการทดสอบจะได้ข้อสรุปในปลายปีหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook