โจรบราซิลขุดอุโมงค์ขโมยเงินขณะคนดูบอล

โจรบราซิลขุดอุโมงค์ขโมยเงินขณะคนดูบอล

โจรบราซิลขุดอุโมงค์ขโมยเงินขณะคนดูบอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรบราซิลขุดอุโมงค์ไปขโมยเงินจากบริษัทรถขนเงินกว่า 200ล้านบาทขณะคนกำลังดูฟุตบอลกันทั้งประเทศ

(8ธ.ค.) ตำรวจบราซิลเปิด เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า โจรซึ่งใช้เวลาหลายเดือนทำการขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดินจากบ้านเช่าหลังหนึ่งไป ยังบริษัทรถหุ้มเกราะขนเงินแห่งหนึ่ง (Transnacional Transporte de Valores e Seguranca Patrimonial Ltda ) ประสบความสำเร็จในการโจรกรรมเงินสดเกือบ 6 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า200 ล้านบาทไปจากตู้เซฟของบริษัทฯในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอาศัยช่วงจังหวะที่บราซิลแทบจะปิดประเทศ ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลนัดปิดฤดูกาลแข่งขัน

ทางบริษัทรู้ว่าถูกโจรกรรมในคืนวันอาทิตย์ หลายชั่วโมงหลังจากการแข่งขันจบลงและเจ้าหน้าที่พบอุโมงค์ยาว 100 เมตรจากตู้เซฟ ไปยังบ้านเช่าหลังหนึ่ง ซึ่งตำรวจเปิดเผยว่า บ้านเช่าหลังดังกล่าวไม่มีใครอยู่ตอนที่ไปถึง แต่มีคนเช่าก่อนหน้านี้นาน 4 เดือน เชื่อว่าผู้เช่าก่อนหน้านี้คือผู้ต้องสงสัย แต่ยังไม่ได้จับกุมตัวผู้ใด

เว๊ปไซต์"จี วัน"ของสถานีโทรทัศน์"โกลโบ ทีวี "รายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้เข้าไปตรวจดูอุโมงค์เมื่อวันจันทร์บอกว่า อุโมงค์สูง 1 เมตรและกว้าง 1 เมตร ขณะที่ไฟฟ้าที่สำนักงานของบริษัทนี้ถูกตัด และไม่ได้มีการเปิดกล้องรักษาความปลอดภัยในขณะเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้

หนังสือพิมพ์โอ เอสตาโด เดอ เซา เปาโลรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งของบริษัทได้ยินเสียงดังช่วง 17.00 น แต่กำลังมีการแข่งบอลนัดสำคัญที่สุด จึงคิดว่าเป็นเสียงจุดประทัดที่แฟนบอลจุดกันตลอดช่วงบ่าย รายงานข่าวระบุว่าโจรทิ้งถุงเงินเหรียญ
หลายถุงไว้ในอุโมงค์ และตำรวจพบแผนที่อุโมงค์กับถุงใส่ดินในบ้าน คาดว่ามาจากดินที่ขุดในอุโมงค์

เมื่อสองปีก่อน โจรใช้ระเบิดไดนาไมค์ระเบิดเซฟ ได้เงินไปเกือบ 10 ล้านดอลลาร์(ราว 350 ล้านบาทจากบริษัทขนเงินอีกแห่งในนครเซา เปาโล ศูนย์กลางการเงินและการค้าของบราซิลและ เมื่อปี 2548 มีผู้ต้องสงสัย 10 คน ขุดอุโมงค์ใต้ถนนสายหนึ่ง ได้เงินไป กว่า 70 ล้านดอลลาร์(ราว 2,450 ล้านบาท) จากสาขาของธนาคารกลางในเมืองฟอร์ตัลเลซ่า ครองสถิติการปล้นเงินครั้งใหญ่สุดของโลก จนหนึ่งปีต่อมาถึงถูกทำลายสถิติ จากเหตุปล้นโกดังรักษาความปลอดภับแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ได้เงินไปมากกว่า 90 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,150 ล้านบาท)

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook