ขุนพลปชป.ฉะกันเอง

ขุนพลปชป.ฉะกันเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ไล่พวกอยากเป็นรมต.แม้วโอ่เดินสายพบผู้นำ

ปชป. กระซวกเพื่อนร่วมพรรค ไล่ส่งพวกกระสันเก้าอี้ รมต. โทรโข่ง โต้แทน มาร์ค ไม่ปรับ ครม. ชิ่งหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้าน เพื่อแม้ว จับตาผู้นำหล่อกินไม่ได้ไฟเขียว เสธ.หนั่น ยกเก้าอี้ให้ลูกชาย พร้อมขยายแผลชงสูตร ดรีมทีม แก้วิกฤติ อัดมือซ้าย-มือขวา มาร์ค ผลงานล้มเหลวทั้งคู่ เล็งขุดรายชื่อ ผี ฝึกต้นกล้าอาชีพมาซักฟอกต้นปีหน้า ส่วน นายใหญ่ ยังเดินสายพบผู้นำอีก 2 ประเทศ อ้างสัมผัส นรก-สวรรค์ ในชาติเดียว ฝ่าย บิ๊กป๊อก วอน นปช. ทำเพื่อในหลวง ยกเลิกม็อบ 10 ธ.ค.นี้

* บิ๊กป๊อกวอนนปช.ฉุกคิด

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่สนามบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์การจัดการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 10 ธ.ค. ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงการเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาว่า การชุมนุมไม่ได้เป็นหนทางที่จะทำให้อะไรดีขึ้น ถ้าถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็เอาเป็นว่าเราทราบดีอยู่แล้วว่า เราเสียหายในเรื่องนี้มามากแล้ว แล้วเราไม่น่าจะกลับไปวนอยู่ในเรื่องเก่า ๆ

สิ่งที่น่าจะนำไปคิด คือ พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้คำนึงถึงส่วนรวม ให้คำนึงถึงความเสียหาย ผมว่าน่าจะเอาไปชั่งน้ำหนักดูว่า ประเทศชาติจะเสียหายหรือไม่ ทุกคนที่อยู่ในชาติจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ผบ.ทบ. ระบุ

* ประณามเสธ.แดงเพ้อเจ้อ

ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก อ้างว่าจะมีอดีตทหารพรานเข้าร่วมชุมนุมด้วยนั้น พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอใช้คำว่า ประณาม เพราะคนในกองทัพทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ไม่มีใครทำงานหนักเบากว่ากัน แต่ไม่มีใครกล่าวอ้างตัว กองทัพเป็นสถาบันหลัก ไม่ใช่ของตน หรือของใครคนใดคนหนึ่งที่จะถูกนำไปกล่าวอ้าง กองทัพเป็นของประเทศชาติ ของประชาชน เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กองทัพต้องอยู่ในภาวะที่ดูแลความสงบเรียบร้อยความมั่นคง

ผบ.ทบ. กล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับกลุ่มทหารพรานที่ออกจากหน้าที่ไปแล้ว ก็ไม่มี เหตุการณ์ดังกล่าว การที่ไปพูดว่า จะมีสถาบัน กองทัพออกมา บอกว่ามีผู้ถืออาวุธ ถือว่าเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายของสังคมไทยเรื่องหนึ่ง ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบ ก็ได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามกฎระเบียบและกฎหมายที่มีแล้ว

* ปชป.เชื่อน้ำยารัฐคุมม็อบ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คณะทำงานปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) จะติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลที่ไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งการที่แนวร่วมของพรรคเพื่อไทยออกมาดำเนินการเมือง นอกสภา เพื่อต้องการให้ประชาชนกังวลในความสามารถของรัฐบาลในการดูแลความสงบ แต่วอร์รูมมั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลได้อย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมกันติดตาม เฝ้าระวังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่ารัฐบาลเตรียมจัดฉากจับแรงงานต่างด้าวแล้วโยนความผิดให้กลุ่มคนเสื้อแดงในการชุมนุมวันที่ 10 ธ.ค. ว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ได้ติดตามข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งพบว่ามีการเตรียมการจริง ดังนั้น การที่นายจตุพรออกมาพูดเช่นนี้จึงถือว่าเป็นการแก้เกี้ยว โยนว่าเป็นการจัดฉากของรัฐบาล

* โต้ข่าวปรับครม.หนีซักฟอก

ในปีหน้าหากมีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในสภาจะถือว่าเป็นเรื่องดี ฝ่ายค้านควรเข้าร่วมสร้างความสมานฉันท์ และร่วมปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนได้ตัดสินใจผ่านการทำประชามติว่า ควรแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าฝ่ายค้านคัดค้านเพราะอะไร หรือเป็นเพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมให้ความสมานฉันท์ของชาติเดินหน้าไปได้ นพ. บุรณัชย์ กล่าวเรียกร้อง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลเตรียมชิงปรับ ครม. หนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความร่วมมือกับสภามาโดยตลอด โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้ความสำคัญกับการตอบกระทู้ถามในการประชุมสภามากกว่าบางรัฐบาล ดังนั้นจึงมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่หนีหรือขัดขวางการทำงานของสภา อย่างไรก็ดีพรรคได้ประเมินการทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปี พบว่านโยบายสำคัญ ๆ มีผลในทางปฏิบัติต่อประชาชนทุกกลุ่ม และหากจะมีการปรับ ครม. ก็ถือเป็นดุลพินิจของนายกฯ ที่ทำเพื่อหนุนให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน

* ตะเพิดหัวกลวงส่องกระจก

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์อาจเกิดความแตกแยกหากมีการปรับ ครม. ว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีมากกว่า 270 เสียง แม้ทุกคนไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ก็มีหน้าที่พารัฐนาวานี้ไปให้ได้ ตนยอมรับว่ามีคนอยากเป็นรัฐมนตรี แต่บางคนไม่มีคุณสมบัติก็อยากจะเป็น อยากถามว่าหากมาเป็นแล้วจะหาที่เซ็นชื่อถูกหรือไม่ อยากให้คนเหล่านั้นกลับไปสำรวจตัวเองให้แน่ใจก่อน อย่างนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก็เหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่นายชินวรณ์ไม่ดิ้นรนอะไร แต่กลับทำงานให้พรรคเต็มร้อย

ส.ส.รายนี้ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามักมีกระแสข่าวต้องการให้ปรับ ครม. ในพรรคมาโดยตลอด แต่นายกรัฐมนตรีก็นิ่งเฉย แสดง ว่านายกฯ ไม่ให้เครดิต ทั้งนี้การปรับ ครม. ไม่ว่าจะปรับอย่างไรก็มีแรงกระเพื่อมอยู่ดี ดังนั้นถ้าไม่มีการทุจริตที่สังคมประณามอย่างชัดเจนก็ไม่ควรปรับ

* แม้วเผยเห็นนรก-สวรรค์

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ ทวิตเตอร์ว่า วันนี้ขออนุญาตเดินทางไป พบผู้นำอีกสองประเทศ สัก 2-3 วัน แล้ว จะถ่ายภาพมาให้ดู เพื่อท่านจะมีความรู้สึกเหมือนว่าเราเดินทางไปด้วยกัน กลับมาก็รู้ ไปไหน อีกทั้งยังได้นำภาพที่ระบุว่าเดินทางไปประเทศรัสเซียมาลิงก์ให้ตามไปดูด้วย นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โพสต์ข้อความ ตอบสมาชิกถึงความรู้สึกสมัยรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ตอนปฏิวัติ และ ความรู้สึกในตอนนีอว่าเป็นชีวิตที่มีหลากรส เหมือนกับได้เห็นนรกและสวรรค์ในชาติเดียวกัน

* พท.จวกรัฐติดหล่มขัดแย้ง

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการดำเนินโครงการ ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง ที่ระดมประชาชนมาร่วมร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. ว่า เป็นการประจานความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้ง ความแตกแยกในสังคม เป็นการเกาไม่ถูกที่คัน เพราะโครงการนี้เป็นการสร้างภาพ สิ้นเปลืองงบ ประมาณโดยใช่เหตุ แต่ละจังหวัดต้องเกณฑ์ ประชาชน 1-2 หมื่นคน ท้องถิ่นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเกณฑ์คนมาสร้างภาพความสมานฉันท์แบบปลายเหตุเพื่อสนองความต้องการของนายอภิสิทธิ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าของโครงการ

ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าใช้งบประมาณเพียง 13 ล้านบาทนั้น โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานของพรรคที่ติดตามโครงการนี้พบว่า มีการใช้งบประมาณแฝง ผลักภาระให้ท้องถิ่นทั่วประเทศเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท

* สมานฉันท์ต้องมาตรฐานเดียว

สาเหตุความแตกแยกของคนในชาติ มาจากการที่มีกลุ่มคนบางพวกได้ร่วมกับคณะทหาร วางแผนปฏิวัติอันเกิดจากความอิจฉาริษยาด้วยการสร้างความเข้าใจผิด และความเกลียดชังให้เกิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ โดยเฉพาะการยัดเยียดข้อหาไม่จงรักภักดี สร้างข่าวเท็จใส่ร้ายเป็นรายวันผ่านสื่อที่ไร้จริยธรรมมาจนถึงทุกวันนี้ และยังมีกรณีที่รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายโดยเลือกปฏิบัติเฉพาะกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แต่พวกพ้อง ตัวเองกลับไม่กล้าดำเนินการ ดังนั้นโอกาส ในการสร้างความสมานฉันท์คงเกิดได้ยาก โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุและว่า หากรัฐบาลลดทิฐิ บังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หยุดสร้างเรื่องใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะข้อหาทรยศชาติและการไม่จงรักภักดี ส่วนองค์กรอิสระ และศาลต้องตัดสินคดีภายใต้หลักความเป็นอิสระและความเป็นกลางด้วยความยุติธรรมอย่างแท้จริงก็เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้

* ดักคอมาร์คสลับเก้าอี้ รมต.

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เสนอ ให้ปรับ ครม. โดยจะลาออกเพื่อเปิดทางให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชายมาเป็นรัฐมนตรีแทนว่า ถ้านายอภิสิทธิ์ ปรับ ครม. ตามที่ พล.ต. สนั่น เสนอถือว่าเป็นการแก้ปัญหาและเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวกโดยไม่คำนึง ถึงปัญหาของประชาชนและประเทศชาติ สะท้อน ให้เห็นว่าตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นสมบัติผลัด กันชม

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้โพลต่าง ๆ ยังพบว่ารัฐบาลยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ตรงนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญของทีมเศรษฐกิจที่มีนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าทีมที่ยังไม่สามารถสร้างความ เชื่อมั่นให้กับประชาชน ส่วนปัญหาด้านสังคมพบว่ายาเสพติดยังระบาด อาชญากรรม พุ่ง การเมืองมีความขัดแย้งสูง ความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีบาดเจ็บ และถูกฆ่ารายวัน ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ ของรัฐ

* แนะโละโควตาตั้งดรีมทีม

นายพร้อมพงศ์ ยังเรียกร้องให้นาย อภิสิทธิ์ปรับครม. เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ปรับ ครม. เพียงเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในต้นปีหน้า หรือปรับเพื่อเล่นเกมแบ่งอำนาจ เพราะนายกฯ จะต้องมีวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำ กล้าที่จะใช้โอกาสปรับ ครม. เพื่อประสิทธิภาพ ทางการบริหารให้เป็นที่ยอมรับ จัดคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารโดยไม่ยึดโควตา ไม่เห็นแก่หน้าตาของพวกพ้อง 1 ปีที่ผ่านมา ครม. ของนายอภิสิทธิ์ บริหารแต่การเมือง มีนายกรัฐมนตรีหล่อ แต่กินไม่ได้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อน จึงควรปรับ ครม. เพื่อมาแก้ปัญหาบ้านเมืองและประชาชน จะต้องไม่ซื้อเวลาอีกต่อไป

* แฉชื่อผีอบรมต้นกล้าอาชีพ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงความล้มเหลวของโครงการต้นกล้าอาชีพว่า โครงการนี้มีปัญหาไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันผู้เข้าอบรมไม่ได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพจริง เช่น อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ผ่านไป 7 เดือน ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อประกอบอาชีพเพาะเห็ดนางฟ้าและเลี้ยงปลา ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาดำเนินการต่อ นอกจากนี้ยังพบว่าการเปิดฝึกอบรมแต่ละหลักสูตรต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 คน จึงมีการยัดเยียดรายชื่อผู้เข้าหลักสูตรเพื่อให้ประชาชนเข้ามาอบรม และเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง ตรงนี้จึงเป็นสิ่งจูงใจให้ประชาชนมาสมัคร

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จรัฐบาลจึงยุบโครงการในเดือน มี.ค. 53 เนื่องจากมีความไม่ชอบมาพากลส่อไปในทางทุจริต เพราะถูกตรวจสอบโดยคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย งบฝึกอบรมในระยะที่ 1 จำนวน 6.9 พันล้านบาท แต่ใช้ไป 5.9 พันล้านบาท และส่งคืนคลัง 1 พันล้านบาท ถือว่าได้ประโยชน์น้อยไม่คุ้มค่าเงินภาษีของประชาชน พรรคเพื่อไทยจะได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันทีที่มีการเปิดประชุมสภาในเดือน ม.ค. 53

* แม่ศิวรักษ์ลุ้นศาลตัดสินคดี

ส่วนความคืบหน้ากรณีศาลกัมพูชา นัดพิพากษาคดีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกร บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือแคทส์ ในวันที่ 8 ธ.ค. นั้น นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า วันที่ 7 ธ.ค. เวลา 07.40 น. นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาพร้อมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และจะมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปส่งที่สนามบินเพื่อให้กำลังใจด้วย

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า ไม่ทราบว่าศาลกัมพูชาจะมีขั้นตอนอย่างไร แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับนางสิมารักษ์ ได้ทำใจไว้แล้ว 50% และหากศาลกัมพูชาตัดสินว่านายศิวรักษ์ผิดจริงก็จะไม่ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คดี แต่จะขอใช้สิทธิยื่นขออภัยโทษทันที โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ประสานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะ ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ขณะเดียวกันนางสิมารักษ์ จะพักอยู่ที่กัมพูชาจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น ซึ่งหากผลคำพิพากษาออกมาทางบวกจะนำ บุตรชายกลับประเทศไทยทันที

* ค้านสืบทอดมรดกการเมือง

ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค และ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเป็นผู้นำในการน้อมรับสนองพระราชดำรัสพระบาทาอยู่หัว มาปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชน โดยนายสุริยะใส กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมในเรื่องความซื่อสัตย์ เสียสละ ไม่ทุจริต โกงกิน

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวอีกว่า วันที่ 27 ธ.ค. นี้ พรรคจะ ประเมินผลงานของรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สำหรับข้อเรียกร้องให้ปรับ ครม. ก็เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ พล.ต.สนั่น จะลาออกจากตำแหน่งแล้วจะยกโควตารัฐมนตรีให้บุตรชายมารับช่วง แทน เนื่องจากทำให้ดูเหมือนว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีหรืองานการเมืองเป็นมรดกทางพินัยกรรม

* แดงเดือดช่วงตัดสินยึดทรัพย์

นายสำราญ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ม็อบเสื้อแดงประกาศยกเลิกการชุมนุมใน วันที่ 10 ธ.ค. นี้ เพราะประเทศไทยยังอยู่ในช่วงการจัดงานมหามงคลระหว่างวันที่ 5-13 ธ.ค. แม้อ้างว่าจะมาร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยให้อดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นผู้นำกล่าวถวายพระพร แต่ก็ไม่เหมาะ สมด้วยกาลเทศะ ควรที่จะไปจัดกันในห้องประชุมในโรงแรมที่ใดที่หนึ่งมากกว่า หาก เกิดเหตุรุนแรงก็เป็นการทำลายบรรยากาศความสุขของคนไทยทั้งประเทศและสวน ทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า คาดว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงในช่วงก่อนตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทที่จะมีขึ้นในปลายเดือน ม.ค. 53 เพราะ เป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ มี 4 ประการ คือ ไม่ต้องรับโทษใด ๆ ได้ทรัพย์คืนเตรียมเลือกตั้งเพื่อเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง ดังนั้นการชุมนุมในช่วงก่อนพิจารณาคดียึดทรัพย์จะเป็นช่วงที่น่ากลัวเหตุการณ์ความรุนแรงมากและมีความพลิกผันทางการเมืองมาก ฝ่ายความมั่นคงต้องเตรียมรับมือให้ดี หากรัฐบาลเอาไม่อยู่รัฐบาลก็ต้องไป

* นปช.ลั่นไม่เลื่อนการชุมนุม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการเลื่อนหรือยุติการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ว่า ข้อเรียกร้องทั้งหมดมาจากกลุ่มคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยอ้างการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาขัดขวางการชุมนุม ทั้งนี้ยืนยันว่าในวันดังกล่าวกลุ่มคนเสื้อแดงยังจะมีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย เนื่อง ในวันรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องปกติที่มีการจัดงานในทุก ๆ ปี และจะไม่มีการเปลี่ยนสถานที่ เพราะเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ส่ง ผลต่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีการจัดงานใด ๆ อีกทั้งการชุมนุมจะ เริ่มในเวลา 12.00-24.00 น. ไม่ยืดเยื้อ ไม่มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยืนยันจะนำผู้ชุมนุมร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร ในเวลา 19.00 น.

* เทพเทือกฮึ่มฟ้องแดงป้ายสี

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกคนต้องน้อมรับพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. มาปฏิบัติ โดยต้อง ทำให้บ้านเมืองมีความมั่นคง และกลับมาเป็นปกติ เพื่อให้ทรงมีความสุข และเชื่อ ว่าคนไทยทั้งประเทศต่างได้ฟังพระราช ดำรัส ในฐานะที่เป็นผู้จงรักภักดี ต้องน้อมรับมาปฏิบัติ

ส่วนที่คนเสื้อแดงยืนยันจะชุมนุม ในวันที่ 10 ธ.ค. นั้น รองนายกฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น อย่างไรก็ตามตนกำลังรวบรวมข้อมูล และให้ฝ่ายกฎหมายติดตามกรณีที่แกนนำเสื้อแดงระบุว่าตนเตรียมขนแรงงานต่างด้าว มาร่วมชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ เพื่อสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายคนเสื้อแดง หากพบว่าคนเสื้อแดงพูดเรื่องดังกล่าวจริง ก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท

* ยันเติ้งไม่น้อยใจหนั่น

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่ได้น้อยใจ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ที่ไม่บอกเรื่องเตรียมวางมือทางการเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร บุตรชาย มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทน เนื่องจาก พล.ต.สนั่น พูดคุยเรื่องนี้กับพรรคมานาน แล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยโดยตรงกับตน พรรคก็ยังไม่ได้หารืออย่างจริงจัง อีกทั้งตนยังไม่นำเข้าหารือกับนายกฯ เพราะนายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องปรับ ครม.

เชื่อว่า พล.ต.สนั่น ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือมีนัยใด ๆ เป็นเพียงต้องการให้บุตรได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งพรรคยังไม่ได้หารือว่าจะให้นายศิริวัฒน์ ชิมลางนั่งเก้าอี้กระทรวงใด เพราะต้องไปตรวจสอบก่อนว่า นายศิริวัฒน์ อายุถึง 35 ปีหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องรอนายกฯ ส่งสัญญาณมาก่อนทางแกนนำคงต้องได้พูดคุยหารือกัน ซึ่งก็แล้วแต่ความประสงค์ของท่าน พรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร และคงไม่แลกกระทรวงหรือปรับเปลี่ยนโควตาใหม่ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาระบุ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook