ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯทรงหนุนค่านิยมไทย มอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ปลอดเหล้า

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงหนุนค่านิยมไทย มอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ปลอดเหล้า เพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วันนี้ (10 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในการพระราชทานโล่และประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบการที่ชนะเลิศการประกวดการจัดกระเช้าปีใหม่ปลอดเหล้า กระเช้าใส่ใจสุขภาพ และหน่วยงานราชการที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวรวม 14 ราย เพื่อรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมการมอบและรับกระเช้าของขวัญไร้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เฝ้ารับเสด็จ โดยนายมานิต นพอมรบดี กราบทูลรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้จัดประกวดกระเช้าปีใหม่ปลอดเหล้า กระเช้าใส่ใจสุขภาพ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมการมอบของขวัญและรับกระเช้าของขวัญปีใหม่ ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติได้ถูกต้อง ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีผู้ประกอบการร่วมเข้าประกวด 11 ราย ผลการตัดสินมีผู้ชนะเลิศและได้รับรางวัลโล่พระราชทาน 4 รายดังนี้ รางวัลชนะเลิศได้แก่ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ รางวัลรองชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่ ห้างท็อปซูเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ตามลำดับ นายมานิต กล่าวว่า ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กำหนดแนวทางการจัดกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่ถูกต้องไว้ดังนี้ ต้องไม่จัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ในกระเช้าของขวัญสำเร็จรูป และต้องไม่จัดทำใบปลิว รายการ ใบแนะนำสินค้า หรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการสื่อสารการตลาดกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะมีความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้จัดส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเพื่อชี้แจงผู้ประกอบการให้ปฏิบัติต่อไป สามารถดูได้ทางเว็บไซต์ www.thaiantialcohol.com โดยได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศเข้าตรวจสอบร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ที่จำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปว่า ดำเนินการตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ถ้าพบการกระทำความผิดให้ทำการตักเตือน หากเป็นการกระทำความผิดซ้ำอีกให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ