สรุปข่าวภาค 07.00 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2552

สรุปข่าวภาค 07.00 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2552

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่ศาลาศิริราช 100 ปีเมื่อวานนี้ ยังเนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่มาร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นเดียวกับทุกๆวันที่ผ่านมาโดยทุกคนต่างขอให้พระองค์ทรงพระเจริญและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ขณะที่โรงพยาบาลศิริราชแจ้งงดลงนามถวายพระพรในวันที่ 5 ธันวาคม บรรยากาศการลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราชตลอดวานนี้ มีประชาชน คณะบุคคล ข้าราชการตำรวจ คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ได้แก่ คณะสามเณร 110 รูป ซึ่งบรรพชาในโครงการเฉลิมพระเกียรติที่โรงเรียน ภปร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดถวายเป็นพระราชกุศล กรมการบินพลเรือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองตำรวจสื่อสาร คณะอาจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ และประชาชนจากทั่วสารทิศ ทุกคนตั้งใจขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตราบนานเท่านาน สำหรับวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา โรงพยาบาลศิริราชจะปิดการลงนามถวายพระพร ณ ศาลาศิริราช 100 ปีเป็นเวลา 1 วัน แต่ประชาชนสามารถลงนามถวายพระพรที่ศาลาสหไทยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนจำนวนผู้มาลงนามฯล่าสุดเมื่อวานนี้ 17,389 รายชื่อ ยอดรวม 75 วันจำนวน 1,342,176 รายชื่อ และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นวันแรกของการจัดงานและได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ภายในงานมีการแสดงบนเวทีของสถานศึกษาต่างๆ การแข่งขันประกวดวงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนมัธยมชิงถ้วยพระราชทาน และการแสดงดนตรีนอกจากนี้ ตลอดแนวถนนราชดำเนินกลางไปจนถึงแยก จปร. จัดแสดงแสง สี เสียงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด"ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี การจัดนิทรรศการ จัดทำมัลติมีเดียเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนบริเวณป้อมมหากาฬถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ เปิดไฟกระพริบตลอดแนวถนนราชดำเนิน 9,999 ดวง ตั้งแต่เวลา 18.00 น.- 24.00 น. การแสดงดอกไม้ไฟชุดใหญ่ การแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสมการจัดแสดงดนตรีแจ๊ส ป๊อป และออเคสตร้า ขณะที่ประชาชนที่เข้าชมงานเปิดเผยว่า ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการงานเฉลิมพระเกียรติฯ และภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย รวมทั้งซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้ ( 4 ธันวาคม) ตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ความถี่ 819 กิโลเฮิรตซ์ ในระบบ เอ.เอ็ม. ถ่ายทอดเสียงพิธีเปิดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 จากลานหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล เวลา 15.30-16.30 น. ความถี่ 819,891 กิโลเฮิรตซ์ ในระบบ เอ.เอ็ม. และความถี่ 92.5 เมกะเฮิรตซ์ ในระบบ เอฟ.เอ็ม. พร้อมด้วยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในส่วนภูมิภาคของกรมประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดเสียงในโอกาสที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา จากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายกรัฐมนตรี ขอให้คนไทยนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งเตือนใจในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปาฐกาพิเศษยุทธศาสตร์ประเทศไทย Thailand Green Stategy ในงานสัมมนา CEO Forum ว่า ที่ประชุมหลายกลุ่มได้แสดงจุดยืนร่วมกันลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ไทยในฐานะประธานอาเซียนจะแสดงบทบาทในการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนอย่างเต็มที่ ซึ่งไทยโชคดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องพลังงานทดแทน จึงให้ประชาชนนำไปเป็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หากคนไทยไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คาดว่าอีก 10-30 ปีข้างหน้าจะส่งผลกระทบแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าบทเรียนจากปัญหาอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะทำให้โครงการใหญ่ๆ ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และภายหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ 8 ฝ่าย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมมาบตาพุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายได้จัดทำร่างระเบียบและกำหนดหลักเกณฑ์ การดำเนินการตามมาตรา 67 วรรค 2 เพื่อเป็นพื้นฐานให้ทุกโครงการที่มีปัญหาใช้เป็นแนวทางให้ศาลปกครองยกเลิกการระงับการลงทุนในช่วงต่อไป พร้อมกำชับหน่วยงานภาครัฐเร่งชี้แจงภาคเอกชนให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานจัดทำรายละเอียดของแต่ละโครงการ รวมทั้งปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากคำวินิจฉัยของศาล กรุงเทพมหานครพร้อมรองรับประชาชนจากทั่วประเทศที่เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็งที่สนามศุภชลาศัย ขณะที่ตำรวจเตรียมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมแนะนำให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถส่วนตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็งที่แต่ละจังหวัดร่วมร้องเพลงชาติไทยในเวลา 18.00 น.วันละ 1 จังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาและครบทั้ง 76 จังหวัดในวันนี้ที่กรุงเทพมหานคร โดยได้กำหนดจัดงานที่สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้เห็นการแสดงพลังความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ภายใต้กิจกรรมหลากหลาย ทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมงานประมาณ 40,000 คน จึงมอบหมายให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และกองบังคับการตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกให้ประชาชน พร้อมแนะนำให้ประชาชนใช้บริการรถโดยสารสาธารณะหรือรถไฟฟ้า เพราะคาดว่าปริมาณรถจะหนาแน่นมาก ขณะที่ พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความมั่นใจ ตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจในบริเวณงานอย่างเข้มงวด และจากการติดตามด้านการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และในเวลา 17.30-18.03 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ความถี่ 819,891 กิโลเฮิรตซ์ ในระบบ เอ.เอ็ม. และความถี่ 92.5 เมกะเฮิรตซ์ ในระบบ เอฟ.เอ็ม. พร้อมด้วยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในส่วนภูมิภาคของกรมประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดเสียงพิธีปิดโครงการไทยสามัคคีไทยเข้มแข็งจากสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรเตรียมความพร้อมรองรับการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องเส้นทางและความปลอดภัย นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เปิดเผยว่า มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทเร่งปรับสภาพผิวจราจรและเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้เดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหยุดการก่อสร้างต่างๆ นอกจากนี้ยังปรับปรุงเครื่องหมายจราจร ป้ายแนะนำเส้นทาง สัญญาณจราจรให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พร้อมจัดตั้งหน่วยบริการ สถานที่พักรถบนเส้นทางสำคัญ อีกทั้งขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณทางเข้า - ออกสถานีขนส่ง และกวดขันวินัยการขับขี่ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรตามเส้นทางสายหลัก ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มสกัดกั้นยาเสพติดช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากชายแดน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดระดมกวาดล้างยาเสพติดในช่วงนี้ต่อเนื่องถึงวันที่ 25 ธันวาคม เนื่องจากประเมินว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำนวนมาก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงกำชับหน่วยปฏิบัติให้เพิ่มความเข้มในการตั้งด่านตรวจค้นและสกัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างมาก โดยเฉพาะแนวชายแดนทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ รัสเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และกำลังเร่งปรับปรุงเศรษฐกิจให้ทันสมัย จึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนไทยควรเข้าไปร่วมลงทุน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเชิญจากสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาเปิดงานการประชุมความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าและการลงทุน ระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจรัสเซีย ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย โดยขณะนี้รัสเซียอยู่ระหว่างการใช้แผนพัฒนาแห่งชาติ เพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจของประเทศให้ทันสมัย ซึ่งกำหนดแนวทางการพัฒนาใน 5 สาขาสำคัญ คือ (1) พลังงาน ซึ่งรัสเซียเชิญชวนให้บริษัทไทยไปลงทุนซื้อก๊าซธรรมชาติ และร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าของบริษัทรัสเซียในประเทศเพื่อนบ้านของไทย (2) พลังงานนิวเคลียร์ รัสเซียเสนอตัวเป็นแหล่งขององค์ความรู้และการอบรมบุคลากร (3) เวชภัณฑ์ ซึ่งไทยอาจร่วมกับรัสเซียในการวิจัย พัฒนาและการลงทุนร่วมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม (4) อวกาศและสารสนเทศ และ (5) เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ รัสเซียอยู่ระหว่างพัฒนา supercomputer และซอฟต์แวร์ใหม่ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของนักธุรกิจไทยในการค้าการลงทุนกับรัสเซียว่า ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงมอสโกเท่านั้น แต่ยังมีในเมืองใหญ่ๆ ด้วย ตัวแทนนักเรียนไทยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้รับรางวัลชนะเลิศประเภททีมผสมในการตอบปัญหาอาเซียน ระดับภูมิภาคที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ นางวรรณา วุฒิอาภรณ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมงานประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า นักเรียนไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียน ประกอบด้วย น.ส.จตุพร อุชุวัฒน์ โรงเรียนอุดมศึกษา นายกันตภณ รัตนพฤกษ์สกุล โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม และ นายพรพิพัฒน์ เกษมทรัพย์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม) โดยมีประเทศในภูมิภาคอาเซียนส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน 10 ประเทศ ๆ ละ 3 คน ผลการแข่งขันประเภททีม ชนะเลิศ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ รองลงมาคือ สหภาพพม่า และประเทศไทย ประเภททีมผสม รางวัลที่ 1 ประกอบด้วยทีมจากประเทศไทย สิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งตัวแทนไทยที่ร่วมแข่งขันได้แก่ นายกันตภณ รัตนพฤกษ์สกุล วันนี้ (4 ธันวาคม ) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดกระบี่ ที่หมู่ 4 บ้านเขาดิน ตำบลดินอุดม อำเภอลำทับ จังหวัดนครราชสีมา ที่หมู่ 1 บ้านโนนอุดม ตำบลโนนอุดม อำเภอเมืองยาง จังหวัดน่าน ที่หมู่ 7 บ้านห้วยเลา ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย จังหวัดราชบุรี ที่หมู่ 6 โรงเรียนบ้านห้วยผาก ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook